เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

โรคประจำตัวอะไรบ้าง เป็นแล้วห้ามทำใบขับขี่


สรุปรวมโรคประจำที่เป็นแล้วห้ามขับรถ ห้ามทำใบขับขี่

การขับขี่รถยนต์บนท้องถนน นอกจากยานพาหนะที่ต้องคอยตรวจสอบสภาพให้พร้อมต่อการขับขี่เท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพผู้ขับขี่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างยิ่งต้องระวังเพราะอาจเกิดอาการกำเริบขณะขับขี่จนกลายเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจถึงเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับโรคประจำตัวที่ห้ามขับขี่เพื่อที่จะทราบก่อนไปทำใบขับขี่กัน

โรคประจำตัวมีผลต่อการขับขี่อย่างไร?

คำว่าโรคประจำตัวนั้นคือโรคที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และเกิดได้แบบเรื้อรังที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ผู้ป่วยต้องมีการพบแพทย์อยู่เสมอ และรับประทานยาตามแพทย์สั่งร่วมด้วย ซึ่งบางโรคนั้นมีผลทำให้สมรรถภาพในการขับขี่ลดลงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะโรคที่เมื่อเกิดอาการกำเริบแล้วไม่สามารถควบคุมตัวเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อการขับขี่ได้ ดังนั้นในการทำใบขับขี่รถยนต์จึงต้องแสดงผลการตรวจร่างกายด้วย

สรุปรวมโรคประจำที่เป็นแล้วห้ามขับรถ ห้ามทำใบขับขี่

โรคประจำตัวที่กฎหมายระบุว่าห้ามขับรถ

สำหรับโรคประจำตัวที่มีข้อกำหนดไว้ว่าห้ามขับรถ และไม่สามารถสมัครทำใบขับขี่ทั้งแบบออฟไลน์หรือทำใบขับขี่ออนไลน์ได้มีทั้งหมด 9 โรคด้วยกัน คือ

1. โรคหัวใจ

ผู้ป่วยที่มีภาวะของโรคหัวใจนั้นอาจมีอาการผิดปกติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กดดันและต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ทำให้เกิดอาการของโรค เช่น แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก รวมถึงหมดสติจนไม่สามารถควบคุมรถได้

2. โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้

โรคเบาหวานที่อยู่ในระยะเกินควบคุมจะไม่สามารถขับรถได้ เนื่องจากเมื่อมีอาการของโรคเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการหน้ามืด สายตาพร่ามัว และมองเห็นได้ไม่ชัด ซึ่งทำให้เสียการควบคุมจนเกิดอุบัติเหตุได้ แต่กรณีที่อยู่ในระยะที่ควบคุมได้ใช้ชีวิตได้ตามปกติก็สามารถทำใบขับขี่ได้

3. โรคเกี่ยวกับสายตา

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา การมองเห็นที่พร่ามัว มองเห็นไม่ชัด หรือมองสีของสัญญาณไฟผิดพลาด ไม่แนะนำให้ทำใบขับขี่รถยนต์เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาระหว่างขับขี่ ทำให้การตัดสินใจคลาดเคลื่อนและเกิดอันตรายได้

4. โรคข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม

โรคข้อเสื่อม เป็นโรคที่มีข้อกำหนดไว้ชัดเจนว่าไม่ควรสมัครทำใบขับขี่ออนไลน์หรือออฟไลน์ เนื่องจากเป็นปัญหาที่จะทำให้รู้สึกเจ็บจนไม่สามารถเหยียบเบรกหรือคันเร่งได้ ซึ่งก็อาจเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้

เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

5. โรคความดันโลหิตสูง

ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง คือตั้งแต่ 140/90 ขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะรู้สึกวิงเวียน อ่อนเพลีย หรือมีภาวะใจสั่น เป็นลมหน้ามืด และหากเกิดขึ้นขณะขับขี่ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้

6. โรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท

การทำใบขับขี่ไม่เพียงแค่การทดสอบเรื่องกฎระเบียบในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังมีการทดสอบเรื่องระบบประสาทและการตัดสินใจด้วย ดังนั้นผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องสมองและระบบประสาท ไม่สามารถขับขี่รถยนต์ได้ เพราะเมื่อมีการที่ต้องตัดสินใจหรือหลงลืม นอกจากจะเสี่ยงต่อการหลงทางแล้วยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

7. โรคลมชัก

หลายคนคงจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่มาจากสาเหตุของโรคลมชัก ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่ไม่ควรทำใบขับขี่รถยนต์เพราะกฎหมายห้ามขับขี่ โดยโรคนี้ทำให้เกิดอาการแขนขาชา เห็นภาพหลอน และมีอาการกระตุกต่างร่างกายจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

8. โรคพาร์กินสัน

โรคประจำตัวที่มีกฎหมายระบุว่าห้ามขับขี่และไม่สามารถสมัครทำใบขับขี่ออนไลน์ได้ เพราะโรคนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับลมชัก ด้วยอาการที่กล้ามเนื้อกระตุก มือและขาสั่น ทำให้สมรรถภาพในการขับขี่ไม่เป็นไปตามปกติ เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย

9. โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นโรคที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ตามปกติ ทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือด อาการของโรคนี้ยังทำให้แขนขาชา ปากเบี้ยว ทรงตัวลำบาก รวมถึงการมองเห็นที่เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นโรคที่ไม่เหมาะทำใบขับขี่เนื่องจากความเครียดบนท้องถนนอาจทำให้เกิดอาการกำเริบขึ้นได้

โรคประจำตัว เช็กให้ชัวร์ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

ทั้งหมดนี้ก็คือโรคประจำตัวที่มีผลต่อการขับขี่โดยตรง และเมื่อมีภาวการณ์กำเริบของโรคเกิดขึ้นยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุที่นอกจากจะมีความเสียหายต่อตัวเองแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นด้วย ดังนั้นแล้วก่อนตัดสินใจทำใบขับขี่ อย่าลืมตรวจสุขภาพร่างกายของตัวเอง เพื่อสำรวจดูว่ามีความพร้อมหรือมีความเสี่ยงต่อการขับขี่รถยนต์หรือไม่ นอกจากนี้ผู้ที่กำลังรับประทานยาเพื่อรักษาโรคอยู่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวดูก่อนว่ายาที่ทานมีผลต่อการง่วงซึม หรือมีผลลัพธ์กับร่างกายแบบไหนหรือไม่ เพื่อให้ขับขี่ปลอดภัยและมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 23/10/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 30 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด