ประกันรถชั้น 1 เคลมบ่อย ๆ ได้หรือไม่ จะมีผลเสียอะไรหรือเปล่า

เมื่อพูดถึงรถการทำประกันแล้ว เชื่อว่าคนที่เป็นเจ้าของรถคงจะทราบกันดีว่ารถยนต์ที่มีประกันย่อมดีกว่าการไม่มีแน่ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้เลยว่าในเส้นทางที่เดินทางนั้นจะมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือไม่ ประกันรถชั้น 1 จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์และให้ความคุ้มครองได้มากที่สุด แต่การมีประกันชั้น 1 นั้นจะเคลมได้จำกัดจำนวนหรือไม่ แล้วการเคลมบ่อยมีผลเสียกับประวัติรึเปล่า ไปลองหาคำตอบกันได้ในบทความนี้

ประกันรถชั้น 1 เคลมได้สูงสุดกี่ครั้ง?

เมื่อเจ้าของรถยนต์เลือกทำประกันชั้น 1 แล้ว การแจ้งเคลมประกันรถนั้นสามารถ “เคลมได้ไม่จำกัดครั้ง” เพียงแต่ต้องอยู่ในช่วงปีที่ทำประกันรถยนต์ไว้เท่านั้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าถ้าในปีนั้นมีการแจ้งเคลมไปแล้วหลายครั้งโดยเฉพาะเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันมาก ก็มีโอกาสที่บริษัทประกันจะขอยกเลิกกรมธรรม์ได้เช่นกัน เนื่องจากบริษัทประกันประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงกรณีที่มีความเสียหายมากเกินกว่า 70% ของทุนประกันก็มีโอกาสที่จะยกเลิกกรมธรรม์ได้เช่นกัน

ทำไมถึงไม่ควรเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 บ่อย

การเคลมประกันรถยนต์เป็นเรื่องปกติ และสามารถทำได้ เพราะเจ้าของกรมธรรม์มีสิทธิ์ที่จะแจ้งเคลมได้ตามเงื่อนไขในประกันภัยชั้น 1 ที่ระบุเอาไว้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของรถแจ้งเคลมประกันรถ “บ่อย” เกินไป หรือติดต่อกันในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน คือ

1. ค่าเบี้ยประกันครั้งต่อไปสูงขึ้น

หลังจากที่มีการแจ้งเคลมประกันรถยนต์ไปแล้ว แน่นอนว่าในปีที่เอาประกันเราอาจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมในการซ่อมรถเลยก็ตาม แต่เมื่อประกันชั้น 1 หมดลง แล้วต้องต่อประกันในปีถัดไปสิ่งที่จะตามมาก็คือ “ค่าเบี้ยประกันของคุณจะสูงขึ้นแน่นอน” แต่จะสูงขึ้นขนาดไหนขึ้นอยู่กับการคำนวณของบริษัทประกันภัยซึ่งบางคนอาจเจอค่าเบี้ยสูงขึ้นมากกว่า 50% เลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะทำประกันรถชั้น 1 กับเจ้าเดิมต่อ หรือจะเปลี่ยนไปเจ้าแทน

2. ถูกจำกัดวงเงินความคุ้มครอง

การเคลมประกันรถบ่อย ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยไม่กล้าที่จะการันตีเกี่ยวกับวงเงินความคุ้มครองให้กับเจ้าของรถได้ เพราะต้องประเมินจากสาเหตุการเคลมในแต่ละครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนั้นอาจทำให้กรมธรรม์ฉบับใหม่จำกัดจำนวนวงเงินที่ให้ความคุ้มครอง ทั้งนี้ก็มีข้อดีในเรื่องของค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ที่อาจจะไม่ถูกบวกเพิ่มมากกว่าเดิมมากนัก แต่ข้อเสียคือผู้เอาประกันภัยจะไม่สามารถเคลมแบบไม่จำกัดจำนวนได้อีกแล้ว

3. เสียประวัติและเสียสิทธิ์ส่วนลดในปีถัดไป

หลายคนอาจไม่รู้ว่าการที่เราไม่เคยเคลมประกันรถเลยนั้นมีส่วนกับประวัติที่ดี ซึ่งก็จะถูกนำมาพิจารณาเป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปได้ และยิ่งเป็นผู้ขับขี่ที่ไม่เคยเคลมเลยติดต่อกันหลายปีก็ยิ่งมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันที่สูงเพิ่มขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วสิทธิ์ส่วนลดประวัติดีนั้นจะมีเกณฑ์ในการคิดส่วนลด ดังนี้

• ส่วนลด 20% กรณีที่ไม่มีการแจ้งเคลมในปีแรก
• ส่วนลด 30% กรณีที่ไม่มีการแจ้งเคลมในเวลา 2 ปีติดต่อกัน
• ส่วนลด 40% กรณีที่ไม่มีการแจ้งเคลมในเวลา 3 ปีติดต่อกัน
• ส่วนลด 50% กรณีที่ไม่มีการแจ้งเคลมในเวลา 4 ปีติดต่อกัน

เรียกได้การที่ไม่เคยแจ้งเคลมประกันรถเลยก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้การจ่ายเบี้ยประกันภัยชั้น 1 ลดลงไปได้พอสมควรเลยทีเดียว ทั้งนี้การมีประกันชั้น 1 ให้กับรถยนต์คันโปรดก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ความรู้สึกอุ่นใจในการขับขี่ได้มากทีเดียว และหากจำเป็นต้องเคลมก็สามารถแจ้งเคลมประกันได้ทันที แม้ว่าต้องเสียสิทธิ์ในเรื่องส่วนลดประวัติดีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เคลมประกันแล้วไม่ถูกคิดเบี้ยเพิ่มได้ไหม?

จากที่กล่าวมาหลายคนอาจเริ่มกังวลว่า แบบนี้จะสามารถแจ้งเคลมได้มั้ย หรือควรเก็บไว้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประวัติดีจะดีกว่า ซึ่งก็ต้องบอกว่าที่จริงแล้วการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วไม่ถูกคิดเบี้ยเพิ่มก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกรณีที่เราแจ้งเคลมแล้วเป็นฝ่ายถูก แบบนี้จะไม่นับว่าเสียประวัติและมีโอกาสสูงที่จะไม่ถูกคิดเบี้ยเพิ่ม เช่นเดียวกันการเคลมประกันแล้วเป็นฝ่ายผิดก็มีโอกาสไม่ถูกคิดค่าเบี้ยเพิ่มได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น และจำนวนการแจ้งเคลมในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มีติดไว้อุ่นใจกว่า

เรียกได้ว่าการมีประกันรถชั้น 1 นั้นแม้ว่าจะมีค่าเบี้ยที่สูงกว่าประกันชั้นอื่น แต่ก็มีเงื่อนไขในความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า เพราะถึงราคาค่าเบี้ยต่อปีจะสูง แต่หากไม่เคยแจ้งเคลมมาก่อน หรือเป็นผู้เอาประกันภัยที่มีประวัติดีมาโดยตลอด โอกาสที่จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยในปีต่อ ๆ ไปก็มีความเป็นไปได้แน่นอน