เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์อย่างไร ให้ได้ราคาดีที่สุด


เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีที่สุด ต้องดูเรื่องไหนบ้าง

ปลายปีแบบนี้น่าจะเป็นช่วงใกล้ต่อประกันรถยนต์ของใครหลายคน และเชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหาประกันรถยนต์จากบริษัทประกันแห่งใหม่ เพื่อให้ได้จ่ายเบี้ยราคาถูกลง หรือให้ความสำคัญกับการเปรียบเทียบค่าเบี้ยกันมากขึ้น ซึ่งถ้าต้องการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีที่สุดและคุ้มค่าตามที่ต้องการ ควรจะเช็คอย่างไร และมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ลองไปดูกันได้ในบทความนี้

ทำไมถึงควรเช็คเบี้ยประกันรถยนต์

ก่อนที่จะดูว่าควรเช็คเบี้ยประกันรถยนต์แบบไหนหรือมีวิธีอย่างไร อยากให้ทุกคนทราบกันก่อนว่า ทำไมถึงควรต้องทำการเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ซึ่งต้องบอกว่าเหตุผลที่ต้องเช็คค่าเบี้ยประกันภัยนั้นเป็นเพราะว่า ค่าเบี้ยที่เราต้องเสียไปในแต่ละปีนั้นมีจำนวนที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อเป็นประกันชั้น 1 ด้วยแล้ว ยิ่งต้องจ่ายในราคาสูงมากขึ้นเพื่อแลกกับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งการเช็คค่าเบี้ยก็เปรียบเหมือนการเปรียบเทียบราคาจากกรมธรรม์ของบริษัทประกันภัยแต่ละเจ้า และใช้เวลากับการไตร่ตรองเรื่องของเงื่อนไขในกรมธรรม์ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นนั่นเอง

การเช็คค่าเบี้ยประกันนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ราคาที่ตอบโจทย์กับความต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเลือกได้ตอบโจทย์และครอบคลุมกับความคุ้มครองที่ต้องการได้อีกด้วย ดังนั้นการเช็คค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก่อนตัดสินใจจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดีที่สุด ต้องดูเรื่องไหนบ้าง

3 ปัจจัยที่ช่วยให้เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ให้ได้ราคาดีที่สุด

สำหรับเทคนิคในการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ให้ได้ราคาดี ที่เราจะแนะนำกันในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยสำคัญด้วยกัน ตามรายละเอียดดังนี้

1. เลือกจากประกันรถยนต์

ราคาของเบี้ยประกันภัยนั้นไม่ได้แตกต่างกันที่บริษัทผู้ให้ประกันภัยเท่านั้น แต่ยังต่างกันตรงเรื่องประกันภัยที่จะทำด้วย ดังนั้นการเลือกประเภทของประกันภัยรถยนต์จะช่วยให้เราตัดสินใจในค่าเบี้ยได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น

  • ประกันภัยชั้น 1 : เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงความคุ้มครองบุคคลทั้งภายในและภายนอก ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม และรถถูกโจรกรรม ซึ่งการให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแบบนี้ก็จะต้องมีค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงตามมาด้วย
  • ประกันภัยชั้น 2+ : ประกันภัยชนิดนี้ได้รับการออกแบบมาให้มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมรองจากชั้น 1 แต่จะต่างกันตรงที่คุ้มครองให้เฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น ขณะที่ความคุ้มในด้านอื่น ๆ จะยังคงมีอยู่ครบ แต่อาจต่างออกไปในเงื่อนไขและจำนวนวงเงินของกรมธรรม์
  • ประกันภัยชั้น 2 : สำหรับประกันภัยชั้น 2 นั้นจะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีและซ่อมให้เฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น แต่ในเรื่องความคุ้มครองที่เกี่ยวกับกรณีรถหาย น้ำท่วม หรือไฟไหม้นั้นวงเงินตามระบุในกรมธรรม์ก็จะลดลง แต่ก็ได้ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ถูกลงเช่นกัน
  • ประกันภัยชั้น 3+ : หากลองเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 3+ ดูมักจะเห็นว่ามีค่าเบี้ยที่ไม่ต่างจากชั้น 2+ มากนักซึ่งจะให้ความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัน แต่จะต่างกันตรงเรื่องไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ แต่บริษัทประกันบางแห่งได้เพิ่มความคุ้มครองส่วนนี้ให้แต่ก็ไม่ได้อยู่ในทุนประกันที่สูงมาก
  • ประกันภัยชั้น 3 : ประกันภัยที่มีค่าเบี้ยถูกที่สุด และมาพร้อมความคุ้มครองที่ต่ำที่สุด ส่วนใหญ่แล้วให้ความคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด และซ่อมเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น ส่วนความคุ้มครองด้านอื่น ๆ ประกันชั้น 3 จะไม่มีมาให้

เที่ยวปีใหม่ปลอดภัย ต่อประกันกับ SILKSPAN ลุ้นรับ voucher จาก BigC มูลค่า 100 บาท

2. เลือกจากบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ

หลังจากที่ตัดสินใจเรื่องของประเภทของประกันภัยได้แล้ว ต้องมาพิจารณาจากบริษัทประกันเพิ่มเติมด้วย โดยสามารถเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์กับทางบริษัทประกันผ่านทางออนไลน์ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและการให้บริการที่ถูกใจ ควรเลือกบริษัทประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือ อาจตรวจสอบจากการรีวิวของผู้ที่ซื้อประกันจากบริษัทนั้น ๆ หรือปรึกษากับทางโบรกเกอร์ประกันภัยเพื่อให้ได้ความคุ้มครองและค่าเบี้ยที่ตรงใจจากบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำที่เชื่อถือได้

3. ตรวจสอบเงื่อนไขและความคุ้มครองจากกรมธรรม์

ปัจจัยสุดท้ายเลยคือการกรมธรรม์ทุกครั้ง เพราะหลังจากเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์จากแหล่งต่าง ๆ และเปรียบเทียบเพื่อได้ความมั่นใจมากขึ้นแล้ว อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขต่าง ๆ ด้วย เพราะส่วนนี้จะเป็นสิ่งที่บอกว่าค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายนั้นคุ้มค่าเหมาะสมกับความคุ้มครองหรือไม่ เช่น ประกันภัยชั้น 1 ที่มีค่าชดเชยให้กรณีที่ส่งรถเคลม หรือบริการที่ให้ความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุหรือมีกรณีฉุกเฉิน ซึ่งผลประโยชน์เหล่านี้จะยิ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการทำประกันภัยรถยนต์ได้

เพื่อความคุ้มค่าที่สุด อย่าลืมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ช่วยให้การเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์มีความคุ้มค่าและเลือกได้ราคาดีที่ตรงใจได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกการทำประกันแบบไหน หรือต้องจ่ายค่าเบี้ยมากหรือน้อย สิ่งสำคัญที่อยากให้ใช้เวลาตัดสินใจมากที่สุดคือการเปรียบเทียบความคุ้มครองกับไลฟ์สไตล์ของการใช้รถของแต่ละคน เพราะเรื่องนี้จะช่วยเพิ่มความสบายใจและมั่นใจให้กับการขับขี่ได้ดีที่สุด รวมถึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ความคุ้มค่ามากที่สุดด้วย


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 08/12/2024
รับข้อเสนอพิเศษ
  1. ส่วนลดสูงสุด 30%
  2. แบ่งจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน (บัตรเครดิต และเงินสด)
  3. บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน และเบิกค่าเดินทาง
  4. บริการเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากบริษัทประกันกว่า 30 แห่ง

กรอกรายละเอียดเพื่อรับข้อเสนอจากพนักงานของเรา

“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”

กำลังโหลด