ยกที่ปัดน้ำฝน เวลาจอดรถตากแดด ช่วยยืดอายุใบปัดจริงหรือ
เราอาจเคยทำหรือเห็นรถที่จอดไว้กลางแดด แล้วยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นเพื่อไม่ให้ยางใบปัดสัมผัสแนบอยู่กับกระจก โดยหวังว่าจะยืดอายุใบปัดน้ำฝนไม่ให้เสื่อมสภาพ แต่จริงๆ แล้วการทำเช่นนี้ช่วยยืดอายุได้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การทำต่อๆ กันมาเท่านั้น
การยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น ไม่ช่วยยืดอายุการใช้งาน
ความจริงแล้วการยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นไม่ได้ช่วยยืดอายุการใช้งานอย่างที่เข้าใจ ใบปัดน้ำฝนมีการเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและวัสดุ ดังนั้นการยกหรือไม่ยกจึงไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายังไงใบปัดน้ำฝนก็ยังได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ดี
ผลเสียจากการยกที่ปัดน้ำฝนค้างไว้นานๆ
ในทางกลับกันการยกที่ปัดน้ำฝนค้างไว้เป็นเวลานาน จะทำให้สปริงที่ยึดใบปัดให้แนบชิดสนิทกับกระจก เกิดการยืดตัว สปริงล้า ส่งผลให้แรงกดลงบนกระจกน้อยลง ทำให้ปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง แต่ถ้ายกขึ้นไม่นาน เช่น ตอนล้างรถ หรือทำความสะอาดกระจก จะไม่ส่งผลเสียอะไร
ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายเวลาเปลี่ยนนั้น ยางใบปัดน้ำฝนมีค่าเปลี่ยนเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่ถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุดก้านใบปัดน้ำฝน อาจเสียเงินในกระเป๋าเป็นหลักพันเลยทีเดียว
การดูแลรักษา / การใช้งานอย่างถูกวิธี
หากใบปัดน้ำฝนมีการฉีกขาด มีลักษณะแข็งกรอบ หรือปัดน้ำฝนได้ไม่เกลี้ยง ควรรีบเปลี่ยนทันที และควรใช้ที่ปัดน้ำให้ถูกต้องคือ อย่าใช้ตอนที่กระจกแห้งโดยเด็ดขาด เช่น การปัดเศษฝุ่นออกจากกระจก การทำแบบนี้จะทำให้คมของยางสึก ทางที่ดีควรจะฉีดน้ำใส่กระจกก่อนใช้ที่ปัดน้ำฝนเสมอ และควรทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว หากไม่เช็ดออกเมื่อเปิดที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนจะกวาดเอาเศษฝุ่นผงหรือเศษทรายเล็กๆ กดกับกระจกจนยางฉีกเป็นรอยทำให้การปัดน้ำฝนบนกระจกไม่เกลี้ยงได้