เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ระหว่าง “รถใหม่” และ “รถเก่า” ต่างกันหรือไม่


รถใหม่ และ รถเก่า อบรมใบขับขี่ออนไลน์ต่างกันหรือไม่

การต่อใบขับขี่ที่เคยเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก จนทำให้หลาย ๆ คนต้องรู้สึกเบื่อหน่ายแทบจะทุกครั้ง ที่จะต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการดำเนินการกระบวนการต่าง ๆ จนกว่าจะแล้วเสร็จ ในทุกวันนี้ปัญหาเหล่านั้นได้ถูกคลี่คลายลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการใช้ระบบ “อบรมใบขับขี่ออนไลน์” ซึ่งทำให้ขั้นตอน รวบรัด และ รวดเร็ว กว่าที่เคยเป็นอย่างมาก ทว่ายังมีอีกหลายคนที่มีข้อสงสัย เกี่ยวกับการอบรมใบขับขี่แบบออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่องของ “รถใหม่” และ “รถเก่า” ว่าจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันหรือไม่ ? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้

 

เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยการ อบรมใบขับขี่ออนไลน์

ระบบอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ถูกออกแบบ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้การต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ เนื่องจากใบขับขี่เป็นเอกสารสำคัญ สำหรับการใช้รถใช้ถนน จากการปรับเปลี่ยนในช่วงปี พ.ศ. 2546 ที่กรมขนส่งทางบกได้ยกเลิก “ใบขับขี่ตลอดชีพ” เปลี่ยนมาเป็นการต่ออายุในทุก ๆ 5 ปี วัตถุประสงค์เพื่อลดอุบัติเหตุ จากสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจะขับรถ หากการต่อภาษีประจำปีคือการ “ตรวจสภาพรถ” การต่อใบขับขี่ก็ถือเป็น “การตรวจสภาพคน” และขั้นตอนที่เคยยุ่งยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย เมื่อมีการนำเอาระบบ DLT e-Learning มาใช้งาน

 

อัปเดตประจำปี 2567 การอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?

หากใครยังไม่เคยอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะในบทความนี้เราได้นำเอาขั้นตอนการใช้งานระบบ DLT e-Learning มาฝากแบบต้นจนจบ มาดูกันเลยว่าจะมีขั้นตอนการอบรมอย่างไรกันบ้าง

  • กรณีใช้งานครั้งแรก ให้เข้าไปที่ เว็บไซต์ DLT e-Learning จากนั้นเลือกเมนู “ลงทะเบียน”
  • กรอกข้อมูลที่จำเป็นให้ครบถ้วน และ จะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้น
  • เลือกการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ตามประเภทใบอนุญาตขับขี่ที่ครอบครอง
  • ทำแบบทดสอบก่อนอบรม เพื่อทดสอบพื้นฐานความรู้การใช้รถใช้ถนน
  • ดูวิดีโอที่ใช้เพื่ออบรมการต่อใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • ทำแบบทดลองหลังการอบรม และ บันทึกผลการอบรมเพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานการต่อใบขับขี่

เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

ระบบผ่าน DLT e-Learning อบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์แล้ว ยังต้องไปขนส่งไหม ?

เผื่อยังมีใครที่ยังเข้าใจผิด ว่าผ่านการอบรมใบขับขี่ออนไลน์มาเรียบร้อยแล้ว ถือว่าการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เพราะที่จริงแล้วนี่เป็นเพียงหนึ่งในขั้นตอน ของการต่ออายุใบขับขี่เท่านั้น สุดท้ายแล้วเมื่อคุณอบรมจนเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องเดินทางไปที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านเช่นเคย และอย่าลืมเอกสารสำคัญต่าง ๆ อย่าง บัตรประชาชน , ใบรับรองแพทย์ และ หลักฐานยืนยันว่าคุณผ่านการอบรมด้วยระบบ DLT e-Learning เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินกระบวนการอื่น ๆ ให้แล้วเสร็จ

 

ไขข้อสงสัย อบรมใบขับขี่ออนไลน์ระหว่าง “รถใหม่” และ “รถเก่า” ต่างกันอย่างไร ?

ในส่วนของข้อสงสัยที่ว่า ในระหว่างการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ “รถใหม่” และ “รถเก่า” จะมีความแตกต่างกันหรือไม่ เราขอสรุปให้ตรงนี้เลยว่า “ไม่มีความแตกต่าง” ทุกขั้นตอนเหมือนกันทั้งหมด การต่ออายุใบขับขี่ไม่ได้สนใจว่า คุณจะขับรถอะไร รถรุ่นไหน รถใหม่ หรือ รถเก่า สิ่งที่สำคัญคือ ความรู้ด้านกฎจราจร สัญญาณจราจรต่าง ๆ และความพร้อมของร่างกาย ทักษะการขับรถ เพียงเท่านั้น อย่างที่เราบอกไปว่า การต่อใบขับขี่คือการ “ตรวจสภาพคน” ไม่เกี่ยวกับรถแต่อย่างใด

การอบรมใบขับขี่ออนไลน์ ระหว่าง “รถใหม่” และ “รถเก่า” ต่างกันหรือไม่

3 เรื่องที่น่าสนใจ ของการใช้งาน DLT e-Learning อบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์

แม้จะได้คำตอบกันไปแล้ว ถึงเรื่องของสภาพรถไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า ก็ไม่มีความแตกต่างระหว่างการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์แต่อย่างใด ทว่าเนื้อหาดี ๆ ที่เราเตรียมมาให้ในบทความนี้ก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เนื่องจากเราได้นำเรื่องน่าสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการใช้งานระบบ DLT e-Learning มาฝาก ซึ่งเป็น 3 เรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งใช้งานเป็นครั้งแรก ๆ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

1. สามารถใช้งานระบบ DLT e-Learning ผ่านแอปพลิเคชั่นได้แล้ว

การอบรมใบขับขี่ออนไลน์นอกจากจะใช้งานผ่านเว็บไซต์ของ DLT e-Learning ได้โดยตรง ยังมีอีกวิธีที่สะดวกไม่แพ้กันคือการใช้แอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue ซึ่งขั้นตอนการอบรมก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ โดยแอปพลิเคชั่นสามารถใช้งานได้ทั้งในระบบ Android และ iOS นอกจากมีประโยชน์ด้านการอบรมต่ออายุใบขับขี่ ยังสามารถใช้จองคิวเข้ารับบริการ ที่กรมการขนส่งทางบกที่ต้องการได้อีกด้วย

2. ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์อบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่าน DLT e-Learning

ถึงระบบอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้บริการนี้ได้ทั้งหมด เนื่องจากระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ผู้ที่ใช้งานใบขับขี่ที่มีอายุ 5 ปี เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับผู้ที่ถือครองใบขับขี่แบบชั่วคราว (ใบขับขี่ 2 ปี) ได้ และ ผู้ที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกินกว่า 3 ปี ขึ้นไป จะต้องเข้ารับการอบรมที่กรมการขนส่งทางบกเป็นระยะเวลา 5 ชั่วโมงเท่านั้น

3. เมื่ออบรมผ่าน DLT e-Learning แล้วสามารถ Walk in ต่อใบขับขี่ได้เลย

แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ใหม่สักเท่าไหร่ แต่ก็เชื่อว่ายังมีหลายคนยังไม่รู้ ในเรื่องที่ว่าหลังจากอบรมใบขับขี่ออนไลน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถ Walk in ไปที่กรมการขนส่งทางบกใกล้บ้านได้เลย ไม่ต้องจองคิวออนไลน์เหมือนอย่างในอดีต ขอเพียงเอกสารทุกอย่างพร้อม และ สามารถผ่านการทดสอบร่างกายได้ทั้งหมด ก็สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้ในทันที

 

บทส่งท้าย

เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ? ว่าการอบรมใบขับขี่ออนไลน์นั้นสะดวกสบายเพียงใด จะว่าไปแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากการเรียนออนไลน์สักเท่าไหร่ ถือว่าตอบโจทย์วิถีชีวิตในยุค 5G ได้อย่างตรงจุด การใช้รถนอกจากเอกสารสำคัญต่าง ๆ อย่าง ใบขับขี่ เอกสารชำระภาษี และ ประกันภาคบังคับอย่าง พรบ. อย่าลืมมองหา “ประกันภาคสมัครใจ” ติดรถเอาไว้ ซึ่ง SILKSPAN พร้อมยื่นข้อเสนอประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ มีประกันภัยจากกว่า 30 บริษัทชั้นนำให้คุณได้เลือก ได้เปรียบเทียบราคา และ ได้รับส่วนลดสุดพิเศษกว่า 30% หากสนใจติดต่อได้เลยตอนนี้


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 13/08/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด