
เช็ก 9 สัญญาณที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่

รถยนต์ ถือได้ว่าเป็นยานพาหนะสำคัญ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับ ทุก ๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเดินทางและในด้านการประกอบธุรกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป รถยนต์ของเราก็เสื่อมสภาพลง การยึดติดกับรถเก่าเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากสภาพที่ทรุดโทรมของตัวอะไหล่รถได้ มาดูกันว่า 9 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนรถ ใหม่ หรือควรซื้อรถ ใหม่ว่ามีอะไรบ้าง
1. ค่าซ่อมแซมแพงเกินไป
หากค่าซ่อมแซมรถยนต์ ของท่านนั้นเพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ และมีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่า 50% ของมูลค่ารถ นั่นอาจหมายถึงเวลาที่ท่านนั้นควรจะต้องพิจารณาซื้อรถใหม่ เพราะการซ่อมรถคันเก่า ซ้ำ ๆ อยู่ตลอดไป เรื่อย ๆ อาจไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังอาจมีปัญหาชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนใหม่ เรื่อย ๆ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. เครื่องยนต์มีปัญหาบ่อยครั้ง
หากเครื่องยนต์มีปัญหาเป็นประจำอยู่บ่อยครั้ง เช่น สตาร์ทติดยาก เร่งไม่ขึ้น หรือมีเสียงผิดปกติ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ารถของท่าน นั้นกำลังเข้าสู่จุดสิ้นสุดของอายุการใช้งาน การเปลี่ยนเครื่องยนต์อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่คุ้มค่ากับการใช้งานในระยะยาว นอกจากนี้การเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ยังมีต้นทุนที่สูงและใช้เวลาในการจัดการค่อนข้างนาน ในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ในแต่ละครั้งท่านอาจจะต้องเสียเวลานานเป็นอาทิตย์หรือมากกว่า หากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ท่านอาจจะต้องเทิร์นรถเก่าซื้อรถใหม่กับห้างร้านหรือบริษัทผู้ขายรถยนต์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละผู้ขายล้วนมีโปรโมชั่น ต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้ท่านได้เลือกอย่างมากมาย
3. ระบบความปลอดภัยล้าสมัย
รถรุ่นเก่าอาจจตะไม่มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ยกตัวอย่างเช่น ระบบเบรก ABS, ถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ซึ่งอาจทำให้ท่านนั้นเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุ การเปลี่ยนไปใช้รถใหม่ หรือซื้อรถใหม่ที่มีระบบความปลอดภัยสูงขึ้น จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และการใช้พาหนะของท่านได้มากขึ้น และยังเป็นการลดความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุได้มากขึ้นอีกด้วย
4. รถกินน้ำมันมากขึ้น
หากรถของท่านเริ่มสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะเครื่องยนต์ทำงานไม่มีประสิทธิภาพเหมือนดังเช่นเดิม การเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ หรือซื้อรถใหม่ที่ประหยัดน้ำมันหรือรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้า (รถ EV) เป็นสิ่งที่อาจจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ระยะยาว นอกจากนี้การใช้พลังงานสะอาดยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจจะตามมาจากการใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปอีกด้วย

5. มีปัญหากับระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าของรถยนต์ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ระบบวิทยุ หรือหน้าจอควบคุม ทำงานผิดปกติ บ่อย ๆ อาจหมายความว่าระบบไฟฟ้าภายในรถกำลังเสื่อมสภาพ ซึ่งการซ่อมแซมระบบ ต่าง ๆ เหล่านี้ นั้นอาจจะมีราคาค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และอาจส่งผลกระทบต่อระบบ อื่น ๆ ภายในรถ เช่น ระบบเซ็นเซอร์และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
6. รถเริ่มมีสนิมมากขึ้น
สนิมเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพของตัวถังรถ หากพบว่ามีสนิมกระจายทั่วทั้งตัวรถหรือเกิดที่โครงสร้างหลัก เช่น ใต้ท้องรถ หรือแชสซี สิ่งเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าน สนิมที่ลุกลามอาจส่งผลให้โครงสร้างรถยนต์อ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุ
7. ค่าเบี้ยประกันแพงขึ้น
เมื่อรถของท่านเก่า ทางผู้ให้บริการกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ต่าง ๆ มักจะปรับอัตราดอกเบี้ย ให้มีค่าดอกเบี้ยกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ที่สูงขึ้น ก็เพราะสืบเนื่องจากความเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุหรือเสียหายได้มากกว่าของรถเก่า บางครั้งการซื้อรถใหม่ หรือการเทิร์นรถเก่าซื้อรถใหม่นั้นอาจจะช่วยลดค่าเบี้ยประกันได้ โดยเฉพาะหากรถใหม่มีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่าและมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่มากกว่า
8. ไม่สามารถผ่านการตรวจสภาพรถ (ตรอ.)
หากรถของท่านไม่ผ่านการตรวจสภาพตามกฎหมาย (ตรอ) เนื่องจากปัญหาด้านมลพิษ ไอเสีย หรือชิ้นส่วนสำคัญเสียหาย การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อาจจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทางเลือกที่ดีที่สุดของื่น นั้นอาจจะเป็นการเลือกซื้อรถใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า รถใหม่ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้ปล่อยมลพิษน้อยลง และมีมาตรฐานที่เป็นไปตามกฎหมายควบคุมมลพิษ
9. รถยนต์ ไม่ตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ของท่านอีกต่อไป
หากรถยนต์คันปัจจุบันของท่าน ไม่เหมาะกับความต้องการของท่านหรือครอบครัว เช่น ครอบครัวขยายขึ้น ต้องการรถที่มีพื้นที่มากขึ้น หรือคุณต้องเดินทางไกลอยู่บ่อยครั้ง การซื้อรถใหม่ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะช่วยให้การขับขี่ของท่านสะดวกสบายขึ้น นอกจากนี้ หากท่านต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ หรือ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รถใหม่อาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่ารถรุ่นเก่า
บทสรุป
การเปลี่ยนรถยนต์ หรือการซื้อรถใหม่ เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ท่านนั้นควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในการใช้งาน หากรถของท่านนั้นมีปัญหา ต่าง ๆ จาก หลาย ๆ ข้อที่กล่าวมา จาก 9 สัญญาณข้างต้น นั่นอาจจะหมายความได้ว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ท่านนั้นควรจะเปลี่ยนรถใหม่ หรือซื้อรถใหม่เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยและมีความคุ้มค่าในการใช้งานยานพาหนะของท่านได้มากขึ้น