รถชนครั้งแรกต้องรับมือยังไง เคลมประกันภัยยากมั้ย

สำหรับการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนเลี่ยงไม่ได้เลยว่าอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช่น เกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะระมัดระวังในการขับขี่มาดีมากพอแค่ไหนก็ตาม จะเป็นรถที่ดี คนขับดี มีใบขับขี่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะปลอดภัยบนท้องถนนเสมอไป เช่น การที่ผู้ขับขี่คันอื่น ผู้ร่วมทางคนอื่นก็ยังมีโอกาสที่มีการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ขับโดยขาดการระมัดระวัง ประมาท และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เช่นกัน การมีประกันภัยรถยนต์ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำประกันชั้น 1 หรือประกันชั้นไหนๆ การมีประกันรถยนต์ก็ย่อมช่วยคุณได้ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนต้องทำอย่างไร เคลมประกันภัยยากมั้ยหาคำตอบได้ที่นี่

เมื่อเกิดรถชน จะเคลมประกันภัยต้องทำอย่างไร?

1.เช็กความเสียหายที่เกิดขึ้น

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ ประคองตัวรถให้ไม่เกิดการไถลไปชนรถคันอื่น หรือว่าวัตถุอื่นที่อาจสร้างความเสียหายเพิ่มเติมได้ ประเมินความเสียหายเบื้องต้นที่รถยนต์ของเราได้รับ หากเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ร้ายแรงให้ทำการให้สัญญาณให้เอารถเข้าสู่ข้างทางเพื่อทำการดำเนินการเรียกประกัน เพื่อทำการไกล่เกลี่ย แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงอาจจำเป็นจะต้องทำการแจ้งตำรวจให้เข้ามาที่จุดเกิดเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วย

2.โทรติดต่อประกัน

เมื่อเราทำการย้ายรถเข้ามาสู่ข้างทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งรถของเรา และคู่กรณี ให้ทำการติดต่อบริษัทประกันรถที่มีเพื่อทำการแจ้งเหตุอุบัติเหตุ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะสามารถทำการเตรียมเอกสารสำคัญ ได้แก่

• กรมธรรม์รถยนต์
• บัตรประชาชน
• ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
• เล่มทะเบียนรถยนต์

ในขั้นตอนนี้ ถ้าหากเป็นการเคลมประกันภัยครั้งแรกสำหรับหลายคน อื่นสร้างความตื่นตระหนกขึ้นได้เช่นกัน สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ หรือผู้ที่ไม่เคยทำเรื่องแจ้งเคลมมาก่อน สามารถขอคำปรึกษาจากทางเจ้าหน้าที่ Call Center ที่กำลังให้บริการเพื่อขอคำแนะนำในการเตรียมตัว เตรียมเอกสาร และเล่าสถานการณ์ให้ฟังโดยคร่าวๆ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการประสานงานรายละเอียดของการเคลมรถไปให้เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องเคลมที่กำลังเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุได้ทราบโดยคร่าวๆ

3.เจ้าหน้าที่เคลมประกันภัยมาถึงจุดเกิดเหตุ และทำเรื่องเคลม

หลังจากการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ Call Center ที่ทำการประสานงานแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เคลมเดินทางมาที่หน้างานที่เกิดการรถชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่เคลมจะใช้เวลาในการเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 20-30 นาที และทางเจ้าหน้าที่เคลมจะทำการตรวจสอบร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมช่วยดำเนินการเจรจาให้แทนตัวผู้ขับ ในกรณีที่ไม่สามารถเคลียร์กันได้โดยง่าย หรือว่าไม่สามารถตัดสินได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูก

เมื่อทำการไกล่เกลี่ยหาข้อยุติได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการทำเรื่องเคลมประกันภัยต่อ พร้อมตัวเราเองจะต้องทำการเลือกอู่ซ่อมด้วย

4.ประกันอนุมัติการเคลมประกันภัย

เมื่อได้มีการอนุมัติการเคลมประกันภัย และได้เอกสารเคลมรถมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถทำการสอบถามคิวซ่อมของอู่ซ่อม และทำการนัดวันเวลาที่สะดวกเพื่อนำรถเข้าไปเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมที่ต้องการ เพื่อทำการประเมินระยะเวลาที่ใช้ในการซ่อมในจุดที่เกิดความเสียหาย หากรถยนต์ของคุณต้องใช้เวลาในการซ่อมนาน และทำให้คุณไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ คุณก็ยังสามารถทำการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับทางบริษัทประกันของคู่กรณีได้เช่นกัน

5.ถ้าหากหาข้อยุติไม่ได้ ให้ทำการแจ้งตำรวจ

ในหลายครั้งการไกล่เกลี่ยอุบัติเหตุรถชนไม่สามารถทำจบได้โดยง่าย อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ที่ต่างฝ่ายมีความคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก และอีกฝ่ายเป็นฝ่ายผิด จึงไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดเอง ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการเคลมรถจะยิ่งยื้อเวลายาวนานขึ้นไปอีก รวมไปถึงอุบัติเหตุที่รุนแรง หรือคู่กรณีกระทำความผิดกฎหมาย เช่น การเมาแล้วขับ การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด ก็สามารถทำการแจ้งตำรวจให้เดินทางมาจัดการตามข้อกฎหมายได้เช่นกัน

รีวิวการเคลมประกันภัย เมื่อรถคุณโดนชน

SILKSPAN มีตัวอย่างการเกิดอุบัติเหตุรถชน และการเคลมประกันภัยครั้งแรก จากสถานการณ์จริง สามารถศึกษาไว้เป็นตัวอย่างได้เลย

1.รถยนต์ของคุณได้ทำการขับขี่มาใน “เลนตรง” เป็นเลนที่ 4 นับจากทางขวามือ

ถ้าหากคุณขับรถไปตรงๆ และผู้ร่วมทางคันอื่นๆ ขับตามสัญลักษณ์จราจรบนพื้นถนนได้อย่างถูกต้อง ก็จะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

2.ทันใดนั้นก็มีรถที่มาจากทางซ้ายมือ ที่เป็นเลนไปทางตรง ต้องการทำการเบี่ยงเพื่อเลี้ยวขวา เข้ามาในเลนของเรา และเกิดการชนขึ้น ผู้ขับขี่ต้องมีสติในการควบคุมรถ ทำการเบรคอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น

3.หลังจากเกิดเหตุรถชน ก็ทำการย้ายรถเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้เกิดการติดขัดของการจราจร และทำการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ในขั้นตอนนี้คุณสามารถทำการถ่ายภาพ และวิดีโอของบริเวณที่เกิดความเสียหายไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และทำการติดต่อบริษัทประกันที่ได้ทำประกันไว้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ Call Center ทำการประสานงานส่งเจ้าหน้าที่เคลมประกันภัยมาดำเนินการต่อที่ ณ จุดเกิดเหตุ

4.เจ้าหน้าที่เคลมใช้เวลาเดินทางมาถึง ณ จุดเกิดเหตุเพียงแค่ 20-30 นาทีเท่านั้น และใช้เวลาในการทำเรื่องเคลมเสร็จสิ้นภายใน 30 นาที ซึ่งรวมเป็นเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าหากคุณเลือกบริษัทประกันที่มีชื่อเสียง และน่าเชื่อถือ บริษัทเหล่านั้นมักจะมีเจ้าหน้าที่เคลมประกันภัยกระจายตามจุดต่างๆ อย่างครอบคลุม และสามารถเดินทางมายังจุดเกิดเหตุรถชนของคุณ และจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ประหยัดเวลาขึ้นได้อีกเยอะมาก

แล้วถ้าคู่กรณีไม่มีประกันต้องทำอย่างไร

หากคู่กรณีของคุณไม่มีประกัน และทำการเสนอเงินสำหรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ขอแนะนำให้ไม่ต้องรับเงินดังกล่าว และให้ทำการติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ของที่มี ให้ทางเจ้าหน้าที่เคลมประกันภัยเดินทางมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยให้แทน เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึงให้ทำการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทางเจ้าหน้าที่พิจารณา หากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วคุณเป็นฝ่ายถูก และคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด แม้ว่าคู่กรณีไม่มีประกันทางเจ้าหน้าที่จะเป็นฝ่ายเจรจา และติดตามค่าเสียหายให้แทนเอง และเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทประกันจะให้ฝ่ายผิดลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะให้อู่ซ่อมทำการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วจะส่งบิลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปให้ฝ่ายผิดรับทราบ ซึ่งฝ่ายหากคู่กรณีไม่มีประกันเป็นฝ่ายผิดจะต้องทำการชดใช้ให้กับทางบริษัทประกันนั่นเอง