กฎหมายรถป้ายแดงในปี 2568 หากขับช่วงกลางคืน ขับข้ามจังหวัด โดนปรับกี่บาท

การออกรถใหม่ป้ายแดงสักคัน น่าจะเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายของหลาย ๆ คน เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รถมาครอบครองก็คงอยากขับไปไหนมาไหนให้สมใจอยาก แต่รู้หรือไม่ ? การใช้รถป้ายแดงไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามอำเภอใจ เพราะมี “กฎหมายรถป้ายแดง” ควบคุมอยู่ สำหรับใครที่กำลังออกรถใหม่ แล้วยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน SILKSPAN อยากให้คุณสละเวลาสักเล็กน้อย อ่านบทความนี้จนจบ เพราะมิฉะนั้นคุณอาจถูกปรับเป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อย ๆ จากความรู้เท่าไม่ถึงการในครั้งนี้

เรื่องควรรู้ ! กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถป้ายแดง พร้อมค่าปรับหากฝ่าฝืน

รถป้ายแดงเป็นคำที่เราใช้เรียก รถใหม่มือหนึ่งที่เพิ่งถอยออกมาจากโชว์รูม ซึ่ง “ป้ายแดง” จะเป็นป้ายทะเบียนชั่วคราว ระหว่างที่รอรถเข้ารับการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ป้ายขาว” ที่จะมาเป็นทะเบียนรถตัวจริงของเรานั่นเอง และเนื่องจากเป็นป้ายทะเบียนเพียงชั่วคราว แถมตัวรถก็ยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ทำให้รถยนต์ที่ยังใช้ป้ายแดงอยู่ มีข้อจำกัดด้านกฎหมายรถป้ายแดง ที่ควบคุมการใช้รถอยู่ มาดูกันเลยว่าในปี 2568 มีข้อกฎหมายอะไรอัปเดตบ้าง ถ้าไม่อยากเสียค่าปรับที่แพงหูฉี่ ขอแนะนำให้ควรแวะอ่านสักหน่อย

• รถใหม่ป้ายแดงยังไม่ได้รับอนุญาตขับข้ามจังหวัด

ข้อแรกไม่รู้ไม่ได้เป็นอันขาด ห้าม ! ขับรถป้ายแดงข้ามจังหวัด ตามกฎหมายจะใช้คำว่า “ห้ามขับข้ามเขต” ซึ่งเขตที่ว่าก็คือจังหวัดที่อยู่บนป้ายทะเบียนนั้น ๆ นั่นเอง แต่ทั้งนี้ก็สามารถผ่อนปรนได้นิดหน่อย หากมีความจำเป็นจริง ๆ ก็ให้ขออนุญาตที่กรมการขนส่งจังหวัดให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้ได้ “ใบอนุญาต” แล้วค่อยออกเดินทาง ถ้าไม่มีการขออนุญาตแล้วฝืนขับข้ามจังหวัด รับโทษปรับไปเหนาะ ๆ สูงสุดที่ 10,000 บาท

• ขับรถป้ายแดงตอนกลางคืนไม่ได้

ที่จริงแล้วตามข้อกฎหมายจะระบุเอาไว้ว่า รถป้ายแดงห้ามใช้ขับขี่หลังพระอาทิตย์ตกดินเป็นอันขาด ช่วงเวลาที่ใช้ได้จะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น 06:00 ไปจนถึงช่วงที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า 18:00 ซึ่งภายหลังได้มีการเปลี่ยนเป็นไม่เกิน 20:00 เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และ ป้ายทะเบียนที่เป็นสีแดง ก็ไม่ได้สะท้อนแสงเหมือนป้ายสีขาว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากฝ่าฝืนโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 10,000 บาท

• ใช้ป้ายแดงได้ไม่เกิน 30 วันเท่านั้น

อย่างที่เราได้เกริ่นไปในช่วงต้นของบทความ ว่ารถป้ายแดงคือรถที่กำลังรอจดทะเบียนอยู่ ซึ่งป้ายแดงนั้นก็มีกำหนดเอาไว้ ว่ามีระยะเวลาการใช้ไม่เกิน 30 วัน หลังจากการออกรถวันแรก ในช่วงเวลานี้ก็ใช้รถได้ตามปกติ เพียงทำตามข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เราเพิ่งกล่าวไป เมื่อมีการติดต่อมาจากโชว์รูมให้ไปเปลี่ยนเป็นป้ายขาว ก็ให้รีบดำเนินการในทันที โดยทั่วไปแล้วรอประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์ ก็จะได้ป้ายขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรณีที่เกิน 30 วันแล้วยังใช้ป้ายแดงอยู่ อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท

