
รถยนต์ไฟฟ้าทนทานต่ออากาศร้อนจัดได้แค่ไหน ? ส่งผลเสียต่อระยะวิ่งไหม

ในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ในช่วงที่อากาศร้อนจัดก็มีโอกาสที่อุณหภูมิจะพุ่งสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสในหลาย ๆ พื้นที่ นั่นจึงทำให้เกิดความกังวลสำหรับผู้ที่ใช้งาน “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่ารถ EV ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระยะทางการใช้งาน มาดูกันเลยว่าความกังวลนี้จริงแท้แค่ไหน รวมถึงเรื่องน่าสนใจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !
รถยนต์ไฟฟ้าทนอากาศร้อนจัดในประเทศไทยได้แค่ไหน ?
ก่อนอื่นต้องขออธิบายเพิ่มเติมสักเล็กน้อย ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นยังสามารถใช้งานได้ดี ในสภาพอากาศร้อนจัดของบ้านเราได้สบาย ๆ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าถูกออกแบบให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัด อุณหภูมิติดลบถึง -20 องศาเซลเซียส ไปจนถึงอากาศร้อน อุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นหากอยู่ในขอบเขตของการ “ใช้งานอย่างถูกต้อง” ก็ยังคงใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
อากาศร้อนส่งผลต่อระยะวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ ?
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้งานได้ในสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่งผลต่อการใช้งานในหลาย ๆ ส่วนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะระยะวิ่งของรถ เนื่องจากรถ EV ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน พร้อม ๆ กันนั้นก็ได้นำเอาพลังงานไปใช้ใน “ระบบปรับอากาศ” การที่ใช้งานรถในสภาพอากาศร้อน ก็จะส่งผลให้ระบบปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น จึงเกิดการใช้พลังงานมากขึ้น แน่นอนว่ามันจะทำให้ระยะวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยลง โดยเฉลี่ยแล้วหากคิดตามอุณหภูมิทั่วไปของประเทศไทย จะลดลงประมาณ 30% เลยทีเดียว

กิจกรรมใดบ้างที่รถยนต์ไฟฟ้าควรหลีกเลี่ยงเมื่ออากาศร้อนจัด
อากาศร้อนของประเทศไทย ไม่ได้ส่งผลต่อ “ระยะการวิ่ง” ของรถยนต์ไฟฟ้าเพียงเท่านั้น เพราะยังส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้งานบางอย่าง ซึ่งที่จริงแล้วรถยนต์สันดาปที่เราคุ้นเคย ก็มีปัญหาไม่แตกต่างกันมากนัก ไปดูกันเลยว่า กิจกรรมใดบ้างที่รถยนต์ไฟฟ้าควรต้องหลีกเลี่ยง เมื่อต้องใช้งานในสภาพอากาศที่ร้อนจัดของประเทศไทย
-
ใช้งานเยอะจน Overheat ไม่มีพักรถ
เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ ว่ารถ EV ก็สามารถเกิดอาการ Overheat ได้เช่นกัน แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นที่ค่อนข้างต่ำมากก็ตาม โดยจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หากเกิดการใช้งานที่หนักหน่วงจนเกินไป เช่นการขับติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยไม่มีการพักรถเลย หรือ เป็นการขับขึ้นเขาเป็นระยะทางไกล ๆ ก็จะส่งผลให้ตัวมอเตอร์ทำงานหนักเกินไป เป็นต้น ซึ่งที่จริงแล้วเมื่อมีอุณหภูมิเกินกว่าปกติ จะมีไฟเตือนให้ผู้ขับขี่ได้รู้และพักรถได้ทัน แต่ ! ถ้ายังฝืนใช้รถต่อไป โดยไม่สนใจไฟเตือน ก็มีความเสี่ยงที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดความเสียหายร้ายแรงได้
-
ชาร์จรถกลางแดดเป็นระยะเวลานาน
ในบางครั้งก็การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ก็มีความจำเป็นที่ต้องชาร์จรถ EV กับสถานีชาร์จนอกบ้าน ซึ่งหลาย ๆ ที่มักจะเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง โดยการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ก่อให้เกิดความร้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากต้องชาร์จกลางแดดในสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของบ้านเรา อาจทำให้อุณหภูมิของรถขณะชาร์จพุ่งสูงกว่า 50 องศาเซลเซียสได้ง่าย ๆ ส่งผลให้มีแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น อายุการใช้งานสั้นลง และ ระบบไฟฟ้าในบางจุดอาจเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถทำได้ แค่อย่าให้เกิดขึ้นบ่อยเท่านั้นเอง
รถยนต์ไฟฟ้าจอดกลางแดด ส่งผลต่อแบตเตอรี่และระยะทางการวิ่งรถหรือไม่
อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในช่วงต้น ว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ระยะทางการวิ่งลดน้อยลง แต่ถ้าเป็นในกรณีที่ “จอดรถกลางแดด” กรณีนี้จะส่งผลหรือไม่ ? คำตอบคือ ส่งผลในระยะยาว และ อาจส่งผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการจอดรถกลางแดดโดยไม่มีการบดบัง จะทำให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่พุ่งสูงมาก หากมีการจอดตากแดดบ่อย ๆ ก็จะทำให้รถเกิดอาการแบตเสื่อมได้ ถึงในรถบางรุ่นจะมีระบบลดอุณหภูมิของแบตเตอรี่ก็ตาม
วิธีแก้ไขปัญหา กับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด
จากทั้งหมดที่เราได้กล่าวไป ทำให้เราเล็งเห็นถึงปัญหาของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีสภาพอากาศที่เย็น จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า ในประเทศไทยอย่างมากก็สามารถใช้งานระยะวิ่งของรถได้ประมาณ 70% จากระยะทางที่สามารถทำได้จริงเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีวิธีการแก้ไขปัญหา กับการใช้งานรถ EV ในสภาพร้อนจัด ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
- ในวันที่มีอากาศร้อนจัด ก่อนออกจากบ้านให้เสียบสายชาร์จแบต พร้อมกับสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์ เพื่อให้ห้องโดยสารเย็นก่อนจะออกรถ วิธีนี้จะทำให้เพิ่มระยะวิ่งของรถมากยิ่งขึ้น
- ควรจอดรถในบริเวณที่มีร่มเงา หลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์ไฟฟ้าตากแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ และไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่กลางแดดเป็นอันขาด หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ
- ควรชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าให้อยู่ที่ประมาณ 80% ไม่จำเป็นจะต้องชาร์จให้เต็ม 100% เพื่อเป็นการรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และควรเลี่ยงการชาร์จแบบ Fast Charge บ่อย ๆ
สรุป
สรุปได้เลยว่า การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลต่อระยะวิ่งของรถอย่างแน่นอน ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าลดน้อยลงมากเท่านั้น และยังอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์อีกด้วย เพราะฉะนั้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ควรมองหา “ประกันภัยรถยนต์” ที่มีความคุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณไม่รู้ว่าจะหาจากที่ไหน SILKSPAN พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับคุณ เพียงกรอกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างของบทความนี้เท่านั้น