
ไขข้อสงสัย EASY PASS , M PASS และ M-FLOW แตกต่างกันอย่างไร ?

การใช้ชีวิตในเมืองกรุง สิ่งที่น่าจะเป็นเรื่องชวนปวดหัวที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องของการเดินทาง เนื่องจากมีสถิติที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ ในช่วงต้นปี 2025 เพราะกรุงเทพมหานคร ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีรถติด เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ชาวกรุงส่วนมาก เลือกที่จะใช้ช่องทางพิเศษต่าง ๆ เพื่อลดระยะเวลาการเดินทาง บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ EASY PASS , M PASS และ M-FLOW รูปแบบการชำระเงินค่าช่องทางพิเศษในกรุงเทพ มาดูกันว่าแต่ละรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร สามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ?
EASY PASS , M PASS และ M-FLOW คืออะไร ?
ชื่อของ EASY PASS , M PASS และ M-FLOW อาจจะเป็นสิ่งที่ชาวกรุงนั้นคุ้นหูคุ้นตาเป็นอยู่แล้ว เพราะการเดินทางในกรุงเทพ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของปัญหาการจราจรที่สุดแสนจะติดขนัด นั่นจึงทำให้ตัวเลือกอย่างการใช้ “ช่องทางพิเศษ” ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ทางด่วนพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ จึงเป็นชะตากรรมที่เลี่ยงไม่ได้ของคนเมืองกรุง ซึ่งชื่อทั้ง 3 ที่เรากล่าวไปข้างต้น ล้วนเป็นบัตรผ่านทาง หรือก็คือ “วิธีการชำระเงิน” สำหรับค่าผ่านทางของช่องทางพิเศษต่าง ๆ ซึ่งจะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนให้ลดน้อยลง
แยกให้ออก ถึงความแตกต่างระหว่าง EASY PASS , M PASS และ M-FLOW
ถึงจะพอคุ้นชื่อของ EASY PASS , M PASS และ M-FLOW กันดีอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลาย ๆ คนที่ยังสับสนการใช้งานของบัตรผ่านทางทั้ง 3 แม้จะเป็นคนเมืองกรุงโดยกำเนิด ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่มั่นใจการทำงานของบัตรแต่ละชนิดสักเท่าไหร่ เพื่อเป็นการเคลียร์ความเข้าใจให้ชัดเจนมากที่สุด เนื้อหาต่อจากนี้เราจะอธิบายว่าบัตรผ่านทางทั้ง 3 ชนิดมีความแตกต่างกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย
-
EASY PASS
เบื้องต้นต้องแยกให้ออกระหว่าง “ทางด่วนพิเศษ” และ “มอเตอร์เวย์” หากมีเป็นเส้นทางที่ยกระดับขึ้นมาจากพื้น นั่นคือทางด่วนพิเศษ โดยหลักการทำงานของ EASY PASS มีเอาไว้เพื่อจ่ายค่าผ่านทาง เส้นทางหลวงพิเศษในพื้นที่กรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง บนรถจะมีการติดตั้ง Tag เอาไว้ เมื่อขับไปถึงด่านเก็บค่าผ่านทางสำหรับ EASY PASS ตัว Tag จะส่งสัญญาณเพื่อไปเรียกเก็บค่าบริการ แล้วจากนั้นไม้กั้นก็จะเปิดให้ขับผ่านไป ซึ่งใช้ได้เฉพาะกับรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น และจะต้องเติมเงินค้างเอาไว้ในระบบ เติมขั้นต่ำครั้งละ 300 บาท
-
M PASS
M PASS นั้นก็มีหลักการทำงานไม่ต่างอะไรจาก EASY PASS เป็นระบบที่ถูกใช้เพื่อเรียกเก็บเงิน แต่เริ่มแรกจะถูกออกแบบมาเพื่อ ใช้ในเส้นทางมอเตอร์เวย์เพียงเท่านั้น ซึ่งจะเป็นช่องทางพิเศษที่ไม่ได้ยกสูงจากพื้น ทว่าในภายหลังได้พัฒนาให้ M PASS ใช้กับทางด่วนพิเศษได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การใช้งานก็เหมือนกับ EASY PASS ทุกอย่าง ใช้การเติมเงินเอาไว้ในระบบ เมื่อถึงช่องทางจ่ายเงินก็ต้องชะลอความเร็วที่หน้าไม้กั้น เมื่อสามารถรับสัญญาณของ Tag บนตัวรถได้แล้ว ก็จะทำการตัดเงินในระบบ ใช้งานได้เฉพาะกับรถยนต์ 4 ล้อเพียงเท่านั้น
-
M-FLOW
M-FLOW เป็นระบบล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี Video Tolling เพื่อตรวจจับป้ายทะเบียนแบบอัตโนมัติ วัตถุประสงค์เพื่อลดขั้นตอนการใช้งานของทั้ง EASY PASS , M PASS ให้น้อยลง จะเป็นการขับผ่านก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง สิ่งที่ถูกแก้ไขจากช่องทางชำระเงินรูปแบบเดิมก็คือ ในช่องทาง M-FLOW จะไม่มีไม้กั้น ไม่จำเป็นต้องชะลอความเร็ว สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. เพื่อขับผ่านด่านจ่ายเงิน แม้ช่วงให้บริการแรก ๆ จะมีปัญหาเนื่องจากระบบไม่เสถียรบ้าง แต่ตอนนี้ปัญหาทั้งหมดก็ถูกแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

EASY PASS , M PASS และ M-FLOW สามารถใช้ ร่วมกันได้ไหม ?
ด้วยเทคโนโลยีที่คล้ายกัน ทำให้ M PASS สามารถใช้ทดแทน EASY PASS เมื่อต้องใช้ทางด่วนพิเศษได้ แต่กลับกันถ้าเป็นการใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ไม่สามารถใช้ EASY PASS เพื่อชำระเงินได้ และ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง M-FLOW เข้ามา ก็ไม่สามารถใช้ร่วมกับบัตรผ่านทาง 2 รูปแบบเดิมได้ เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นสรุปได้เลยว่า “ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้”
แต่ ! ในปัจจุบันได้มีบัตรรูปแบบใหม่อย่าง EASY PASS Plus ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ M-FLOW สามารถใช้ช่องทาง M-FLOW โดยไม่ต้องไปเสียเวลารอไม้กั้นอีกต่อไป สำหรับใครที่มีบัตร EASY PASS แบบเดิม สามารถนำไปอัปเดตข้อมูล เพื่อให้รองรับการใช้งานแบบ EASY PASS Plus ได้แล้ววันนี้
จำเป็นแค่ไหน ? กับการใช้งาน EASY PASS , M PASS และ M-FLOW
การใช้ชีวิตในกรุงเทพ ในบางครั้งก็ไม่ได้มีชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว อย่างที่ใคร ๆ เขาบอกกัน โดยเฉพาะการเดินทางบนท้องถนน ถ้าไม่ใช้ EASY PASS , M PASS และ M-FLOW คุณก็ต้องไปจอดรถคิวในช่องทางชำระเงินแบบเงินสด ไหนจะต้องหยิบเงิน ไหนจะต้องนับเงิน ไหนจะต้องคอยรับเงินทอน ซึ่งบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ จะมีการจราจรที่ติดขัดเป็นพิเศษ แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสกับการต้องรอคอยในส่วนนี้ ก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องสมัครบัตรผ่านทางทั้ง 3 รูปแบบ อย่างที่เรานำเสนอไปข้างต้น ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แค่อาจจะสะดวกน้อยลงมาหน่อย
บทส่งท้าย
ตัดสินใจได้แล้วหรือยัง ? ระหว่างบัตร EASY PASS , M PASS และ M-FLOW ว่าควรจะเลือกใช้บัตรแบบไหนถึงจะดีที่สุด หากให้เราแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางด้วยช่องทางพิเศษเป็นประจำอยู่แล้ว การเลือกใช้บัตร EASY PASS Plus ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะสะดวกสบายที่สุดแล้วในตอนนี้ ช่วยเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อย่างแน่นอน ไม่มาก ก็น้อย
สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นประจำในทุก ๆ วัน อย่าลืมทำ “ประกันภัยรถยนต์” เพื่อคุ้มครองเมื่อในยามที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน หากคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์อยู่ล่ะก็ SILKSPAN ช่วยคุณได้ ! เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ มีบริการครบวงจรที่ช่วยให้คุณเจอกับความคุ้มครองที่ถูกใจมากที่สุด โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเปรียบเทียบเบี้ยประกันด้วยตนเอง หากสนใจใช้บริการ กรอกข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างบทความนี้ แล้วเราจะรีบติดต่อกลับไปโดยเร็วที่สุด