ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี 2567 ต้องอบรมไหม ใช้เอกสารอะไรบ้าง
การทำใบขับขี่ถือสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ใช้รถทุกคน เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันความสามารถในการขับขี่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สำหรับมือใหม่ที่ใบขับขี่กำลังจะหมดอายุ อาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีว่า ต้องดำเนินการอะไรยังไงบ้าง วันนี้ SILKSPAN ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ต้องรู้ เช่น การอบรม เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ และขั้นตอนดำเนินการ ใครอยากรู้รายละเอียดติดตามกับ SILKSPAN ได้ในบทความนี้
ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ต้องอบรมไหม?
สำหรับการต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการอบรมใดๆ สามารถจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ด้วยแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ DLT Smart Queue ได้เลย และ Waik-in เข้าไปที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกแต่ละพื้นที่ได้เลย ส่วนการอบรมนั้นจะบังคับเฉพาะการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีเท่านั้น
ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปีล่วงหน้าได้กี่เดือน
การต่อใบขับขี่ชั่วคราว หรือก็คือ ใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปีนี้ สามารถดำเนินการต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วัน หรือ 6 เดือน ซึ่งการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี ก็ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน
เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี มีอะไรบ้าง
การต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปีใช้เอกสารเพียง 3 อย่าง ดังนี้
- ใบขับขี่เดิม
- บัตรประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน (ไม่เกิน 30 วันก่อนหน้าวันต่อใบขับขี่)
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี
1.ทำการเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่
ไม่ว่าจะเป็นตัวบัตรประชาชน ใบขับขี่ใบเดิ และใบตรวจสุขภาพ
2.สามารถเลือกได้ระหว่างการจองคิวล่วงหน้า หรือจะเป็นการ Walk In
-
การจองคิวหน้า
การเลือกจองคิวล่วงหน้าสำหรับการต่อใบขับขี่นั้นจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการเพิ่มมากยิ่งขึ้น และการเลือกจองคิวล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการดำเนินการ และเวลาได้ค่อนข้างชัดเจน สามารถทำการจองคิวต่อใบขับขี่ทางออนไลน์ (อ่านวิธีจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์) โดยทำการเลือกประเภทของรถยนต์ที่ต้องการจะต่ออายุ พร้อมกรอกข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ของเรา หรือถ้าในกรณีที่ทำใบขี่หายก็ยังสามารถทำการจองคิวได้โดยการเลือกช่อง “ใบอนุญาตขับรถสูญหาย / ไม่ทราบวันหมดอายุ / ใช้หนังสือรับรองการอบรม” แทนได้เช่นกัน
-
การ Walk In เข้าทำการต่อใบขับขี่
ด้วยวิธีการต่อใบขับขี่แบบ Walk In นี้ สำหรับผู้ที่ต้องการทำการต่ออายุใบขับขี่สามารถเลือกเดินทางมาที่กรมขนส่งใกล้บ้าน ภายในวันที่ต้องการต่อใบขับขี่ได้เลย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00-15.30 น.
*โดยทางกรมขนส่งจะให้สิทธิ์ผู้ที่ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าได้รับบริการก่อนผู้ที่ Walk In ตามลำดับ*
3.เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่สะดวกตามวันนัด หรือวันที่ต้องการ
ทำการเข้าคิว และแสดงเอกสารการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่สำหรับผู้ที่ทำการจองคิวล่วงหน้าเข้ามา และทำการแสดงเอกสารสำคัญในการต่อใบขับขี่
4.ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 4 ข้อ
ได้แก่
- ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
5.ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่
พร้อมทำการชำระค่าออกใบขับขี่ใบใหม่
ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
การต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี มีค่าใช้จ่าย 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ 5 บาท)
หากขาดต่อใบขับขี่ ต้องทำอย่างไร
- กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่
- กรณีสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนอบรม / ทดสอบข้อเขียน / ทดสอบขับรถ
ไม่ต่อใบขับขี่มีโทษอย่างไร
ในกรณีที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุและยังนำมาใช้งานตามปกติ มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษปรับ 2,000 บาท โดยใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 1 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ทั้งหมด มีจำนวน 50 ข้อ ซึ่งจะต้องตอบให้ถูก 45 ข้อขึ้นไป และใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 3 ปี จะต้องสอบใหม่ทั้งการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
ซื้อประกันรถยนต์ต้องใช้ใบขับขี่ไหม
การทำประกันรถยนต์ไม่ว่าประเภทไหนก็ตาม ต้องใช้สำเนาใบขับขี่ของผู้เอาประกันภัย เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในการขับขี่ของคุณ ในทางกลับกันหากผู้ขับขี่รถยนต์ของคุณไม่มีประวัติการทำใบขับขี่ กรณีนี้ทางบริษัทจะให้ปฏิเสธการคุ้มครองความเสียหายรถของคุณ และรับผิดชอบเฉพาะทรัพย์สินของฝั่งคู่กรณีตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
สรุปเกี่ยวกับการต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี
ใบขับขี่เป็นเอกสารราชการที่สำคัญ เมื่อใกล้หมดอายุควรรีบดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อความสบายใจ และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสิทธิประโยชน์ในการใช้รถของตัวคุณเอง และถ้าให้ดีควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด สามารถเข้าไปดูกรมธรรม์จากบริษัทชั้นนำได้ที่เว็บไซต์ของ SILKSPAN รับประกันความคุ้ม ดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง