ประกันรถยนต์ชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 750 บาท/เดือน ที่ SILKSPAN

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเกิดจาก? ยืดอายุการใช้งานอย่างไร?


รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจากอะไร สังเกตและป้องกันได้ไหม

“แบตเตอรี่” ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้า EV เพราะเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อน เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ก็จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งระยะทางวิ่งสูงสุดและความสามารถในการเร่งความเร็ว เพื่อให้คุณสามารถดูแลแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าได้ถูกวิธี ป้องกันไม่ให้แบตเสื่อมก่อนกำหนด SILKSPAN จะพาไปรู้จักกับสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อม พร้อมแนะนำวิธีชาร์จแบตอย่างเหมาะสมเอง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ทั้งสาเหตุที่ควบคุมได้และสาเหตุที่ควบคุมไม่ได้ โดยสาเหตุที่เรานำมาฝากในบทความนี้ จะเป็นสาเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้งานรถที่ไม่เหมาะสม ซึ่งคุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!

1. ปล่อยให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเหลือน้อย

แบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV ก็เหมือนกับแบตเตอรี่มือถือของเรานี่ล่ะ ถ้าคุณปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 20% บ่อย ๆ รับรองว่าแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพไวกว่ากำหนดแน่นอน เพราะการที่แบตเตอรี่มีประจุไฟฟ้าต่ำมาก ๆ จะทำให้เกิดความเครียดกับเซลล์แบตเตอรี่ ที่สำคัญยังอาจทำให้เกิดความเสียหายถาวรได้ด้วย ถ้าจะให้ดี แนะนำให้รักษาระดับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้อยู่ในช่วง 40% – 80% ก็จะดีที่สุด

2. ชาร์จเร็วบ่อยเกินไป

การชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charging) แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าชาร์จบ่อย ๆ ก็ส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าได้เช่นกัน เนื่องจากการชาร์จเร็วจะใช้กระแสไฟฟ้าสูงกว่าปกติ และทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในแบตเตอรี่ ผลที่ตามมาคือ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างรวดเร็ว และทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นนั่นเอง

3. เกิดจากพฤติกรรมการใช้รถที่ไม่เหมาะสม

ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหลายคนอาจไม่รู้ว่า พฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ที่ไม่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นเช่นกัน โดยคนที่ชอบขับขี่แบบกระชาก ชอบเร่งและเบรกแรงบ่อย ๆ หรือชอบบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักเกินกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เกิดความร้อนสะสมและเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นเหมือนกับการชาร์จเร็วบ่อย ๆ เลย

4. จอดรถยนต์ไฟฟ้าทิ้งไว้นานเกินไป

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อมได้ เพราะการที่คุณจอดรถไฟฟ้า EV ทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้มีการใช้งาน หรือชาร์จไฟเลย จะทำให้แบตเตอรี่คายประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อแบตเตอรี่สูญเสียประจุมากก็จะทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ถ้าจะให้ดีที่สุด แนะนำให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมก่อน หรือประมาณ​ 40% – 60% แล้วค่อยจอดรถทิ้งไว้ และควรนำรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้งานทุก 1 – 2 สัปดาห์ ก็จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น

5. ชอบจอดรถกลางแจ้ง

เมื่อเราเอารถไฟฟ้า EV ไปจอดทิ้งไว้กลางแจ้ง สัมผัสกับแสงแดดร้อนจัด จะทำให้แบตเตอรี่ได้รับความร้อนสูง ส่งผลให้เซลล์แบตเตอรี่เสียหายและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง นอกจากนี้ยังอาจทำให้ความจุแบตเตอรี่ลดลงอย่างกะทันหันด้วย สำหรับใครที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้จอดรถในอาคาร หรือเลือกที่จอดรถที่มีหลังคาคอยบังแดดไว้ชั้นหนึ่งก่อนจะดีกว่า

ต่อประกันภัยรถยนต์ก่อนเที่ยวปีใหม่

เช็ก 5 สัญญาณแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อม? SILKSPAN ได้รวม 5 สัญญาณเตือนแบตเตอรี่เสื่อมมาให้แล้ว ลองสังเกตได้จากอาการเหล่านี้เลย!

  • ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งลดลงอย่างชัดเจน เช่น เคยวิ่งได้ 400 กม. ต่อการชาร์จ แต่ปัจจุบันวิ่งได้เพียง 300 กม.
  • ใช้เวลาในการชาร์จนานขึ้นผิดปกติ หรือบางครั้งชาร์จเต็มเร็วผิดปกติ เป็นสัญญาณความผิดปกติของความจุแบตเตอรี่
  • แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติขณะใช้งาน หรือชาร์จไฟ
  • ประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ลดลงเร็วผิดปกติ แม้จะใช้งานในลักษณะเดิม

ทำอย่างไรเมื่อแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม

เมื่อพบว่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีอาการเสื่อม สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยก็คือ นำรถเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ เพื่อประเมินสภาพและความเสียหายของแบตเตอรี่อย่างละเอียด หากแบตเตอรี่อยู่ในช่วงรับประกัน ทางศูนย์อาจพิจารณาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ให้ แต่ถ้าพ้นระยะรับประกันไปแล้ว คุณอาจจะต้องเลือกระหว่างการซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่ หรือเปลี่ยนเฉพาะโมดูลที่เสียหาย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน แนะนำให้สอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับทางศูนย์อีกครั้งหนึ่ง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่เสื่อมเกิดจากอะไร สังเกตและป้องกันได้ไหม

แนะนำวิธีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเหมาะสม

การชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ครบกำหนดอายุการใช้งานที่ควรจะเป็นได้ และไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากอะไรเลย แค่รักษาระดับแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 21% – 80% เลือกชาร์จแบบแบบธรรมดา หรือ AC Charger เป็นหลัก และจำกัดการใช้ที่ชาร์จแบบ DC Charger เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถไฟฟ้าให้ใช้งานไปได้นาน ๆ แล้ว

ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มครองแบตเตอรี่กับ SILKSPAN

จบกันไปแล้วกับการแนะนำ 5 สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมก่อนกำหนดและวิธีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเหมาะสม SILKSPAN หวังว่าจะช่วยให้คุณสามารถดูแลรถไฟฟ้า EV ของตนเองได้อย่างถูกต้อง และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบตเสื่อมไวกว่ากำหนดจนต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

นอกจากต้องใส่ใจเรื่องการชาร์จแบตแล้ว อย่าลืมทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าด้วย เพราะประกันรถไฟฟ้าก็ให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่ได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ความเสียหายที่เกิดกับแบตเตอรี่ รถหาย ถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้มาก

พิเศษ! สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำประกันรถไฟฟ้า หรือกำลังมองหาที่ต่อประกันรถไฟฟ้าอยู่ สามารถจองสิทธิ์ซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากับ SILKSPAN ได้แล้ววันนี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสุดคุ้มสูงสุด 30% ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน พร้อมบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉินและเบิกค่าเดินทาง หากสนใจ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย!


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 02/12/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 20 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด