ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง แนะนำเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ อัปเดตล่าสุด 2567

คุณเคยได้ยินคำนี้หรือไม่ ? “ครั้งแรกเป็นเรื่องยากเสมอ” แน่นอนว่านั่นนับรวม กับเรื่องของการต่อใบขับขี่รถยนต์เอาไว้ด้วย หากนี่คือครั้งแรกของคุณอย่างที่เราได้เกริ่นไป เชื่อว่าคุณคงมีเรื่องอยากรู้หลายต่อหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของเอกสาร เพราะมีหลายคนที่สงสัยเหมือน ๆ กันว่า จะต่อใบขับขี่ต้องใช้อะไรบ้าง หากคุณก็กำลังหาคำตอบเช่นเดียวกัน แล้วกำลังอ่านบทความนี้อยู่ คุณมาถูกทางแล้ว เพราะบทความนี้ SILKSPAN จะนำเอาคำตอบของทุกข้อสงสัยมาฝาก มาดูกันเลยว่าเนื้อหาที่เตรียมมาฝากจะน่าสนใจมากน้อยเพียงใด ?

เช็กลิสต์ ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง ? เตรียมเอกสารให้พร้อม รับรองไม่มีเสียเที่ยว

เรื่องต้นกันด้วยข้อสงสัยที่ว่า ต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง ? ในที่นี้แน่นอนว่าจะต้องหมายถึง “เอกสาร” สำหรับใครที่กำลังกังวล ว่าจะต้องวิ่งเต้นหาเอกสารให้ยุ่งยาก ขอบอกเลยว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะสิ่งที่คุณเตรียมมีเพียง 2 อย่างเท่านั้นคือ “บัตรประชาชนตัวจริง” และ “ใบรับรองแพทย์” ซึ่งจะต้องใช้ภายใน 1 เดือนหลังจากวันที่ออกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นการต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี หรือ จาก 5 เป็น 5 เอกสารต่อใบขับขี่ที่ใช้ก็เหมือนกัน

ไขข้อสงสัย ต่อใบขับขี่รถยนต์ ไม่ใช้บัตรประชาชนตัวจริงได้ไหม ?

หัวข้อเมื่อสักครู่ เราได้แนะนำไปแล้ว ว่าการต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ก็มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น หากขาดเอกสารใดไป จะถือว่าไม่สามารถต่ออายุใบขับขี่ได้ เพราะฉะนั้นในข้อสงสัยที่ว่า ต่อใบขับขี่รถยนต์ไม่ใช้บัตรประชาชนตัวจริงได้ไหม ? คำตอบคือ “ไม่ได้” เพราะฉะนั้นก่อนจะออกจากบ้าน อย่าลืมเช็กบัตรประชาชนให้พร้อม หากใครบัตรชำรุด หรือ สูญหาย ก็แนะนำว่าให้ทำใหม่ให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยยื่นเรื่องต่ออายุใบขับขี่ เพื่อป้องกันการเสียเวลาโดยใช่เหตุ

นอกจากเอกสาร การต่อใบขับขี่ต้องเตรียมอะไรอีกบ้าง ?

ไม่ใช่แค่เอกสารต่อใบขับขี่เท่านั้นที่คุณต้องเตรียมพร้อม เพราะการต่อใบขับขี่นั้นมีอีกหลายสิ่งที่คุณควรต้องเตรียมพร้อม เพื่อให้ขั้นตอนต่าง ๆ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาติดขัดจนต้องย้อนกลับมาต่อใบขับขี่ใหม่ในภายหลัง อย่างที่เรากล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่ ว่าเอกสารทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ จะต้องเตรียมให้พร้อมห้ามขาดโดยเด็ดขาด มาดูกันต่อเลยว่ามีอะไรอีกบ้างที่คุณจะต้อง “เตรียมพร้อม” กันบ้าง

• อบรมออนไลน์เพื่อลดขั้นตอนให้น้อยลง

ในทุกครั้งที่ต้องต่อใบขับขี่รถยนต์ จะมีขั้นตอนการอบรมภาคทฤษฎี ซึ่งจะเป็นการทบทวนกฎจราจร และ สัญญาณไฟต่าง ๆ ถ้าในกรณีต่อใบขับขี่โดยทั่วไป ไม่ได้ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกินที่กำหนด จะใช้ระยะเวลาการอบรมจำนวน 1 ชั่วโมง ผ่านระบบออนไลน์ พร้อมทำแบบทดสอบหลังอบรมเสร็จ ถ้าไม่อยากเสียเวลาต้องมานั่งอบรมที่สำนักงานขนส่ง ก็ควรเข้ารับการอบรมออนไลน์ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีที่สุด เพราะสามารถลดระยะเวลาการดำเนินการไปได้ถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว

• เตรียมตัวเข้ารับการทดสอบร่างกาย

นี่คือจุดไคล์แม็กซ์ของการต่อใบขับขี่รถยนต์ เพราะมีหลายคนที่เสียเวลาอยู่กับขั้นตอนนี้ “การทดสอบร่างกาย” จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของสายตา และปฏิกิริยาตอบสนอง ถ้าใครที่มั่นใจว่าสุขภาพแข็งแรงปกติ ไม่มีปัญหาตาบอดสี ก็ควรต้องพักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากในกรณีที่ร่างกายอ่อนล้า หรือ มีอาการเมาค้าง ปฏิกิริยาตอบสนองจะช้าลง และ บางครั้งอาจมีอาการตาพร่ามัว ทำให้มีโอกาสที่จะไม่ผ่านการทดสอบร่างกายได้

• ถ้าไม่ค่อยมีเวลาอย่าลืมจองคิวออนไลน์

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่จำเป็นจะต้องต่อใบขับขี่รถยนต์ ขอแนะนำว่าให้จองคิวออนไลน์ผ่านระบบ “DLT Smart Queue” ในช่วงเวลาที่สะดวกที่สุด ซึ่งจะเป็นการล็อกคิวในช่วงเวลานั้น ๆ เอาไว้ล่วงหน้า เมื่อถึงวันเวลาที่กำหนดก็สามารถเดินทางไปใช้บริการ ที่สำนักงานขนส่งซึ่งจองเอาไว้ได้เลย เพราะจะได้รับสิทธิ์ใช้บริการก่อน ผู้ที่ WALK IN เข้ามาใช้บริการ เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก โดยเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑล

ต่อใบขับขี่รถยนต์ไม่ทัน ซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ไหม ได้รับความคุ้มครองหรือไม่

เนื่องจากใบขับขี่ตามปกติแล้วมักจะต่อทุก ๆ 5 ปี นั่นเลยอาจทำให้บางคนหลงลืมวันเวลาที่ใบขับขี่จะหมดอายุ หากช่วงเวลานั้นประกันรถยนต์เกิดหมดขึ้นมา อาจทำให้หลายคนกังวลว่า ถ้าใบขับขี่หมดอายุ ยังจะซื้อประกันรถยนต์ได้หรือไม่ ? และ ได้รับความคุ้มครองหรือเปล่า ? ในข้อสงสัยส่วนนี้เราขอสรุปให้สั้น ๆ เลยว่า “ซื้อได้ตามปกติ” และ ยังได้รับความคุ้มครองเหมือนเช่นเคยอีกด้วย เพียงต้องระวังเรื่องของโทษปรับ หากใครไม่อยากปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ สามารถต่ออายุก่อนวันหมดอายุล่วงหน้าสูงสุดถึง 6 เดือน

บทส่งท้าย

เมื่อได้รู้กันไปแล้ว ว่าเอกสารสำคัญที่ใช้ในการต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง ? เมื่อถึงวันจริงที่จะต้องเดินทางไปสำนักงานขนส่ง ก็อย่าลืมเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนก้าวเท้าออกจากบ้าน เพียงเท่านี้การต่อใบขับขี่รถยนต์ก็จะสำเร็จลุล่วงอย่างง่ายดาย และเมื่อมีใบขับขี่แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ สำหรับการใช้รถใช้ถนนคือ “ประกันภัยรถยนต์” เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ เพราะเราไม่รู้ว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะมาหาเราเมื่อไหร่ ให้ SILKSPAN ช่วยเลือกประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง