ชนแล้วหนี โทษหนักแน่ !!
เมื่อเกิดเหตุรถชนสิ่งที่เราควรทำคือ หยุดรถแล้วลงมาจากรถทันที เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม แต่ถ้าเราขับรถหนีไป เราจะโดนสันนิษฐานว่าเป็นคนผิดทันที และจะถือว่าเป็นคดีอาญา เราจำเป็นต้องไปมอบตัวภายใน 6 เดือน ไม่เช่นนั้นจะถูกยึดรถ แต่หากต้องการจะหลบหนีต้องหลบหนีนานถึง 15 ปีเลยทีเดียว ยังไม่นับรวมกรณีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่าเสียหายอื่นๆ แต่ในทางกลับกันถ้าเราลงมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แม้ว่าจะเป็นฝ่ายผิด หากถึงขั้นขึ้นศาล ศาลก็จะปราณีลดโทษให้ตามความเหมาะสม
ชนแล้วหนี เปลี่ยนจากโทษเบาเป็นโทษหนักทันที
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 ได้ระบุถึงความผิดฐานไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือว่า
“ผู้ใดขับรถหรือขี่หรือควบคุมสัตว์ ในทางซึ่งก่อให้เกิดความ เสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่ หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หรือไม่ก็ตาม ต้องหยุดรถ หรือสัตว์ และให้ความ ช่วยเหลือตามสมควรและพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที กับต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของตนและหมายเลข ทะเบียนรถแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย”
หากเราหลบหนีแล้วโดนจับได้ จะมีบทลงโทษ ดังนี้
– กรณีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต : จำคุก 3 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
– กรณีมีผู้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต : จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต้องทำอย่างไรบ้าง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น
1. ทำเครื่องหมายสัญญาณให้ชัดเจน เช่น วางป้ายหรือสิ่งของเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ หรืออย่างน้อยที่สุดให้เปิดไฟฉุกเฉินไว้
2. ให้การช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บเท่าที่จะทำได้ หากมีผู้บาดเจ็บที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ควรใช้บริการเลขหมาย 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ซึ่งให้บริการรถฉุกเฉินนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
3. แจ้งตำรวจในท้องที่โดยเร็ว ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ เพื่อทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงเพื่อระบายปัญหาจราจรในกรณีมีการกีดขวางเส้นทาง
4. แจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายสำหรับการประเมินราคาและการซ่อมต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com