เป็นหนี้เครดิตบูโร สมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่ ?
เครดิตบูโรคืออะไร ?
เครดิตบูโร คือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ National Credit Bureau ซึ่งเป็นสถาบันที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลและประวัติการชำระสินเชื่อต่างๆ ทุกประเภท ทั้งแบบบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เป็นการรวบรวมข้อมูลที่ถูกส่งมาจากธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วม รวบรวมประวัติล่าสุดและย้อนหลัง 36 งวด หรือ ประมาณ 3 ปี เพื่อเป็นการเก็บประวัติและบันทึกพฤติกรรมการทำชำระสินเชื่อ
เครดิตบูโรจะจัดเก็บข้อมูล 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่
- ข้อมูลบ่งชี้เป็นส่วนของข้อมูลประจำตัวและแสดงตัวตนของทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด อาชีพ เลขบัตรประชาชน การสมรส หรือในกรณีของนิติบุคคลจะเป็นเลขทะเบียนนิติบุคคล สถานที่ตั้งบริษัท เป็นต้น
- ข้อมูลสินเชื่อเป็นส่วนของข้อมูลที่แจ้งรายละเอียดเรื่องการดำเนินการทางสินเชื่อ รวมถึงประวัติในการชำระสินเชื่อ เช่น เดือนนี้มีการผ่อนสินเชื่อเข้ามาตรงตามยอดหรือไม่หรือมีการขอพักชำระ มีการขอกู้รถหรือบ้านมาแล้วกี่ครั้ง มีบัตรเครดิตกี่ใบ สถานะบัญชีเป็นอย่างไร เป็นต้น
ติดเครดิตบูโร กับ Blacklist คืออะไร ?
เคยได้ยินกันหรือไม่ว่าการติดเครดิตบูโร หรือ โดน Blacklist จากเครดิตบูโรจะทำให้ทำเรื่องขอสินเชื่อในอนาคตยากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเข้าใจผิดกันเป็นเวลานาน ในความจริง คือ เครดิตบูโรไม่ได้ทำการ Blacklist แต่อย่างใด แต่เป็นในฝ่ายธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเป็นฝ่ายทำการ Blacklist จากการเช็กข้อมูลการชำระหนี้สินเชื่อต่างๆ จากทางเครดิตบูโร และเล็งเห็นว่าผู้ที่ขอสินเชื่อดังกล่าวอาจไม่มีความน่าเชื่อถือพอในการที่จะสามารถชำระหนี้นี้ได้
ผลกระทบจากการติดเครดิตบูโร
การติดเครดิตบูโร หรือที่หมายถึงมีสถานะหนี้เสียจะส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อต่างๆ และรวมไปถึงการสมัครบัตรเครดิตใบอื่นๆ ในอนาคตด้วย โดยทางเครดิตบูโรจะทำหน้าที่เก็บบันทึกประวัติการชำระหนี้ของผู้บริโภค ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปพิจารณาความน่าเชื่อในทางการเงินที่เป็นหนึ่งในเกณฑ์การตรวจสอบเงื่อนไขของผู้ขอสินเชื่อ หรือสมัครบัตรเครดิตนั่นเอง
หากคุณปล่อยให้เกิดสถานะหนี้เสีย หรือเกิดค้างชำระในหลายงวดต่อๆ กัน ก็จะยิ่งมีผลมากยิ่งขึ้นกับการขอสินเชื่อ และมีโอกาสถูกปฏิเสธเมื่อต้องการขอสินเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน หรือซื้อรถ และสำหรับผู้ใช้งานบัตรเครดิตเองก็อาจมีผลกระทบที่ตามมานั่นก็คืออาจทำให้คุณไม่ได้ข้อเสนอพิเศษ สิทธิพิเศษ หรือโปรโมชันต่างๆ ที่ทางธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินจะเสนอไว้ให้ เช่นโปรโมชันการสะสมคะแนน การลดดอกเบี้ย ทั้งนี้ถ้าหากสถานการณ์ทางการเงินแย่ลง ก็อาจจะนำไปสู่การถูกยกเลิกการใช้งานบัตรเครดิตด้วยเช่นกัน
ติด Blacklist สมัครบัตรเครดิตได้หรือไม่ ?
สามารถทำได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินจะพิจารณาสินเชื่อโดยเช็กจากประวัติข้อมูลเครดิตบูโร ซึ่งในแต่ละแห่งก็จะมีเกณฑ์การพิจารณาที่แตกต่างกัน หากต้องการสมัครบัตรเครดิตแต่มีประวัติหนี้เสียอาจลองสมัครในผู้ให้บริการที่เคยใช้บริการมาก่อน แต่หากยังสมัครไม่ได้ อาจลองเปลี่ยนไปสมัครกับผู้ให้บริการเจ้าอื่นดู
วิธีป้องกันไม่ให้ติดเครดิตบูโร
1.จ่ายบัตรเครดิตตรงเวลา
การจ่ายตรงเวลา ชำระตรงเวลาทุกงวดเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาประวัติเครดิตที่ดี หากเป็นคนที่ขี้ลืมสามารถทำการแจ้งเตือนเพื่อให้ไม่พลาดกำหนดชำระ หรือใช้วิธีการตัดบัญชีอัตโนมัติเพื่อกันการลืมได้เช่นกัน
2.ชำระยอดเต็ม หรือมากกว่าขั้นต่ำ
เลือกชำระยอดเต็มหากสามารถทำได้ หรือเลือกชำระเป็นจำนวนที่สูงกว่ายอดขั้นต่ำหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด
3.กำหนดวงเงินให้เหมาะสม
ควรกำหนดวงเงินบัตรเครดิตตามภาระการชำระที่สามารถจ่ายได้ หลีกเลี่ยงการใช้วงเงินบัตรเครดิตเกิน 30-50% ของวงเงินทั้งหมด
4.ไม่ควรสมัครบัตรเครดิตหลายใบมากเกินความจำเป็น
การมีบัตรเครดิตหลายใบอาจทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และเกินตัว เลือกทำบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน เพื่อเลี่ยงให้ไม่เกิดหนี้บัตรเครดิต
5.ตรวจสอบใบแจ้งยอดเป็นประจำทุกเดือน
เพื่อป้องกันให้ไม่การเรียกเก็บยอดค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติ หรือเป็นยอดที่ไม่ถูกต้อง เพื่อทำการชำระได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน
6.สร้างแผนการเงินที่ชัดเจน
วางแผนงบประมาณรายเดือน ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงค่าบัตรเครดิตไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินเพียงพอสำหรับการชำระหนี้บัตรเครดิต
เช็กเครดิตบูโรได้ที่ไหน ?
ปัจจุบันการเช็กประวัติเครดิตบูโรทำได้โดยง่าย นอกจากการไปที่เคาน์เตอร์ที่รับเตรวจโดยเฉพาะแล้ว ยังสามารถเช็กข้อมูลได้ทางการโทรผ่าน Call center ของทางธนาคาร หรือ สามารถทำรายการได้ผ่านทางออนไลน์ โดยเข้าไปเช็กได้จากทางผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่เรามีว่ามีบริการเช็กเครดิตบูโรให้หรือไม่ และถ้าหากข้อมูลไม่ถูกต้องควรแจ้งเพื่อทำการแก้ไขให้ถูกต้องโดยด่วนที่สุด
การขอสินเชื่อไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ควรวางแผนการชำระให้ดี จัดตารางให้มีการชำระได้ตามความสามารถของตัวเรา เพื่อไม่ให้เกิดประวัติเสียที่โดนเก็บข้อมูลกับทางเครดิตบูโรได้ แต่หากมีประวัติหนี้เสีย ก็อย่ากังวลไปว่าจะไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ ลองสอบถามกับทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่ใช้งานเป็นประจำหรือที่ต้องการสมัครเพื่อขอคำปรึกษาก่อนการสมัครได้ แต่อย่าลืมว่าควรเลือกบัตรเครดิตให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเราและความสามารถในการชำระหนี้บัตรเครดิตด้วย
*การใช้งานบัตรเครดิตควร “ใช้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้เต็มจํานวนตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี”
เงื่อนไขและการพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด