เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

เตรียมตัวซื้อรถมือสองยังไงให้คุ้มค่าสุดๆ


รวมคำถามที่ห้ามพลาด! เตรียมตัวมาซื้อรถมือสองให้คุ้มค่า

ข้อดีของการซื้อรถมือสองคือราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และมีตัวเลือกหลากหลาย แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ที่พลาดไม่ได้คือควรทำประกันภัยรถยนต์ เพราะการขับขี่รถบนท้องถนนอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา วันนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ รถมือสองทำประกันชั้น 1 ได้ไหม วิธีเลือกรถและประกันรถมือสองอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด

 

ซื้อรถมือสองยังไงให้คุ้มค่า?

หลายๆคนที่กำลังเลือกซื้อรถยนต์สักคันอาจจะกังวลว่ารถใหม่ที่ขับออกมาจากศูนย์ ราคาของรถก็จะเสื่อมลงทันที ทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดเงินนั่นก็คือการเลือกซื้อรถมือสองแทน เพราะเป็นทางเลือกการใช้เงินที่ชาญฉลาด รถมือสองราคาถูกกว่ามาก และถ้าเลือกรถมือสองให้ดีก็มีโอกาสที่จะได้รถในฝันที่สภาพรถสมบูรณ์แบบด้วย เรามาดูกันดีเลยว่ามีวิธีเลือกอย่างไร

1. กำหนดงบประมาณในการซื้อ

ก่อนอื่นเราต้องนึกถึงการใช้เงินในชีวิตประจำวันอื่น ๆ เช่น ภาระทางการเงิน ค่าใช้จ่ายรายวัน เงินเก็บรายเดือน และเงินเผื่อใช้ฉุกเฉิน ถ้าได้งบประมาณแล้วก็ลองคิดค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมในระยะยาวเอาไว้ เพราะไม่ว่าจะใช้รถมือสองหรือรถใหม่ก็ต้องคิดคำนวณค่าบำรุงรักษารถยนต์ เพื่อรักษาสภาพรถให้ดีนั่นเอง

2. กำหนดประเภทรถยนต์ที่ต้องการ

รถยนต์มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง แฮทช์แบ็ค หรือรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) นอกจากนี้อาจพิจารณา ที่นั่ง ความจุกระโปรงท้ายรถ พลังงานเครื่องยนต์ เลขไมล์ และฟีเจอร์ต่างๆ หรือถ้าเป็นสายมูอาจเลือกตามสีมงคล รวมไปถึงเรทราคารถมือสองรุ่นที่อยากได้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ารถมือสองแบบไหนที่เหมาะสำหรับการใช้งานของเรา

3. ทดลองขับรถจริง

การได้ทดลองอยู่หลังพวงมาลัยจริงๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าชอบรถคันนั้นหรือไม่ และควรใช้เวลาทดลองขับให้มากพอ ควรขับออกไปถนนจริงเพื่อทดสอบความเร็วและการยึดเกาะถนน นอกจากนี้ก่อนซื้อรถมือสองก็ควรจะทดสอบอุปกรณ์ต่างๆภายในรถยนต์ด้วย เพราะบางอย่างก็อาจใช้งานไม่ได้

4. ตรวจสอบประวัติรถยนต์

ถ้ารถยนต์มือสองเป็นของเพื่อน หรือคนในครอบครัว ขั้นตอนนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรถมือสองจากดีลเลอร์เราควรขอบันทึกประวัติของรถยนต์คันที่เราอยากได้ด้วย ซึ่งจะมีข้อมูลสำคัญอย่างจำนวนอุบัติเหตุและความร้ายแรงที่เกิดขึ้น และตรวจสอบจอไมล์ได้ว่าถูกปรับตัวเลขไปแล้วหรือไม่

5. นำรถมือสองไปตรวจสภาพ

หลังจากตรวจสอบประวัติรถมือสองก็ควรนำรถไปตรวจสภาพกับช่างที่เชื่อถือได้ เรียกได้ว่านี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญก่อนการซื้อรถยนต์ เพราะช่างจะตรวจสอบรถยนต์ทั้งภายในและภายนอกรถอย่างละเอียด แค่นี้เราก็จะรู้สึกสบายใจหลังจากได้รถมือสองไปขับแล้ว และอาจจะลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถได้ด้วย

เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

6. ซื้อรถมือสองกลางปีดีกว่าปลายปี

การเลือกช่วงเวลาในการซื้อรถมือสองให้ดี ก็ถือว่าเป็นเคล็ดลับที่จะได้รถมือสองราคาถูก ซึ่งราคารถยนต์มือสองเตรียมปรับขึ้นช่วงปลายปีและต้นปีให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและความต้องการ อีกส่วนหนึ่งอาจมาจากรถที่ยึดมาจากไฟแนนซ์เริ่มทยอยเข้าตลาดด้วย ทำให้ช่วงกลางปีจะมีรถให้เลือกมากและราคาก็คุ้มกว่า

 

รถมือสองมีกี่ประเภท?

คำศัพท์ที่มักจะใช้ในการแบ่งประเภทรถมือสองจะมีอยู่ 2 คำ คือ “รถบ้าน” และ “รถดีลเลอร์” สำหรับใครที่เป็นมือใหม่และยังไม่รู้เคยซื้อรถยนต์มือสองมาก่อน ก็อาจไม่เข้าใจคำศัพท์สองคำนี้ ซึ่งถือว่ามีคำสำคัญในการแบ่งประเภทของรถยนต์มือสอง

รถบ้าน

คือ รถที่เจ้าของบ้านใช้เอง ประกาศขายเอง เป็นการซื้อขายกันตรงระหว่างเจ้าของรถกับผู้ซื้อ

  • ข้อดี – ได้ซื้อกับเจ้าของรถโดยตรง ผู้ซื้อสามารถถามประวัติของรถได้ รู้สึกมีความจริงใจ
  • ข้อเสีย รถบ้านส่วนใหญ่จะขายตามสภาพ การซื้อ-ขายไม่มีการรับประกัน ต้องดำเนินการทางด้านเอกสารต่างๆเอง

รถดีลเลอร์

คือ ไม่ใช่การซื้อ-ขาย โดยตรงกับเจ้าของ แต่เป็นซื้อ-ขาย ผ่านคนกลางหรือนายหน้า ซึ่งมีทั้งประเภทรถเต้นท์ผ้าใบทั่วไป หรือ รถมือสองที่อยู่ในโชว์รูมทันสมัย

  • ข้อดี – สามารถไปดูรถได้สะดวก มีรถหลายรุ่น หลายปีให้เลือก มีบริการด้านเอกสาร การประสานงานกับสถาบันการเงินให้
  • ข้อเสีย – อาจมีค่าดำเนินการเพิ่มเติม ทำให้ต้องเสียเงินมากกว่าเพื่อแลกกับความสะดวก

รถมือสองมีกี่ประเภท

ขับรถมือสอง ต้องทำประกันรถชั้นไหน?

การทำประกันภัยรถยนต์คือวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายพร้อมกับช่วยลดภาระต่างๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างใช้งานรถยนต์ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถมือสองก็ควรทำประกันภัยเอาไว้

 

รถมือสองทำประกันชั้น 1 ได้ไหม?

รถยนต์มือสองสามารถทำประกันชั้น 1 ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขประกันด้วยเช่นกัน เพราะบริษัทที่รับทำประกันชั้น 1 ส่วนใหญ่จะรับรถที่อายุไม่เกิน 10-15 ปีขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่อยู่ในดุลพินิจของบริษัท อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับรถยนต์ที่อายุ 4-5 ปี ค่าเบี้ยประกันรายปีราคาเริ่มต้นที่เกือบหลักหมื่นหรือหมื่นต้น ๆ พร้อมให้ความคุ้มครองที่รอบด้าน และครบครันมากที่สุด เมื่อเทียบกับประกันชั้นอื่นๆ

 

นอกจากประกันชั้น 1 ควรเลือกประกันชั้นไหน?

เจ้าของรถยนต์ที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป และมีความเชี่ยวชาญในการขับรถเป็นอย่างดี ก็อาจมองว่าประกันชั้น 1 ไม่คุ้มค่า เพราะการคุ้มครองที่มากกว่า ดังนั้นเรามีตัวเลือกความคุ้มครองอื่นๆ ดังนี้

  • ประกันชั้น 2+ มีรูปแบบความคุ้มครองที่คล้ายกันกับประกันชั้น 1 เกือบทุกอย่าง เพียงแค่ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนกำแพง ขูดประตูรั้วบ้าง เฉี่ยวเสาไฟฟ้า เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงและอายุของรถมือสองก็ค่อนข้างเยอะ หรือไม่ตรงกับเงื่อนไขของประกันชั้น 1
  • ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และชั้น 3 เป็นกลุ่มประกันที่ถูกที่สุด เหมาะกับรถยนต์รุ่นเก่าเกิน 10 ปี และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ขับขี่รถยนต์ในชีวิตประจำวัน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่ำ โดยให้ความคุ้มครองรถของผู้ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุรถยนต์เท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม และสูญหาย

 

สรุปซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง?

หลายๆคนเลือกซื้อรถมือสองเพื่อการใช้งานรถยนต์ให้คุ้มค่า นอกจากจะได้รถราคาถูกกว่าแล้ว ก็ต้องเลือกรถมือสองสภาพดีมาใช้งาน และเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ นอกจากนี้การตรวจสภาพรถมือสองก็จะช่วยลดค่าบำรุงรักษาที่ไม่จำเป็นในอนาคตได้อีกด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือประกันรถยนต์ เพราะไม่ว่ารถยนต์ที่ขับจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าก็มีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้เหมือนกัน ดังนั้นคุ้มครองคนที่คุณรักด้วยประกันรถยนต์ดีๆกันเถอะ


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 26/02/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด