ไม่มีใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุ เกิดอุบัติ ประกันรถยนต์จะคุ้มครองมั้ย ขับรถชน แล้วไม่มีใบขับขี่ ประกันจะคุ้มครองมั้ย
ใบขับขี่รถยนต์กับคนขับรถถือเป็นของคู่กันที่ขาดกันไม่ได้ ถ้าลืมหยิบมาปุ๊บ หรือปล่อยขาดปั๊บ… เจอด่านคุณตำรวจตลอดเลย แต่ถ้าร้ายแรงกว่านั้นคือรถถูกชนขณะที่เราไม่ได้พกใบขับขี่ แบบนี้ประกันรถยนต์จะคุ้มครองมั้ยนะ?
กรณีเป็นฝ่ายถูก
จำกันง่ายๆ เลยว่า ไม่ว่ารถคุณจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือชั้น 3 “ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก ประกันต้องจ่าย” แม้ว่าคุณจะไม่มีใบขับขี่หรือไม่ก็ตาม ประกันรถของคู่กรณีก็ต้องคุ้มครองค่าเสียหาย และค่าซ่อมรถเราอย่างแน่นอน ยกเว้นว่ารถคู่กรณีไม่ได้ทำประกันไว้… อันนี้ล่ะปัญหา เรื่องอาจจะยาวได้
(เพิ่มเติม: รถคู่กรณีไม่มีประกัน ใครจะซ่อม)
กรณีเป็นฝ่ายผิด
แบ่งได้ 3 กรณี ดังนี้
1. ลืมพกใบขับขี่ แต่ถ้าคุณสามารถหาหลักฐานสำเนาหรือรูปถ่ายมายืนยันได้ กรณีนี้ประกันจะคุ้มครองทั้งรถเราและคู่กรณี
2. ใบขับขี่หมดอายุ / ใบขับขี่ถูกยึด บริษัทประกันถือว่าเรามีความสามารถในการขับรถ แม้ว่าใบขับขี่จะหมดอายุ กรณีนี้ก็ให้ความคุ้มครองเช่นกัน
3. ไม่เคยมีใบขับขี่เลย บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถของเราและคู่กรณี แต่จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกเท่านั้น
รถหาย / น้ำท่วม แต่เจ้าของรถไม่มีใบขับขี่จะคุ้มครองมั้ย?
หากรถจอดอยู่กับที่แล้วโดนขโมย ไฟไหม้ หรือถูกน้ำท่วม ถ้าคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 หรือ 2+ ประกันต้องคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ แม้ว่าคุณจะไม่มีใบขับนี้ก็ตาม เพราะถือว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความสามารถในการขับรถยนต์
สรุป
กรณี | การคุ้มครอง |
---|---|
เป็นฝ่ายถูก | คุ้มครอง |
เป็นฝ่ายผิด | แบ่งตามกรณี |
– ลืมพกใบขับขี่ | คุ้มครอง (ใช้สำเนาหรือรูปถ่ายมายืนยัน) |
– ใบขับขี่หมดอายุ | คุ้มครอง (ใช้สำเนาหรือรูปถ่ายมายืนยัน) |
– ใบขับขี่ถูกยึด | คุ้มครอง (ใช้สำเนาหรือรูปถ่ายมายืนยัน) |
– ไม่เคยมีใบขับขี่ | คุ้มครอง (เฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกเท่านั้น) |
รถหาย / น้ำท่วม | คุ้มครอง (เฉพาะประกันชั้น 1 ชั้น 2 หรือ 2+) |
กรณีไหนบ้างที่ประกันไม่คุ้มครอง แม้จะมีใบขับขี่ก็ตาม
1. ใช้ใบขับขี่ผิดประเภท เช่น มีใบขับขี่ของรถจักรยานยนต์ แต่มาใช้ขับรถยนต์
2. เมาแล้วขับ หากตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่เลือดตั้งแต่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ขึ้นไป ในขณะที่ขับขี่
3. นำรถยนต์ไปใช้นอกเขตความคุ้มครอง หรือต่างประเทศ
4. นำรถยนต์คันเอาประกัน ไปใช้ในการลากจูงหรือผลักดัน ซึ่งหากเกิดเหตุเสียหายกับรถยนต์ จะถือว่าเป็นความประมาทของเจ้าของรถยนต์เอง
5. ใช้รถยนต์ในการไปแข่งขันความเร็ว
6. ใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น นำรถยนต์ไปใช้ปล้น หรือขนยาเสพติด เป็นต้น
การรับผิดชอบของบริษัทประกันมีเงื่อนไขที่ชัดเจน ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำประกันควรศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้คุณรู้ข้อจำกัดของแผนประกัน และพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ที่พลาดไม่ได้คือ อย่าลืมพกใบขับขี่ทุกครั้งขณะขับขี่รถ และไม่ควรปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ รีบไปต่อล่วงหน้าได้ยิ่งดี อย่างน้อยก็อุ่นใจไว้ก่อน