
เอารถส่วนบุคคลไปรับจ้างขนของ ประกันภัยรถชั้น 1 คุ้มครองไหม

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังมองหารายได้เสริม อยากเอารถยนต์ส่วนบุคคลไปรับจ้างขนของเพราะสามารถสร้างรายได้เสริมได้ดี แล้วกำลังสงสัยว่า ถ้าในขณะที่เราเอารถไปรับจ้างขนของมีการเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประกันภัยรถชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองไหม? ขอเคลมประกันได้หรือเปล่า? SILKSPAN ได้หาคำตอบมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย
เอารถยนต์ส่วนบุคคลไปรับจ้างขนของ ประกันคุ้มครองไหม
ถ้าคุณนำรถส่วนบุคคลไปใช้รับจ้างขนของ แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ไม่ว่าจะทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนก็ตาม ทางบริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ เพราะถือว่าเป็นการใช้รถผิดประเภท ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ในกรมธรรม์ เพราะรถส่วนบุคคลควรใช้เพื่อกิจส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ หรือแสวงหากำไร
ไม่คุ้มครองรถ แต่คุ้มครองคู่กรณีและผู้โดยสาร
ถึงแม้ว่าประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ เนื่องจากเราใช้รถผิดประเภท แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของคู่กรณี ผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสาร คุณก็ยังสามารถขอเคลมประกันในส่วนนี้ได้ตามปกติ ซึ่งสามารถช่วยแบ่งเบาการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้มาก
ใช้ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับแบ่งเบาภาระได้
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ. รถยนต์) มาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ด้วย โดยจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 80,000 บาทต่อคน มีค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท สูงสุด 20 วัน รวมถึงค่าสินไหมทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิต สูงสุด 500,000 บาทต่อคนด้วย
เมื่อประกันภัยรถยนต์ส่วนบุคคลไม่สามารถคุ้มครองความเสียหายของตัวรถได้ หากคุณต้องการใช้รถเพื่อรับจ้างขนของอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ SILKSPAN แนะนำให้เปลี่ยนไปทำประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในลักษณะนี้โดยเฉพาะจะดีกว่า เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์คืออะไร
ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ คือ แผนประกันที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองรถยนต์ที่ใช้ในเชิงธุรกิจโดยเฉพาะ เช่น รถขนของ รถรับจ้าง หรือรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ารถส่วนบุคคลทั่วไป ทั้งในแง่ของระยะทางการใช้งาน การบรรทุกน้ำหนัก และโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ จึงมีเงื่อนไขความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่แตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป
เงื่อนไขของรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์เชิงพาณิชย์ได้
รถยนต์ที่จะทำประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องจดทะเบียนเป็นรถเพื่อการพาณิชย์กับกรมการขนส่งทางบกให้ถูกต้อง
- มีการระบุวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการพาณิชย์อย่างชัดเจน
- ต้องแจ้งลักษณะการใช้งานและการดัดแปลงตัวรถให้บริษัทประกันทราบ
- ต้องมีใบอนุญาตประกอบการขนส่ง (ถ้าจำเป็น)
- ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการขนส่งอย่างเคร่งครัด
ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ ต่างจากประกันรถทั่วไปอย่างไร
ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากมีความเสี่ยงในการใช้งานที่สูงกว่า แต่ก็จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งสินค้า ความเสียหายต่อตัวสินค้า และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ซึ่งสามารถช่วยลดค่าเสียหายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้มาก ทำให้คุณยังสามารถจัดการธุรกิจต่อไปได้
เทคนิคทำประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ให้คุ้มค่าและตอบโจทย์
การทำประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งาน นอกจากการเลือกแผนประกันที่เหมาะสมแล้ว ยังมีเทคนิคอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาด้วย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. เลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุมสินค้าขณะขนส่ง
เนื่องจากรถขนของมักต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการขนส่งสินค้าที่หลากหลาย การเลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงสินค้าที่ขนส่งจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยคุณควรพิจารณาทุนประกันให้เหมาะสมกับมูลค่าสินค้าที่ขนส่ง และเลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งความเสียหายจากอุบัติเหตุ การสูญหาย และความเสียหายที่เกิดจากการขนถ่ายสินค้าด้วย
2. เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ ไม่มีปัญหาเรื่องการเคลม
การเลือกบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ในการรับประกันรถเชิงพาณิชย์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ โดยเราแนะนำให้เลือกบริษัทที่มีศูนย์บริการครอบคลุมเส้นทางที่คุณใช้งานประจำ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และมีขั้นตอนการเคลมประกันที่สะดวก รวดเร็ว เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด
3. แจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานรถยนต์เชิงพาณิชย์กับเจ้าหน้าที่
การแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานรถให้ชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเลย เพราะจะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำแผนประกันที่เหมาะสม และอาจได้ราคาค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง หรือได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมที่เหมาะกับลักษณะการใช้งานของคุณด้วย เช่น ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันสำหรับรถขนส่งที่มีระบบ GPS ติดตามรถ หรือติดกล้องหน้ารถยนต์ เป็นต้น
4. แจ้งบริษัทประกันทุกครั้งที่มีการดัดแปลงรถ
หากมีการดัดแปลง หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมใด ๆ กับรถขนของ ควรแจ้งให้บริษัทประกันทราบทุกครั้ง เพื่อปรับปรุงความคุ้มครองให้ครอบคลุมส่วนที่ดัดแปลงเพิ่มเติม และป้องกันปัญหาการปฏิเสธจ่ายค่าสินไหมทดแทนในภายหลัง โดยเฉพาะการดัดแปลงที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัย หรือโครงสร้างของรถ
ค้นหาประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ใช่กับ SILKSPAN
การเลือกประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่เหมาะสมอาจดูยุ่งยาก แต่ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของ SILKSPAN ในการให้คำปรึกษาด้านประกันภัย เราพร้อมช่วยคุณเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์การใช้งานและคุ้มค่าที่สุด สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ SILKSPAN มีแผนประกันภัยรถยนต์ให้เลือกหลากหลาย พร้อมบริการผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน สามารถเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองที่ตนเองสนใจได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!