อยู่ที่ไหนก็ต่ออายุใบขับขี่ได้ง่ายๆกว่าที่คุณคิด
สำหรับคนมีรถยนต์ก็มักจะมีเรื่องที่สำคัญที่มักจะวนเข้ามาในประจำปีทุกๆ ปี เช่นการต่อประกันรถยนต์ การเอารถเข้าเช็กสภาพประจำปี การจ่ายภาษี แต่ยังมีเรื่องสำคัญอีกสิ่งที่อาจจะไม่จำเป็นต้องทำในทุกๆ ปี แต่ก็มักจะสร้างความกังวล หรือความยุ่งยากให้อยู่เสมอในก็คือ การต่ออายุใบขับขี่นั่นเอง ถึงแม้จะสามารถทำการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ได้แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคนจะรู้ทุกขั้นตอน และจะจดจำขั้นตอนต่างๆ ได้ในทุกๆ ครั้ง ซึ่งใบขับขี่ก็เป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของคนมีรถยนต์ ไม่ต่างไปจากประกันรถยนต์ดีๆ อย่างประกันรถยนต์ชั้น 1 เลยเช่นกัน
อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ต้องทำอย่างไรบ้าง
ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่บ้าน หรือที่ไหนๆ ก็สามารถเข้าทำการอบรมได้ ถือว่าเป็นขั้นตอนหลังจาการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ก็ถือว่าเป็นขั้นตอนในการเตรียมตัวสำหรับต่อใบขับขี่ขั้นถัดไปนั่นเอง ซึ่งในบทความนี้ SILKSPAN จะทำการสรุปมาให้แบบสั้นๆไว้แล้ว หรือว่าอยากจะอ่านแบบรายละเอียดจัดเต็มก็คลิกอ่านได้เลยที่นี่
1.เข้าเว็บลงทะเบียนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
โดยสามารถเข้าได้ที่ DLT-Elearning ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของกรมขนส่งสำหรับการอบรมต่ออายุใบขับขี่โดยเฉพาะ โดยการต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านทาง www.dlt-elearning.com ได้เลย
2.เข้าสู่ระบบ หรือลงทะเบียนสำหรับต่อใบขับขี่
สำหรับคนที่เคยทำการสมัครการต่อใบขับขี่ออนไลน์แล้วก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ และทำการเข้าสู่ระบบเพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไปได้เลย แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยทำการสมัครมาก่อน ก็สามารถทำการลงทะเบียนผู้ใช้งานใหม่ และทำการกรอกรายละเอียดของผู้ที่ต้องการอบรมต่อใบขับขี่ให้ถูกต้อง
3.เลือกประเภทของใบขับขี่ตามที่ต้องการ
โดยใบขับขี่แต่ละประเภทก็มีระยะเวลาในการอบรมที่แตกต่างกัน โดยใช้เวลาตั้งแต่ 1-3 ชั่วโมง แต่สำหรับการอบรมใบขับขี่สำหรับส่วนบุคคลจะใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง
4.ทำ “แบบทดสอบก่อนอบรม”
เลือกหัวข้อ “แบบทดสอบก่อนอบมรม” และทำการทำแบบทดสอบ แนะนำให้ทำแบบทดสอบอย่างตั้งใจ เพราะมีผลต่อการผลการอนุมัติ
5.ดูวิดีโอการอบรมให้จบ
ทำการดูวิดีโอการอบรมให้จบคลิป โดยตั้งใจ และไม่ทำการสลับไปที่หน้าต่างอื่น เพราะในวิดีโอการอบรมนี้จะมีเฉลยคำตอบของคำถามในแบบทดสอบหลังอบรมด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณตั้งดูก็จะตอบคำถามได้ครบแน่นอน
6.ทำ “แบบทดสอบหลังอบรม”
เมื่อทำการดูวิดีโออบรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีคำถามหลังทำการอบรมมาให้ทำ ซึ่งในการตอบแบบทดสอบในรอบนี้ จำเป็นจะต้องถูกต้องทุกข้อ ซึ่งคำตอบของคำถามนี้จะอยู่ในวิดีโออบรมก่อนหน้านั่นเอง
7.แคปหน้าจอผลการอบรมเก็บไว้
เมื่อทำการทำแบบทดสอบหลังอบรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้รับผลอนุมัติให้ทำการแคปหน้าจอผลการอบรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันว่าผ่านการอบมรมในขั้นตอนการทำใบขับขี่กับทางเจ้าหน้าที่ได้เลย
สิ่งที่ต้องรู้เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการอบรมทำใบขับขี่
ใบขับขี่รูปแบบไหนที่สามารถอบรมออนไลน์ได้
1.ใบขับขี่รถส่วนบุคคล
2.ใบขับขี่รถขนส่ง
3.ใบขับขี่รถสาธารณะ
4.ใบขับขี่รถส่วนบุคคลที่ขาดต่อเกิน 1 ปี
5.ใบขับขี่รถส่วนบุคคลที่ขาดต่อเกิน 3 ปี
อายุของผลการอบรม
ผลการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ มีอายุเพียง 6 เดือน นับจากวันที่ทำการอบรมเสร็จสิ้น จึงขอแนะนำว่าให้ทำการจองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วจึงทำการเข้าอบรมการต่ออายุออนไลน์ในภายหลัง เพื่อไม่ให้ผลการอบรมหมดอายุก่อนเวลา
จองคิวต่อใบขับขี่อออนไลน์ต้องทำอย่างไร
1.เข้าสู่ระบบการจองคิว ซึ่งสามารถเลือกเข้าได้จากทั้งทางหน้าเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
- DLT Smart Queue Website
- DLT Smart Queue Application : IOS, Android
2.เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการ
3.เลือกประเภทงานรับบริการเป็น “งานใบอนุญาต”
4.เลือกประเภทของงานที่ต้องการเข้ารับการบริการ เช่น การต่ออายุรถส่วนบุคคล 5 ปี เป็น 5 ปี อบรมผ่านระบบ e-learning
5.เลือกวันที่ และเวลาที่ต้องการจองคิวสำหรับต่อใบขับขี่ ซึ่งวันที่มีคิวว่างจะสามารถคลิกวันดังกล่าวได้ แต่ถ้าเป็นวันที่ที่มีคิวเต็ม จะมีสถานะ “เต็ม” แจ้งอยู่ สามารถเลือกวัน และเวลาอื่นที่สะดวกแทนได้
6.เมื่อจองวันเวลาได้เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำการจัดเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้งานไว้รอสำหรับการต่อใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งที่ได้เลือกไว้ได้เลย
ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างสำหรับการต่ออายุใบขับขี่
ไม่ว่าจะเป็นการต่ออายุใบขับขี่แบบ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือจะเป็นแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี ก็สามารถยืดหลักการเตรียมเอกสารแบบเดียวกันได้เลย
1.ใบขับขี่ใบเดิม
2.บัตรประชาชนตัวจริง
3.ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 30 วันก่อนยื่นคำขอต่ออายุใบขับขี่
สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้หรือไม่?
คำตอบคือ สามารถทำการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ สามารถต่อล่วงหน้า 6 เดือนได้ทั้งแบบการต่อแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี และแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี
ถ้าขาดต่อใบขับขี่ต้องทำอย่างไร?
ขาดต่อเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี
ไม่ต้องสอบปฏิบัติใหม่ แต่ต้องสอบข้อเขียนใหม่ ทั้งแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี และแบบ 5 ปีเป็น 5 ปี
ขาดต่อเกิน 3 ปีขึ้นไป
ทั้งแบบ 2 ปีเป็น 5 ปี และ 5 ปีเป็น 5 ปี จำเป็นต้องอบรม สอบข้อเขียน สอบภาคปฏิบัติใหม่ทั้งหมด
เพียงทำตามคำแนะนำทั้งหมดก็จะสามารถทำให้คุณต่ออายุใบขับขี่ได้ง่ายๆ อยู่ที่ไหนก็ทำได้ เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีใบขับขี่ เป็นไปตามกฎหมายจราจร และทำให้การสัญจรทุกครั้งเพิ่มความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น