ข้อมูลบนบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
ข้อมูลบนบัตรเครดิตสิ่งสำคัญที่หลายๆ คนอาจมองข้าม ข้อมูลความลับที่ถ้าหากมีคนไม่ประสงค์ดี หรือมีคนแอบเอาบัตรและข้อมูลบนบัตรไปใช้ อาจทำให้คุณสูญเสียเงินไปได้ง่ายๆ ลองมาทำความเข้าใจข้อมูลและสัญลักษณ์บนบัตรเครดิตเพื่อความปลอดภัยของตัวเรา
ข้อมูลบนบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง ?
1. Logo ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินผู้ให้บริการ
2. EMV chip สมาร์ทการ์ด
EMV หรือที่ย่อมาจากคำว่า Europay MasterCard Visa เป็น เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยในการส่งข้อมูลทางการเงินของธนาคารร่วมกันที่เป็นมาตรฐาน และใช้กันทั่วโลก เพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูลบัตร และการปลอมแปลงบัตร
3. hologram สัญลักษณ์ โฮโลแกรม
เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความปลอดภัย และถูกกฎหมาย ในบัตรแต่ละใบอาจมีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันตามแต่ละผู้ให้บริการ
4. เลขบัตรเครดิต 16 หลัก
ที่เปรียบเสมือนเลขบัตรประชาชนของบัตรแต่ละใบ
5. สัญลักษณ์ Payment Gateway ที่เข้าร่วม
VISA, MASTERCARD, JCB และUNIONPAY เป็นสัญลักษณ์ Payment Gateway ที่จะระบุว่าบัตรของเรารับรองในระดับสากลโดยองค์กรใด
6. วันหมดอายุ
มักระบุเป็นตัวเลขเดือน และปี
7. ชื่อเจ้าของบัตร
บัตรเครดิตที่ได้มาจะทำการระบุชื่อของเจ้าของบัตรไว้บนบัตรเครดิต
8. แถบแม่เหล็ก
มีไว้สำหรับรูดซื้อสินค้า หากแถบแม่เหล็กเสียอาจไม่สามารถชำระสินค้าผ่านทางการรูดได้
9. เลข CVV
ย่อมาจาก Card Verification Value เป็นรหัส 3 หลักที่ใช้สำหรับยืนยันในการชำระเงินออนไลน์
*การใช้งานบัตรเครดิตควร “ใช้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้เต็มจํานวนตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี”
เงื่อนไขและการพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
วิธีการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต
การป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานอย่างปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลบนบัตรเครดิต เช่น หมายเลขบัตร วันหมดอายุ และ CVV (ตัวเลขสามหลักหลังบัตร) อาจตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีหากไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีการป้องกันที่ควรปฏิบัติ:
1.เก็บรักษาบัตรเครดิตอย่างปลอดภัย
หลีกเลี่ยงการพกพาบัตรเครดิตจำนวนมากในที่สาธารณะ และควรเก็บบัตรที่ไม่ได้ใช้งานในที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟ
2.ระมัดระวังการใช้งานออนไลน์
ก่อนกรอกข้อมูลบัตรเครดิตในเว็บไซต์ใด ๆ ควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์นั้นมีระบบความปลอดภัย เช่น HTTPS หรือสัญลักษณ์แม่กุญแจในแถบ URL
3.ตั้งค่าการแจ้งเตือนธุรกรรม
ลงทะเบียนรับข้อความแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการใช้บัตร เพื่อช่วยตรวจสอบว่ามีธุรกรรมที่ไม่รู้จักหรือไม่
4.อย่าเปิดเผยข้อมูลบัตร
ห้ามถ่ายรูปหรือส่งข้อมูลบัตรเครดิตผ่านอีเมลหรือแอปพลิเคชันแชทที่ไม่ได้เข้ารหัส
เมื่อบัตรเครดิตสูญหายต้องทำอย่างไร
หากบัตรเครดิตของคุณสูญหายหรือถูกขโมย การดำเนินการอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติมีดังนี้:
1. แจ้งอายัดบัตรทันที
ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิตผ่านสายด่วนเพื่ออายัดบัตรทันทีเมื่อพบว่าบัตรสูญหายหรือถูกขโมย
2.แจ้งความ
หากบัตรถูกขโมย ควรแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานในกรณีที่เกิดปัญหาทางกฎหมาย
3.ตรวจสอบบัญชีอย่างละเอียด
ตรวจสอบธุรกรรมในบัญชีของคุณผ่านแอปพลิเคชันธนาคารหรือเว็บไซต์ เพื่อดูว่ามีการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่
4.ขอเปลี่ยนบัตรใหม่
ธนาคารจะดำเนินการออกบัตรใหม่พร้อมหมายเลขใหม่ให้คุณ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ความสำคัญของการอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลกับธนาคาร
การอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลกับธนาคาร เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้มีผลต่อการรับข้อมูลสำคัญจากธนาคาร เช่น การแจ้งเตือนธุรกรรมหรือใบแจ้งยอดบัญชี
ป้องกันการสูญหายของเอกสารสำคัญ
หากคุณย้ายที่อยู่ แต่ไม่ได้อัปเดตข้อมูลกับธนาคาร เอกสารสำคัญ เช่น ใบแจ้งหนี้ อาจถูกส่งไปยังที่อยู่เดิมและตกอยู่ในมือของผู้อื่น
การรับการแจ้งเตือนที่ตรงเวลา
เบอร์โทรศัพท์และอีเมลที่อัปเดตจะช่วยให้คุณได้รับการแจ้งเตือนธุรกรรมหรือการแจ้งเตือนสำคัญได้ทันที
ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
ธนาคารอาจต้องการยืนยันตัวตนของคุณผ่านเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลที่ลงทะเบียนไว้ การใช้ข้อมูลที่ล้าสมัยอาจทำให้การยืนยันตัวตนล่าช้าหรือเกิดปัญหา
เมื่อทำความเข้าใจและรู้ข้อมูลบนตัวบัตรเครดิตแล้ว นอกจากต้องมีการวางแผนการใช้งานแล้ว ก็ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังความปลอดภัยของข้อมูลบนบัตรเครดิต โดยเฉพาะเลข CVV ที่เมื่อรั่วไหลแล้วอาจส่งผลเสียให้เกิดการโจรกรรมข้อมูลและทำรายการต่างๆ ทางออนไลน์ได้