10 วิธีตรวจสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางไกลช่วงเทศกาลอย่างตอนปีใหม่
เข้าสู่ช่วงท้ายของปีกันอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนเริ่มที่จะวางแผนเตรียมตัวไปเที่ยวกันในช่วงปีใหม่กันบ้างแล้ว เพราะวันหยุดยาวแบบนี้คงจะดีถ้าได้เดินทางไปสัมผัสอากาศเย็น ๆ หรือวิวสวย ๆ ที่แตกต่างจากวิวเมืองบ้าง แต่สำหรับคนที่มีแพลนแล้วว่าจะต้องเดินทางไกลเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง เราอยากชวนคุณมาดู 10 เช็คลิสต์ตรวจสภาพรถยนต์เดินทางไกลปลอดภัยสำหรับปีใหม่นี้กัน
1. ตรวจสอบระบบเบรก
ระบบเบรกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เดินทางไกลปลอดภัยได้มั่นใจมากขึ้น ก่อนเดินทางแนะนำให้เช็กระบบเบรกดูว่ามีการเบรกที่เป็นปกติหรือไม่ เช่น ระยะการเบรกยาวขึ้นรึเปล่า หรือเวลาเหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังผิดปกติรึเปล่า นอกจากนี้ควรตรวจสอบดูว่าน้ำเบรกนั้นลดลงหรือไม่ ทางที่ดีควรนำรถตรวจเช็กโดยผู้เชี่ยวชาญก็จะช่วยเพิ่มความสบายใจในระบบเบรกได้
2. ตรวจเช็กระบบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจก
สภาพอากาศในบ้านเรายังมีความไม่แน่นอน ระบบการทำงานของที่ปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจกจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะหากเกิดสถานการณ์ที่ฝนตกหนัก กระจกขุ่นมัว การใช้น้ำฉีดกระจกและที่ปัดน้ำฝนจะช่วยให้การเดินทางช่วงปีใหม่นี้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นแน่นอน
3. ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง
สำหรับใครที่วางแผนเดินทางไกลตอนกลางคืนต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสภาพรถในเรื่องแสงสว่างมากขึ้น ควรตรวจเช็กดูว่าระบบไฟส่องสว่างทั้งหมดของรถนั้นทำงานเป็นปกติหรือไม่ โดยเฉพาะไฟหน้ารถ ไฟเบรก ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน หากพบว่ามีจุดไหนไม่ทำงานให้รีบเปลี่ยนทันที
4. ตรวจสอบแบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญในการจุดสตาร์ต หากแบตเริ่มมีความเสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดปัญหารถสตาร์ตไม่ติด หรือรถดับกลางคันได้ การตรวจสอบสามารถทำได้ด้วยการสตาร์ตรถยนต์ หากรู้สึกว่าใช้เวลานานขึ้นหรือสตาร์ตติดยากขึ้น อาจเป็นสัญญาที่บอกว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่แล้ว
5. ตรวจเช็กสภาพยางรถ
ยางรถยนต์เป็นส่วนที่ต้องปะทะกับพื้นถนนโดยตรง และล้อยางทั้ง 4 ล้อต้องมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่ดีจึงจำเป็นอย่างมากที่ยางต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้ ควรตรวจเช็กดูว่าดอกยางอยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่หรือไม่ เนื้อยางมีร่องรอยปริแตก หรือฉีกขาดให้เห็นรึเปล่า นอกจากนี้ในการเดินทางไกลให้ปลอดภัยปีใหม่นี้ แนะนำให้เตรียมยางอะไหล่ และแม่แรง รวมถึงอุปกรณ์สำหรับกรณีฉุกเฉินติดรถเอาไว้ด้วยดีที่สุด
6. ตรวจเช็กระบบเกียร์
การทำงานของระบบเกียร์ต้องอยู่ในสภาพที่เป็นปกติ และหากมีข้อบกพร่องหรือมีส่วนที่เสียหาย การขับขี่รถยนต์จะได้รับผลกระทบไปด้วย ควรตรวจสอบดูว่าการเข้าเกียร์นั้นมีความผิดปกติ เช่น ดึงเกียร์ยากขึ้นหรือไม่ หรือน้ำมันเกียร์เก่าหรือไม่ หากเป็นไปได้แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ก่อนออกเดินทาง
7. ตรวจสอบแผงควบคุมและหน้าปัด
ภายในรถยนต์เป็นอีกส่วนประกอบสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เมื่อดูแลรักษาภายนอกรถแล้วอย่าลืมดูแลภายใน โดยเฉพาะหน้าปัดและแผงควบคุมคอนโซล ที่คอยบอกการทำงานระบบต่างๆ ของรถยนต์ ขณะสตาร์ตรถควรตรวจสอบดูว่าไฟระบบต่างๆ แสดงขึ้นมาให้เห็นหรือไม่ หากไม่มีไฟแสดงเตือนแนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็กสภาพกับผู้เชี่ยวชาญ
8. ตรวจเช็กระบบแตร
ในการขับขี่บนท้องถนนหากมีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องส่งสัญญาณเตือนผู้ร่วมทาง แตรรถคือสิ่งที่จะช่วยแจ้งเตือนได้ดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่ชอบใช้แตร แต่การขับรถทางไกลให้ปลอดภัยจำเป็นต้องเช็กสภาพของแตรให้พร้อมต่อการใช้งานด้วย
9. ตรวจเช็กแผ่นกรองอากาศ
ระบบแผ่นกรองอากาศคอยทำหน้าที่ป้องกันสิ่งสกปรกจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ซึ่งมีผลให้เครื่องยนต์สึกหรอได้ ก่อนออกเดินทางลองตรวจสอบดูว่าแผ่นกรองอากาศนั้นมีการสะสมของสิ่งสกปรกอยู่หรือไม่ หากมีให้ทำความสะอาดหรือหากจำเป็นให้เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศใหม่จะช่วยเพิ่มความสบายใจให้การขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
10. ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องคือส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการทำงานของระบบเครื่องยนต์ ก่อนเดินทางไกลลองตรวจเช็กดูว่าน้ำมันเครื่องยังมีอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ หรือสีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำรึเปล่า เพราะน้ำมันเครื่องที่พร้อมต่อการใช้งานต้องมีสีเหลืองใส หากเริ่มขุ่นหรือดำให้รีบจัดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทันที
การดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ และการตรวจสภาพรถอย่างละเอียดเป็นหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสบายใจในการเดินทางได้มากขึ้น และเมื่อรถพร้อมใช้การเดินทางไกลปลอดภัยในปีใหม่นี้ก็ย่อมเป็นไปได้ เพื่อให้ได้ความมั่นใจในทุกเส้นทางมากขึ้นอย่าลืมทำประกันรถยนต์ติดไว้ให้ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้ทุกการขับขี่อุ่นใจได้แน่นอน