รวมเรื่องที่ควรรู้ ก่อนเลือกซื้อรถมือสอง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

การซื้อรถมือสองไม่ได้แปลว่าคุณจะได้รถเก่า คุณภาพแย่ หรือ รถที่มีปัญหาเสมอไป เนื่องจากรถมือสองถ้าเลือกดี ๆ ก็เป็นแค่รถมือหนึ่งที่ผ่านการใช้งานมาแล้วเท่านั้นเอง บทความนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับ สำหรับผู้ที่กำลังเลือกซื้อรถมือสอง มีเรื่องอะไรที่คุณควรต้องตรวจสอบ เรื่องเอกสารจะต้องเตรียมอะไรบ้าง และ ในการทำสัญญาควรจะต้องทำอย่างไร พร้อมเรื่องราวน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง เรารวบรวมมาฝากคุณเรียบร้อยแล้วในบทความนี้ ถ้าพร้อมแล้วเชิญรับชมเนื้อหาดี ๆ จากเราได้เลย

5 วิธีเช็ครถมือสอง รู้เอาไว้ไม่โดนย้อมแมวอย่างแน่นอน

รถมือสองคือรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว การตั้งขายส่วนมากแบ่งเป็น 2 กรณีหลัก ๆ คือ“เจ้าของขายเอง” และ “ขายผ่านนายหน้าขายรถ” ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในกรณีใด ผู้ซื้อควรจะต้องตรวจสอบรถให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญคือในกรณีที่ติดต่อกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หากยังไม่ได้เห็นรถจริง ๆ อย่าเพิ่งโอนเงินไม่ว่าจะเป็นค่าอะไรทั้งสิ้น และถ้าในกรณีที่คุณกลัวว่ารถที่คุณกำลังสนใจ จะเป็นการ “ย้อมแมว” นำรถสภาพไม่ดีมาหลอกขาย เรามี 5 วิธีเช็คเบื้องต้น แม้จะเป็นผู้ที่ไม่ชำนาญเรื่องรถ ก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง ดังนี้

1. ตรวจสภาพรถด้วยตาเปล่า มองหาตำหนิของตัวรถ หากเจอจุดไหนให้สอบถามคนขายในทันที เพื่อป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการซื้อรถไปแล้ว
2. เช็คเลขไมล์ ว่าสอดคล้องกับจำนวนปีของรถหรือไม่ ซึ่งโดยเฉลี่ย 1 ปี หากใช้รถเป็นประจำจะวิ่งประมาณ 20,000 กิโลเมตร (ซึ่งอาจเพิ่มลดได้ตามการใช้งานของเจ้าของเดิม)
3. มองหารอยอาร์ค ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดจากการประกอบชิ้นส่วนในโรงงาน ภาพมีจุดไหนที่รอยอาร์คผิดเพี้ยนไปจากจุดอื่น ๆ แสดงว่าชิ้นส่วนนั้น ๆ อาจผ่านการชน จนต้องซ่อมแซมมาแล้ว
4. ตรวจสอบตัวเลขตัวถังควบคู่ไปกับการตรวจสอบเอกสารรถ ข้อมูลทุกอย่างควรจะต้องตรงกัน รวมถึงส่วนของสีรถ ทะเบียน ฯลฯ
5. ไม่มีอะไรดีมากกว่าได้ลองขับ ฟังเสียงรถว่ามีอะไรผิดปกติไหม มีการ Test Drive ในช่วงเวลาสั้น ๆ ว่าส่วนต่าง ๆ ทำงานได้ปกติไหม ที่สำคัญคือ ลองเพื่อให้รู้ว่า ขณะขับรถมีความรู้สึกอย่างไร ถูกใจหรือไม่ ?

เอกสารสำคัญที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ สำหรับการซื้อรถมือสอง

หลังจากได้ตรวจสอบสภาพรถมือสอง ที่หมายตาไว้เรียบร้อยแล้ว ได้ข้อสรุปแล้วว่าถูกใจ อยากครอบครองรถคันนี้ ในขั้นตอนต่อมาจะเป็นเรื่องของการเตรียมเอกสาร ขั้นตอนนี้ค่อนข้างสำคัญ ผู้ซื้อควรจะต้องเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย และจะต้องตรวจสอบเอกสารของผู้ขายโดยละเอียดก่อนทุกครั้ง อย่าเพิ่งเซ็นอะไรลงไปหากยังไม่มั่นใจ โดยเอกสารที่ผู้ซื้อควรจะต้องเตรียมก็จะมีดังต่อไปนี้

• สำเนาบัตรประชาชน
• เอกสารเพื่อยืนยันตัวตน สามารถใช้เป็นสำเนาทะเบียนบ้านได้
• หากซื้อแบบจัดไฟแนนซ์ควรต้องเตรียมสเตทเม้นท์ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนเอาไว้ด้วย
• เอกสารสัญญาการซื้อขายรถ (ส่วนมากผู้ขายจะเตรียมเอาไว้ให้)

เอกสารโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถ (ส่วนมากผู้ขายจะเตรียมเอาไว้ให้)

ซื้อรถมือสองทำสัญญาอย่างไร ไม่ให้เสียเปรียบ ปิดโอกาสโดนย้อมแมว

ถ้าสภาพรถมือสองถูกใจ เอกสารเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ในเรื่องของเงินก็จัดการได้ไม่มีปัญหา สิ่งที่ต้องระวังที่สุดจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย หลายคนระวังตัวมาดีตลอด แต่มาตกม้าตายในขั้นตอนสุดท้าย นั่นก็คือ “การทำสัญญา” ซึ่งสัญญาการซื้อขายรถนั้นจะต้องมีลายเซ็นยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปในเอกสาร เราขอแนะนำเคล็ดลับสั้น ๆ อีกสักเล็กน้อย เพื่อป้องกันปัญหาชวนปวดหัวที่อาจตามมาในภายหลัง ดังนี้

• เช็คเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้มั่นใจ

อย่างที่บอกว่า ในการซื้อรถมือสองเอกสารต่าง ๆ ควรจะต้องเตรียมเอาไว้ให้ครบ กรณีฝ่ายซื้อเตรียมเอกสารทุกอย่างมาครบตามที่เราลิสต์เอาไว้ให้แล้ว ทางฝ่ายขายเองก็ต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เอาไว้เช่นเดียวกัน เอกสารก็ค่อนข้างจะคล้ายกัน แต่จะมีเพิ่มเติมในส่วนของเอกสารของตัวรถ (เล่มรถสีฟ้า) ซึ่งจะต้องเป็นเอกสารตัวจริงเท่านั้น และเอกสารอื่น ๆ จะต้องยืนยันว่าเป็นเอกสารจริง ข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง

• อ่านรายละเอียดสัญญาซื้อขายให้ละเอียด

การซื้อรถมือสองจะต้องใช้ “สัญญาซื้อ-ขายรถยนต์” ก่อนเซ็นต้องเช็ครายละเอียดภายในสัญญา เงื่อนไขสัญญาต่าง ๆ จะต้องยุติธรรม เงื่อนไขตรงตามที่พูดคุยตกลงกันไว้ หากมีส่วนไหนรู้สึกติดใจให้รีบแย้งกับผู้ขายในทันที เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไม่มีสิ่งผิดปกติค่อยเซ็นสัญญา โดยสัญญาตัวจริงจะมีอยู่ 2 ฉบับ ซึ่งในแต่ละฉบับเนื้อหาในสัญญาจะต้องเหมือนกัน พร้อมกับลายเซ็นกำกับข้อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ลงวันที่ สถานที่ทำสัญญา ให้เรียบร้อย

• กรรมสิทธิ์การครอบครองรถ

เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ถูกหลอกจากรถที่มีประวัติไม่ดี ก่อนการซื้อรถมือสองควรจะต้องเช็คในส่วนของ “กรรมสิทธิ์ครอบครองรถ” ซึ่งต้องตรงกับชื่อและเอกสารของผู้ขายเท่านั้น หากไม่ตรงเป็นการทำการแทน จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถตัวจริง ซึ่งชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของรถ ตรวจสอบได้จากเล่มรถเล่มสีฟ้า ถ้าชื่อไม่ตรงไม่ควรกระทำการซื้อขายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีคำพูดเชิญชวน ส่วนลดสุดพิเศษ หรือ อะไรล่อตาล่อใจก็ตาม

ซื้อรถมือสองควรซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนดี ?

เป็นเรื่องที่ถูกถามเข้ามาเยอะพอสมควร ว่าการซื้อรถมือสองมาใช้ ควรจะซื้อประกันชั้นไหนดี ? สำหรับคำตอบในข้อสงสัยนี้ เราคงต้องขออนุญาตให้คำแนะนำจะดีกว่า เพราะเราไม่สามารถการันตีว่าประกันแบบไหนจะเหมาะที่สุด หากเป็นรถที่ยังมีอายุไม่เยอะ ประมาณไม่เกิน 4-5 ปี และมีสภาพรถดีไม่มีความเสียหาย ไม่เคยผ่านการชนหนัก สามารถซื้อประกันชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองสูงสุดได้เลย ถ้าสภาพไม่เต็ม 100 และ อายุการใช้งานเยอะ ก็ลดชั้นประกันลงมาตามความพึงพอใจ แต่ถึงอย่างไรขอแค่มีประกันติดรถเอาไว้ก็เพียงพอ

บทส่งท้าย

เราหวังว่าเนื้อหาในบทความนี้ จะมอบประโยชน์เกี่ยวกับการซื้อรถมือสองให้กับผู้อ่าน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกย้อมแมวขายรถสภาพไม่ดีให้ หรือ ในกรณีที่เลวร้ายสุด ๆ คือการถูกมิจฉาชีพล่อลวง หากซื้อรถที่อยากได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมซื้อ “ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ” ติดรถเอาไว้ อย่างน้อย ๆ ทำประกันชั้น 3 เอาไว้ก็ยังดี แต่ถ้าอยากได้คำแนะนำประกันภัยที่ดีที่สุด และ บริการเสริมอื่น ๆ เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ SILKSPAN พร้อมให้คำปรึกษาได้ทุกความสงสัยเรื่องประกันรถยนต์