รถพังยับ เสียหายทั้งคัน ประกันยังให้ความคุ้มครองอยู่หรือไม่
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นการทำประกันภัยก็เปรียบเสมือนการซื้อความมั่นใจ ที่จะช่วยรับประกันความปลอดภัย และความเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ แล้วถ้าหากรถยนต์ของคุณเสียหายหนักทั้งคัน การคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองกันแตกต่างกันตามประเภท และเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ ที่ได้มีการทำประกันให้กับรถยนต์ของคุณ ประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้น ก็ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุทั้งรถชนรถ รถยนต์ไฟไหม้ รถยนต์น้ำท่วม หรือสูญหาย แล้วจะมีประกันภัยประเภทไหนบ้างที่จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายทั้งคัน
รถเสียหายทั้งคัน เสียหายโดยสิ้นเชิงดูได้จากอะไร
เมื่อรถเกิดการชน และเกิดความเสียหายทั้งคัน เกิดความเสียหายโดยสิ้นเชิง จนไม่อาจซ่อมได้ สามารถวัดได้ว่ามีความเสียหายมาก หรือน้อย ทางประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองโดยจะทำประเมินค่าความเสียหาย หากมูลค่าความเสียหายของรถยนต์มีจำนวนที่สูงกว่า 70% ของทุนประกัน ถือว่าเป็นรถที่เสียหายโดยสิ้นเชิง และถ้าหากต่ำกว่า 70% ถือว่าเสียหายน้อย สามารถทำการซ่อมได้
สมมติว่ารถยนต์ของคุณมีราคาตลาด ณ ตอนที่ทำประกันภัยรถยนต์อยู่ที่ 1,000,000 บาท ทำประกันภัยชั้น 1 มีทุนประกันอยู่ที่ 800,000 บาท หากมีการประเมินค่าซ่อมแล้วอยู่ที่ 650,000 บาท ซึ่งมีจำนวนที่สูงกว่า 70% ของทุนประกัน จะถือว่ารถยนต์คันนี้ถูกประเมินว่าเป็นรถที่เสียหายทั้งคัน เสียหายโดยสิ้นเชิง
ความคุ้มครองที่รถยนต์ที่เกิดความเสียหายจะได้รับ
1.รถที่ได้รับความเสียหายไม่หนักมาก หรือน้อยกว่า 70% ของรถยนต์
สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายในระดับที่ยังสามารถซ่อมแซมได้ หรือทางบริษัทประกันภัยประเมินว่ามีความเสียหายน้อยกว่า 70 % และมีการประเมินว่ายังสามารถทำการเข้าซ่อมให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิม และสามารถใช้งานได้ตามเดิม โดยที่รถยนต์ต้องไม่ได้เสียหายในขั้นที่รุนแรง หรือไม่ได้เป็นการเสียหายโดยสิ้นเชิง เช่น รถยนต์ยังสามารถวิ่งได้ ใช้งานได้ แต่อาจไม่ได้ประสิทธิภาพเต็ม 100% หรือมีการประเมินความเสียหายที่ต่ำว่า 70% ในกรณีนี้อาจมีหลากหลายตัวเลือกที่ทางบริษัทประกันจะเสนอมาให้ เช่น
- เลือกซ่อมรถกับอู่ซ่อม หรือศูนย์บริการให้กลับมาในสภาพเดิม หรือในสภาพที่ใกล้เคียงก่อนได้รับอุบัติเหตุ
- เปลี่ยนรถยนต์ที่มีสภาพเดียวกับก่อนเกิดเหตุมาทดแทน โดยการเปลี่ยนเป็นรถยนต์มือสองคันใหม่ที่สภาพใกล้เคียงกัน
- ชดเชยเป็นเงินสดทดแทน
ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ของคุณว่ามีการคุ้มครอง และชดเชยให้มากน้อยแค่ไหน ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถเสียหายที่แตกต่างกัน รวมไปถึงวงเงินทุนประกันที่อาจครอบคลุมในบางกรณีเท่านั้น
2.รถเสียหายหนัก ไม่สามารถซ่อมได้ หรือมีความเสียหายมากกว่า 70 %
เมื่อรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และมีการประเมินความเสียหายว่ามีมากกว่า 70% ของวงเงินทุนประกัน จัดว่าเป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุหนัก มีความเสียหายมาก จนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ หรือถ้าหากทำการซ่อมก็อาจไม่สามารถได้ประสิทธิภาพตามเดิม แถมยังใช้ค่าใช้จ่ายสูงจนอาจไม่คุ้มค่าซ่อม หากเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองแล้วก็สามารถเลือกทางออกเป็นการคืนทุนประกันแทนได้ ซึ่งสามารถเคลมได้โดยมีเงื่อนไขที่ทุนประกันของรถที่ทำไว้ต้องไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่ารถยนต์ของตลาดในขณะที่ทำประกันภัย หากรถยนต์ของคุณเสียหาย ประเมินค่าความเสียหาย และค่าซ่อมเกิน 70% ของวงเงินของทุกประกันภัยสามารถเลือกเป็นวิธีโอนซากรถ หรือไม่โอนซากรถให้บริษัทประกันได้ทั้งสองวิธี
โอนซากรถให้ทางบริษัทประกัน
เมื่อเลือกเป็นวิธีการโอนซากรถให้กับทางบริษัทประกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ทางบริษัทประกันเลือกทำการชดเชยให้กับทางเจ้าของรถ หรือผู้เอาประกัน โดยทางบริษัทประกันจะพิจารณาจ่ายคืนทุนประกัน ตามจำนวนทุนประกันที่ทำประกันไว้ เช่น ทุนประกัน 1,000,000 บาท ทุนประกัน ณ ขณะที่ทำไม่น้อยกว่า 80% ของราคาตลาด ก็คือมีทุนประกัน 800,000 บาท เมื่อทางผู้เอาประกันเลือกที่จะโอนซากรถให้กับทางบริษัท และกรมธรรม์จะสิ้นสุดความคุ้มครองทันที
ไม่โอนซากรถให้ทางบริษัทประกัน
โดยทั่วไปเมื่อรถยนต์มีการเสียหายที่มีค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 70% ของวงบริษัทประกันจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ประมาณ 65-70% ของทุนประกัน มีทุนประกัน ณ ขณะที่ทำไม่น้อยกว่า 80% ของราคาตลาด เช่น สมมติประกันภัยรถยนต์ราคา 1,000,000 บาท มีวงเงินทุนประกันอยู่ที่ 800,000 บาท จะได้รับค่าสินไหมทดแทนประมาณ 520,000-560,000 บาท ซึ่งทางผู้เอาประกันที่มีความประสงค์ไม่ต้องการโอนซากรถให้กับทางบริษัทประกันจำเป็นต้องเป็นฝ่ายจัดการซากรถเอง และกรมธรรม์ประกันภัยจะสิ้นสุดความคุ้มครองทันทีเมื่อจบกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนให้ความคุ้มครองบ้าง?
ประกันชั้น 1
ถ้าหากคุณทำประกันชั้น 1 ก็สามารถสบายใจหายห่วงได้ เพราะสามารถเคลมได้อย่างแน่นอน ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่มีทุนประกันเกิน 80% ของราคารถยนต์ ถ้ามีค่าความเสียหายที่เกิน 70% จากยอดของทุนประกัน จำเป็นจะต้องทำการโอนซากไปให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ พร้อมทางบริษัทจะทำการคืนค่าทุนประกันภัยรถยนต์แบบเต็มจำนวนโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าลากรถ ค่าเสื่อมสภาพ
ประกันชั้น 2+ / 3+ (ประเภท 5)
ถ้าหากรถยนต์ของคุณทำประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ มีการประเมินค่าความเสียหายเทียบจากยอดของทุนประกันแล้ว มีจำนวนที่มากกว่า 70% ของทุนประกัน แต่ตัวทุนประกันภัยชั้น 2+ และประกันภัยชั้น 3+ มีวงเงินที่ต่ำกว่า 80% ของราคารถยนต์อยู่แล้ว ถึงจะเป็นรถยนต์ที่เสียหายทั้งคัน หรือเสียหายโดยสิ้นเชิงก็จะไม่จำเป็นต้องโอนซากรถให้กับบริษัทประกัน
ประกันชั้น 2 / 3
สำหรับประกันชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ในกรณีที่รถยนต์เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ทุนประกันภัยไม่สามารถครอบคลุมค่าเบี้ยประกันที่จ่ายได้ และจะให้ความคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่รถยนต์เกิดการสูญหาย ความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
และประกันชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สิน และบุคคลภายนอกเท่านั้น โดยที่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์นั่นเอง
หากคุณกำลังมองประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 SILKSPAN มีให้คุณเลือกมากกว่า 20 บริษัท เบี้ยเริ่มต้นแค่วันละ 750/เดือน ลองเข้ามาดูได้เลยที่ www.SILKSPAN.com