• รถป้ายแดงต้องพกสมุดคู่มือติดรถเอาไว้เสมอ

สุดท้ายนี้ การใช้รถป้ายแดงจะมี “สมุดคู่มือประจำรถ” ซึ่งผู้ขับขี่จะต้องลงบันทึกในทุก ๆ โดยจะต้องมีการกรอกรายละเอียดต่าง ๆ เชื่อ ชื่อผู้ขับ , ชนิดรถ , เลขตัวถัง , วันเวลาที่ใช้รถ , เดินทางจาก , จุดหมายปลายทาง และ วัตถุประสงค์การใช้รถ อาจจะดูยุ่งยากสักหน่อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพราะเป็นหนึ่งในกฎหมายรถป้ายแดง หากละเลยฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 1,000 บาท

ออกรถใหม่ต้องระวัง ! ป้ายแดงปลอม เอาตัวรอดง่าย ๆ แค่ช่างสังเกตเท่านั้น

กฎหมายข้างต้นที่กล่าวถึงรถป้ายแดง จะเห็นแล้วว่าโทษปรับก็สูงพอประมาณแล้ว แต่มีปัญหาใหญ่มากกว่านั้นอีกนะรู้หรือยัง ? นั่นก็คือเรื่องของการใช้ “ป้ายแดงปลอม” เป็นป้ายทะเบียนที่ไม่ได้ออกให้โดยขนส่ง โดยโชว์รูมรถจะมอบให้ ซึ่งผู้ซื้อส่วนมากก็ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ การใช้ป้ายแดงปลอมจะมีโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 100,000 บาท โทษจำคุกอีก 6 เดือน ถึง 5 ปี วิธีสังเกตว่าเป็นป้ายแท้ หรือ ป้ายปลอม ก็มีวิธีง่าย ๆ เพียงมองหา ตัวย่อนูน “ขส” ที่บริเวณมุมขวาล่างของป้ายแดง และ มีลายน้ำเครื่องหมายราชการของกรมการขนส่งทางบก

รถป้ายแดงทำประกันภัยรถยนต์ได้หรือไม่ ? เคลมได้เลยไหม

การออกรถป้ายแดงโดยส่วนมาก มักจะมาพร้อม “ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1” อยู่แล้ว และจะได้รับความคุ้มครองในทันที หลังจากถอยรถออกจากโชว์รูม เนื่องจากรถป้ายแดงถูกระบุเอาไว้ ว่าเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ ! ถ้าฝ่าฝืนกฎหมายรถป้ายแดงที่กล่าวไปข้างต้น หรือ ละเลยต่อข้อบังคับของบริษัทประกันภัย ก็มีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธความคุ้มครองได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เข้าใจถึงความคุ้มครองที่ถูกต้อง อย่าลืมอ่านรายละเอียดของประกันภัยรถยนต์ ที่มาพร้อมกับตัวรถใหม่ป้ายแดง โดย ! ละ ! เอียด !

บทส่งท้าย

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ กฎหมายรถป้ายแดง น่าจะช่วยให้ผู้ที่กำลังออกรถใหม่ ได้เข้าใจถึงขอบเขตการใช้รถที่ถูกต้อง และไม่กระทำการใด ๆ ที่ผิดจากข้อกฎหมาย เพราะโทษปรับนั้นถือว่าสูงกว่ากฎหมายจราจรทั่วไปพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับบทความนี้ก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับท่านใดที่สนใจประกันภัยรถยนต์ อย่าลืมว่า SILKSPAN พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดให้คุณได้เสมอ เพียงกรอกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างนี้ ทีมงานของเราพร้อมจะติดต่อคุณกลับไป พร้อมทำให้การซื้อประกันรถยนต์ของคุณ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาทันตาเห็น