อายุของยางอะไหล่รถยนต์มีกี่ปี? แล้วเมื่อไหร่ควรเปลี่ยน?
เจ้าของรถยนต์เคยสงสัยหรือไม่ว่า ยางรถยนต์ที่อยู่ท้ายรถ หรือที่เรียกว่า ยางอะไหล่นั้นมีอายุในการใช้งานกี่ปี และเมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนยางอะไหล่เส้นใหม่ รวมถึงหากเปลี่ยนมาใช้งานแทนยางรถยนต์ปัจจุบันแล้วจะสามารถใช้งานได้นานแค่ไหน เพื่อคลายความสงสัยในเรื่องนี้เรามีข้อมูลมาบอกกัน
อายุการใช้งานของยางอะไหล่
อายุการใช้งานยางอะไหล่นั้นอยู่ที่ 2-3 ปี หรือหากวัดเป็นการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 กิโลเมตร ซึ่งก็ไม่ควรใช้ในการเปลี่ยนเพียงครั้งเดียวจนครบอายุการใช้งาน แต่หากไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือส่วนใหญ่เป็นการเก็บยางอะไหล่ไว้ท้ายรถมากกว่า กรณีนี้จะมีอายุในการใช้งานจากการเก็บที่ 4-6 ปี ทั้งนี้ก็คืออยู่กับวิธีการเก็บรักษา และดูแลสภาพพื้นที่เก็บยางอะไหล่ด้วย
วิธีดูแลรักษายางอะไหล่
สำหรับการดูแลรักษายางอะไหล่ เพื่อให้พร้อมใช้งานนั้น สามารถทำการตรวจสอบได้ด้วยวิธีเดียวกับยางรถยนต์ปกติ และแม้ว่าจะเป็นยางที่เก็บมากกว่าได้ใช้ แต่ก็ควรตรวจสอบลมยางอยู่เสมอ เพราะแก้มยางอะไหล่มักจะเป็นส่วนที่พบว่ามีการซึมอยู่บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นเมื่อพบว่าลมยางอะไหล่ไม่ปกติควรทำการเติมลมตามกำหนดทันที เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในยามจำเป็น
การใช้งานยางอะไหล่
เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ยางรั่ว ซึม หรือยางแตกระหว่างการขับขี่ จำเป็นต้องเปลี่ยนยางอะไหล่เพื่อใช้งานชั่วคราวก่อน แต่หลายคนเข้าใจว่า ยางอะไหล่นั้นสามารถใช้งานได้ในระยะยาว หรือระหว่างที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนหรือปะยางรถยนต์เดิม ทำให้ใช้ขับขี่รถยนต์โดยใช้ยางอะไหล่ในการเดินทางไกล ซึ่งต้องบอกว่ายางอะไหล่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็น “ยางสำรอง” เท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนยางรถยนต์ทั่วไปได้ เพราะคุณสมบัติในการใช้งานและความทนทานน้อยกว่า อีกทั้งยังอาจเกินอันตรายได้หากใช้ในเส้นทางมีความลาดชัน หรือมีความชื้นสูง เพื่อความปลอดภัยจึงไม่ควรใช้ทดแทนยางรถยนต์ในระยะยาว
5 วิธีใช้งานยางอะไหล่ให้ปลอดภัย
ยางอะไหล่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดยางรั่วซึมและจำเป็นต้องปะยางรถยนต์ ยางอะไหล่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ประคองรถยนต์ไปยังศูนย์หรืออู่ซ่อมรถได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรใช้งานและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ตาม 5 วิธีต่อไปนี้
1. ตรวจเช็กสภาพเป็นประจำ
ข้อแรกเลยคือการตรวจเช็กสภาพของยางอะไหล่เป็นประจำ โดยให้ระยะเวลาในการตรวจสภาพควรอยู่ที่ 6 เดือน แม้ว่าจะเป็นยางที่ไม่ได้ใช้งานก็ตาม และควรเติมลมยางตามค่าที่กำหนด นอกจากนี้ยังควรเช็กวันที่ผลิตยางด้วย เพราะยางอะไหล่ที่เหมาะสำหรับใช้งานต้องมีอายุไม่เกินกว่า 10 ปี หากเกินกว่านั้นควรเปลี่ยนใหม่ไม่ควรนำมาใช้งาน
2. ทำความสะอาดเป็นประจำ
รถยนต์บางรุ่นเก็บยางอะไหล่ไว้ใต้ท้องรถ และในการใช้รถก็อาจส่งผลให้ยางอะไหล่เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก และยังเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายจากของมีคมได้ จึงควรที่จะนำออกมาตรวจเช็กและทำความสะอาดบ้าง เพื่อไม่ให้มีฝุ่นหรือคราบน้ำมันเกาะ ซึ่งจะเป็นส่วนให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าอายุการใช้งานจริง
3. ยางอะไหล่ควรใช้เพียงล้อเดียว
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ แนะนำให้เปลี่ยนเพียงแค่ล้อเดียวเท่านั้น เพราะยางอะไหล่ออกแบบตามมาตรฐาน ETRTO และ UN R64 ที่รองรับกับรถในแต่ละรุ่นเท่านั้น ทำให้การรับน้ำหนักของยางอะไหล่เพียงพอต่อรถยนต์แต่ละคัน จึงไม่ควรนำยางอะไหล่จากรถคันอื่นมาใช้ร่วมด้วย เพราะอาจเกิดอันตรายขณะขับขี่ และมีผลต่อการควบคุมรถยนต์ได้
4. ห้ามใช้เกินความจำเป็น
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ายางอะไหล่เป็นเพียงยางสำรองเท่านั้น จึงไม่ควรนำมาใช้งานเกินกว่าความจำเป็น และควรใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น อีกทั้งยางสำรองยังเป็นยางที่มีขนาดเล็กกว่ายางรถยนต์ทั่วไป หากฝืนใช้งานเป็นเวลานานอาจมีผลให้ช่วงล่างเสียหาย และลดประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วย
5. ไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่า 80
ส่วนใหญ่แล้วยางสำรองจะระบุตัวเลขของความเร็วและระยะทางในการใช้งานที่เหมาะสมกำกับเอาไว้ เพื่อความปลอดภัย แต่หากตรวจสอบจากคู่มือหรือคำแนะนำแล้วไม่มีการระบุตัวเลขในส่วนนี้ แนะนำให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายและปลอดภัยมากที่สุด
Checklist ยางอะไหล่ให้พร้อมใช้ในทุกการเดินทาง
เพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมพร้อมยางอะไหล่ เราได้สรุปมาให้เป็น Checklist ต่อไปนี้
- เช็กยางให้พร้อมใช้งาน เนื้อยางต้องไม่แข็ง ไร้รอยปริแตก และไม่มีการปูดบวม
- หากเดินทางไกลบ่อย ต้องเช็กลมยางอะไหล่เป็นประจำ อย่างน้อย เดือนละครั้ง
- เติมลมยางให้มากกว่าเล็กน้อยเพื่อป้องกันลมยางอ่อนในการเก็บเป็นเวลานาน
- ตำแหน่งที่วางยางอะไหล่ควรหันจุกเติมลมด้านนอก จะง่ายต่อการเติมลมยาง
- อย่าลืมตรวจเช็กอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนยางอะไหล่ให้พร้อมใช้งานด้วย
- ยางอะไหล่ที่มีอายุเกินกว่า 5 ปี ควรเปลี่ยน เพราะยางอาจเสื่อมสภาพต่อการใช้งาน
ยางอะไหล่ เป็นสิ่งที่ต้องดูแลและตรวจสอบเป็นประจำไม่แพ้ยางหลักของรถยนต์ เพราะเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่โดยเฉพาะเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นกับยางรถ ดังนั้น จึงต้องคอยตรวจเช็กสภาพของยางอะไหล่ ทั้งเติมลมยาง การทำความสะอาด และการจัดเก็บยางอะไหล่ให้ปลอดภัยจากสิ่งแปลกปลอม เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ยางอะไหล่อยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว
แต่นอกจากการตรวจสอบความเรียบร้อยของรถยนต์แล้ว การมีประกันรถยนต์ ที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งรถและคน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ เพราะอย่างน้อยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอย่างน้อยความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ยังช่วยในเรื่องความเสียหายได้