พรบ. รถยนต์ไม่คุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง
เราเคยพูดถึงประโยชน์ของพรบ ว่าสามารถช่วยอะไรได้บ้างถ้าหากเราขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุ แต่พรบ ก็เหมือนประกันทั่วไป ที่มีข้อยกเว้นในการคุ้มครองไม่ต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เป็นประกันภัยภาคสมัครใจที่ก็จะมีข้อยกเว้นในการให้การคลุมครองในอุบัติเหตุบางกรณีเช่นกัน วันนี้เรามาทำความเข้าใจว่าข้อยกเว้นเหล่านั้นกันว่ามีอะไรบ้าง
พรบ. รถยนต์ต่างกับประกันรถยนต์ทั่วไปหรือไม่
พรบ. รถยนต์ถือว่าเป็นประกันประเภทภาคบังคับที่รถยนต์ทุกคันต้องมี และเป็นการบังคับต่อพรบ. รถยนต์เป็นประจำทุกๆ ปี ซึ่งพรบ. รถยนต์นี้จะให้ความคุ้มครองเฉพาะตัวผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถยนต์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิด หรือเป็นฝ่ายรถูกก็จะได้รับความคุ้มครองจากพรบ. รถยนต์
ซึ่งจะมีความแตกต่างกับประกันรถยนต์ที่ทุกคนจะรู้จักกันดี ซึ่งมีชื่อโดยเต็มยศว่าประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นตามความสมัครใจของผู้ขับขี่ เป็นการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับรถยนต์ในส่วนที่พรบ. รถยนต์ไม่ได้ครอบคลุม เช่นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ ซึ่งถ้าหากเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ และจำเป็นต้องมีการส่งรถยนต์เข้าศูนย์ซ่อม ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ หากไม่ได้มีการสมัครประกันภัยรถยนต์ไว้ละก็ เจ้าของรถยนต์จะต้องทำการจ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด แต่หากเลือกทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ แม้ว่าในบางครั้งวงเงินคุ้มครองอาจไม่ได้ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ว่าก็สามารถช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายไปได้เช่นกัน
พรบ. รถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายจากอะไรบ้าง?
กรณีที่พรบ จะไม่คุ้มครองความเสียหายหากมีการใช้รถนั้นมีแค่ 4 ข้อดังต่อไปนี้
การขับขี่นอกอาณาเขตประเทศไทย
การขับขี่รถยนต์ออกนอกเขตประเทศไทยเป็นสิ่งที่ทำได้ โดยเฉพาะเช่นการเดินทางข้ามพรมแดนในหลายๆ ประเทศที่อยู่แทบเพื่อนบ้านของเราที่สามารถทำการขับรถเข้าไปทำธุระ หรือว่าท่องเที่ยวได้เลย แต่การเกิดอุบัติเหตุในขณะที่มีการขับขี่นอกอาณาเขตประเทศไทยก็เป็นนอีกเหตุผลนึงที่พรบ. รถยนต์ไม่ได้ให้ความคุ้มครอง ดังนั้นหากต้องขับรถออกนอกประเทศไทยบ่อยๆ ก็ควรทำประกันรูปแบบอื่นเพิ่มเติมไว้ด้วย
ความเสียหายที่เกิดจากการถูกยักยอก กรรโชก รีดเอาทรัพย์
เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวถึงแม้ว่าพรบ. รถยนต์จะไม่ได้ให้ความคุ้มครองแต่อย่างไรก็ตาม เจ้าของก็ควรไปแจ้งความเอาไว้ เผื่อว่าคนร้ายเอารถที่ขโมยไปชน พรบ จะยังช่วยคุ้มครองคนที่คนร้ายขับไปชนได้ โดยให้ผู้ประสบเหตุไปร้องขอที่กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถได้
การนำรถไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
เช่นปล้นทรัพย์ ขนยาเสพติด หรือนำไปใช้ทางที่ผิดกฎหมายอื่นๆ พรบ. รถยนต์ก็ไม่ได้ให้ความคุ้มครองความเสียหายเกิดขึ้นเช่นกัน
การนำรถไปใช้ในการแข่งขันความเร็ว
การแข่งขับความเร็วก็ถือว่าเป็นอีกข้อยกเว้นนึงที่ถ้าหากเกิดความเสียหายขึ้นไม่ว่าจะเป็นพรบ. รถยนต์ หรือว่าประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเองก็ไม่ได้ให้ความคุ้มครองในกรณีดังกล่าว
รู้แบบนี้แล้วหากเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้เลือกใช้ประกันได้ถูกต้องและไม่เสียเวลา