ขับรถยนต์ไฟฟ้า วางแผนก่อนเดินทางไกลช่วงปีใหม่ 2025 ยังไงดี

หากคุณเป็นคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า แล้วกำลังวางแผนจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงปีใหม่ SILKSPAN มีคำแนะนำการเตรียมความพร้อมก่อนขับรถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลมาฝาก รับรองเลยว่าจะทำให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

5 สิ่งต้องเช็กก่อนขับรถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลช่วงปีใหม่

ถึงแม้การขับรถยนต์ไฟฟ้าเที่ยวต่างจังหวัดจะต้องวางแผนมากกว่ารถน้ำมันทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ ขอแค่คุณเช็ก 5 ข้อต่อไปนี้ให้เรียบร้อย ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาแน่นอน

1. ลิสต์จุดหมายที่จะไปทั้งหมด

ข้อแรกที่จะต้องทำเลยก็คือคุณควรทำแผนเที่ยวปีใหม่ให้เรียบร้อยก่อน โดยจะต้องลิสต์จุดหมายหลัก ๆ ที่ต้องการจะไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร โรงแรม หรือสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อที่จะช่วยให้คุณวางแผนเส้นทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประเมินเบื้องต้นได้ว่าจะต้องแวะชาร์จแบตเตอรี่ที่ไหนบ้าง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ปีใหม่ที่การจราจรจะติดขัดมากกว่าปกติ

2. คำนวณระยะทางระหว่างแต่ละสถานที่

ไม่เพียงแค่ลิสต์จุดหมายเท่านั้น คุณจะต้องคำนวณระยะทางระหว่างแต่ละสถานที่ด้วยว่าห่างกันกี่กิโลเมตร และมีแบตเตอรี่เพียงพอจนถึงจุดชาร์จรถไหม โดยในช่วงปีใหม่นี้ เราแนะนำให้เพื่อระยะทางการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าไว้ประมาณ 20-30% เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างรถติด หรือต้องเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันด้วย และถ้าใครไปเที่ยวภาคเหนือที่ต้องขับรถขึ้นเขา หรือลงเขา ก็ให้เผื่อไว้อีกประมาณ​ 10% เพราะรถ EV จะใช้พลังงานมากกว่าปกติ

3. เช็กว่าต้องแวะชาร์จรถที่จุดไหนบ้าง

เมื่อทราบระยะทางทั้งหมดแล้ว ให้วางแผนจุดแวะชาร์จเลย สามารถพิจารณาจากระยะทางที่รถวิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งรถ EV แต่ละรุ่นจะมีการบอกระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้ไว้ให้อยู่แล้ว โดยเราแนะนำให้วางแผนแวะชาร์จก่อนแบตเตอรี่เหลือ 20% เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาแบตหมดกลางทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่จุดชาร์จรถอาจอยู่ห่างกัน ที่สำคัญยังช่วยเซฟแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน ๆ ด้วย

4. ค้นหาจุดชาร์จรถให้เรียบร้อย

ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะเป็นช่วงที่หลายครอบครัวพากันไปเที่ยวพักผ่อน แน่นอนว่าความต้องการใช้งานจุดชาร์จรถไฟฟ้าก็จะต้องเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้คุณเกิดปัญหาไม่มีที่ชาร์จ หรือต้องไปเสียเวลาต่อคิวได้ เราแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันผู้ให้บริการจุดชาร์จรถ และทำการจองคิวไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง และทำให้การเดินทางราบรื่นไม่มีสะดุด เช่น EV Station PluZ ของ ปตท. หรือ PEA VOLTA ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น

5. ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล

สิ่งสุดท้ายที่ไม่เช็กไม่ได้เลยก็คือการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางไกล ไม่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น รถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็จะต้องตรวจสอบโดย โดยมีหลายสิ่งมากที่คุณจะต้องเช็ก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่รถยนต์ ยางรถยนต์ ช่วงล่างรถยนต์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ระบบไฟต่างๆ ที่ปัดน้ำฝน น้ำมันเกียร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใครที่ไม่รู้ว่าจะต้องตรวจอะไรบ้าง แนะนำให้เอารถยนต์ไปตรวจสภาพกับช่างผู้เชี่ยวชาญก่อนก็จะดีที่สุด

5 เทคนิคขับรถ EV เดินทางไกล ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

นอกจากสิ่งที่ต้องเช็กก่อนขับรถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลแล้ว เรายังมีเทคนิคการใช้งานรถ EV อย่างเหมาะสมด้วย เพื่อช่วยให้คุณใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมถนอมแบตเตอรี่ยนต์ไฟฟ้าให้งานไปได้นานๆ ไม่ต้องเปลี่ยนก่อนกำหนด

1. ชาร์จแบตรถยนต์ประมาณ 70 – 80%

ข้อแรกเลยก็คือ แนะนำให้ชาร์จแบตรถยนต์ไว้ประมาณ 70-80% ก่อนที่จะออกเดินทาง และหลังจากที่ขับรถไปได้สักพักแล้ว แบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 40% ก็ควรหาจุดชาร์จรถสักหน่อย อย่าปล่อยทิ้งไว้จนแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% เพราะจะทำให้เกิดความเครียดกับเซลล์แบตเตอรี่ และทำให้แบตเสื่อมไวขึ้นได้

2. จอดพักรถยนต์บ้างทุก 2 – 3 ชั่วโมง

การจอดพักรถยนต์อย่างน้อย 15 – 30 นาที หลังจากที่ขับรถยนต์ไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยถนอมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้งานได้นานขึ้นเช่นกัน เพราะการที่เราปล่อยให้แบตเตอรี่ร้อนมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความเครียดกับเซลล์แบตเตอรี่ และทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้ไวเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การจอดพักรถยนต์ทุก 2 – 3 ชั่วโมง ไม่ได้เป็นข้อบังคับที่ต้องทำ หลัก ๆ แล้วให้ดูที่ปริมาณของแบตเตอรี่รถยนต์มากกว่า ตราบใดที่ยังอยู่ในระดับที่โอเค หรือประมาณ 40 – 60% และผู้ขับขี่ยังรู้สึกโอเค ยังขับไหว ไม่ได้เหนื่อยล้า หรือง่วงนอน ก็ยังไม่จำเป็นต้องจอดพักก็ได้

3. เติมลมยางให้เรียบร้อย

การเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการใช้พลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้ใช้งานหลายคนมักมองข้ามไป โดยลมยางที่เหมาะสมจะช่วยลดแรงต้าน ทำให้คุณขับขี่ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือทางเลี้ยว

แต่ถ้ามีลมยางน้อยเกินไป จะทำให้รถเฉื่อยและตอบสนองช้าลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่วนการเติมลมยางมากเกินไป จะไม่ส่งผลกับการใช้พลังงาน แต่จะทำให้ยางสึกไวขึ้นกว่าเดิม และยึดเกาะถนนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

4. ขับรถด้วยความเร็วคงที่

การขับรถยนต์ไฟฟ้าด้วยความเร็วคงที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า เพราะในทุกครั้งที่เราทำการเร่งความเร็วบ่อย ๆ หรือเบรกบ่อย ๆ จะทำให้รถ EV ใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น และควรใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เมื่อขับบนทางด่วน หรือมอเตอร์เวย์ด้วย

5. ไม่บรรทุกสัมภาระหนักเกินไป

น้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้รถใช้พลังงานมากขึ้น ก่อนขับรถยนต์ไฟฟ้าเดินทางไกลจึงควรจัดกระเป๋าให้พอดี นำของที่ไม่จำเป็นออก และไม่ควรติดตั้งแร็คหลังคาถ้าไม่จำเป็น เพราะนอกจากจะเพิ่มน้ำหนักแล้ว ยังเพิ่มแรงต้านอากาศ ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม

ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับ SILKSPAN เที่ยวสบายใจ มีคนคุ้มครอง

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาฝากในบทความนี้ จะเห็นได้ว่า การขับรถยนต์ไฟฟ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงปีใหม่ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด ขอแค่คุณวางแผนให้รอบคอบ ทั้งเรื่องเส้นทางและจุดชาร์จรถ พร้อมตรวจสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อย ก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเกิดปัญหามากวนใจ ที่สำคัญอย่าลืมทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าให้เรียบร้อย จะได้เที่ยวอย่างอุ่นใจ ได้รับความคุ้มครองในทุกการเดินทาง โดยที่ SILKSPAN เรามีบริการซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้า ที่มาพร้อมกับสิทธิพิเศษสุดคุ้ม เช่น โปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 30% หรือเลือกผ่อนชำระได้สูงสุด 10 เดือน เลือกผ่อนได้ทั้งผ่านบัตรเครดิตและเงินสด หากสนใจ สามารถจองสิทธิ์ได้ที่ด้านล่างเลย!