ที่เที่ยวช่วงปีใหม่ เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้าน ไปได้ทั้งครอบครัว
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ หลายคนคงกำลังมองหาที่เที่ยวสวย ๆ เพื่อจัดทริปเที่ยวไปฉลองกับครอบครัว หรือเพื่อน ๆ อยู่แน่นอน SILKSPAN จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยมาแนะนำ การันตีวิวสวยงามระดับล้าน แต่ใช้งบประมาณไม่เกินพัน ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้าน ห้ามพลาดบทความนี้เลย!
ปักหมุด 10 ที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านทั่วไทย
10 ที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านที่ SILKSPAN จะแนะนำต่อไปนี้ ตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวนอกกรุงเทพฯ ที่มีวิวสวยงาม บรรยากาศดี แต่ไม่อยากจ่ายแพง มีครบทั้งน้ำตก ทะเล ภูเขา สถาปัตยกรรม และวัดวาอาราม แต่ละที่จะมีความน่าสนใจอย่างไร ตามไปดูกันเลย
1. สะพานมอญ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
เริ่มที่เที่ยววิวหลักล้านแรกอย่าง “สะพานมอญ” หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมระหว่างอำเภอสังขละบุรีกับหมู่บ้านมอญ ด้วยความยาวกว่า 850 เมตร ทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสังขละบุรี โดยเฉพาะในยามเช้าที่สายหมอกลอยปกคลุมเหนือผืนน้ำจนทำให้ดูเหมือนกับภาพวาดจิตรกรรมที่แสนสวยงาม
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสะพานมอญสามารถเดินเล่นชมวิว ถ่ายภาพ หรือนั่งเรือชมบรรยากาศโดยรอบได้ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300 บาทเท่านั้น และยังสามารถแวะไปทำบุญที่วัดวังก์วิเวการาม หรือเดินชมตลาดชาวมอญในช่วงเช้าได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่เหมาะกับการเที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านอย่างแท้จริง
2. หาดเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
“หาดเขาเต่า” เป็นชายหาดที่มีความสวยงามและเงียบสงบ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินเพียง 7 กิโลเมตร มีจุดไฮไลท์สำคัญคือเขาเต่าที่ยื่นลงไปในทะเลจนเกิดเป็นอ่าวน้อยใหญ่ที่มีความสวยงาม น้ำทะเลใสสะอาด และมีชายหาดที่ทอดยาวกว่า 3 กิโลเมตร จึงเหมาะแก่การพักผ่อนและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากที่สุด
นอกจากนี้บนยอดเขาเต่ายังมีวัดเขาเต่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาขนาดใหญ่และหันหน้าออกสู่ทะเลด้วย นับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปสักการะและชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินได้ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของการเที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านที่คุณไม่ควรพลาดเลย
3. ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ต่อด้วยที่เที่ยวยอดฮิตตลอดกาลอย่าง “ม่อนแจ่ม” ที่คนทั่วโลกล้วนอยากมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต ไม่เพียงแค่ที่นี่จะมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แต่ยังมีจุดแลนด์มาร์กให้เที่ยวชมมากมาย เช่น สกายวอล์คม่อนแจ่มที่เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ เป็นสะพานไม้ทอดยาวตกแต่งด้วยดอกไม้สีสันสดใส สามารถเดินเล่นพร้อมชมวิวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามและทะเลหมอกได้เลย หรือจะไปสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ แหล่งรวมพันธุ์ไม้จากทั่วโลก ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะมาเที่ยวกับคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือครอบครัว ก็รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักมนต์เสน่ห์ของม่อนแจ่มแน่นอน
4. ดอยเสมอดาว อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
แต่ถ้าคุณไม่อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงสิ้นปี “ดอยเสมอดาว” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านที่ไม่ควรมองข้ามเลย โดยที่นี่จะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน และมีความสูงประมาณ 1,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นจุดชมวิวธรรมชาติ รวมถึงดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดน่านเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจ สามารถขับรถมาตอนเช้า หรือจะมากางเต็นท์พักแรมเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้เลย ถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็นภาพทะเลหมอกสีขาวที่ปกคลุมหุบเขาสลับซับซ้อน ที่ไม่ว่าใครได้ชมก็ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นภาพที่งดงามราวกับอยู่บนสวรรค์เลย
5. ทะเลบัวแดง อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
ไม่ใช่แค่ภาคเหนือเท่านั้นที่มีเที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้าน ภาคอีสานของบ้านเราก็มีที่เที่ยวน่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง “ทะเลบัวแดง” หรือ “บึงหนองหาน” แหล่งชมดอกบัวแดงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 22,500 ไร่ จัดเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวช่วงสิ้นปีมากที่สุด เพราะในช่วงปลายปีถึงต้นปี ดอกบัวจะบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ สร้างภาพที่สวยงามตระการตา เหมือนผืนผ้าสีชมพูแดงขนาดใหญ่ปูลาดอยู่บนผิวน้ำเลย โดยค่าบริการเช่าเรือชมทะเลบัวแดงจะอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อรอบ นั่งได้สูงสุด 8 คน หรือตกคนละ 50 บาทเท่านั้นเอง!
6. ย่านเมืองเก่า อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
หากคุณเป็นคนที่ชอบงานสถาปัตยกรรม ชอบเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิม เราขอแนะนำให้ลงใต้ไปเที่ยว “ย่านเมืองเก่าภูเก็ต” เลย เพราะตึกเก่าแก่ของเมืองแห่งนี้ยังคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส (Sino Portuguese) ไว้ได้อย่างดี และตามตรอกซอกซอยยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ ๆ สตรีทอารต์สวย ๆ บนถนนจะตกแต่งด้วยหลอดไฟและโคมไฟสไตล์จีนเข้ากันอย่างลงตัว ถ้าคุณได้มาเดินชมในช่วงเย็น ๆ ที่เริ่มเปิดไฟแล้ว และฉากหลังเป็นแสงพระอาทิตย์ตกยามเย็น รับรองว่าคุณจะได้ถ่ายภาพเมืองที่สวยงามสมกับเป็นที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านแน่นอน
7. เกาะห้อง จังหวัดกระบี่
สำหรับคนที่ชอบทะเลแต่ไม่อยากไปภูเก็ต “เกาะห้อง” คือคำตอบที่ดีที่สุด ด้วยความที่เป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามที่สุดในทะเลกระบี่ มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่อ่าวซึ่งมีลักษณะคล้ายห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยผาหินปูนสูงชัน น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต และชายหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาวสุดสายตา ยิ่งในช่วงที่น้ำทะเลใส ท้องฟ้าสีคราม ภาพที่เห็นยิ่งดูมหัศจรรย์ราวกับภาพวาดในนิทานเลย
นอกจากชมธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ที่เกาะห้องยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย เช่น พายเรือคายัค เดินเล่นบนชายหาย หรือดำน้ำชมปะการังสวย ๆ ไม่ว่าจะมากับคู่รัก ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ก็ประทับใจกับที่เที่ยววิวหลักล้านแห่งนี้อย่างแน่นอน!
8. วัดไชยวัฒนาราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากทะเลใต้ เรามาต่อกันที่มรดกโลกอย่าง “วัดไชยวัฒนาราม” วัดโบราณที่มีความสวยงามโดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงลังกาองค์ใหญ่ที่มีเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบล้อมรอบ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แห่งกรุงศรีอยุธยา ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความงดงามที่สุดในประวัติศาสตร์อยุธยา โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงสีทองที่สาดส่องลงมากระทบกับยอดเจดีย์จะสร้างภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดโบราณ ใครที่อยากได้รูปสวย ๆ กับฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณห้ามพลาดที่นี่เลย
9. วัดร่องขุ่น อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ถ้าพูดถึงวัดที่สวยที่สุดในเมืองไทย เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง “วัดร่องขุ่น” แน่นอน โดยวัดแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่สร้างสรรค์วัดสีขาวบริสุทธิ์ประดับประดาด้วยกระจกจนสะท้อนแสงแวววาวราวกับเพชร ผสมผสานกับลวดลายไทยที่อ่อนช้อยและงดงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาวิหารแห่งศิลปะล้านนาร่วมสมัย โดยเราแนะนำให้มาในช่วงเช้า เพราะเป็นเวลาที่แสงแดดสาดส่องลงมากระทบกับตัวอุโบสถจนเกิดประกายระยิบระยับขึ้นมา จัดภาพที่สวยงามจนขอยกให้เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านที่ควรไปในช่วงสิ้นปีนี้เลย
10. น้ำตกสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
ปิดท้ายที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านด้วย “น้ำตกสาริกา” หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของจังหวัดนครนายก ด้วยความที่มีถึง 9 ชั้น และแต่ละชั้นก็มีความสวยงามไม่ซ้ำกัน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยแต่อยากหลีกหนีความวุ่นวายไปสัมผัสธรรมชาติสุด ๆ หากในช่วงสิ้นปีนี้คุณยังไม่มีแผนจะไปเที่ยวไหน เราขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เลย แค่จ่ายค่าธรรมเนียมเพียง 40 บาท ก็สามารถเดินเที่ยวชมน้ำตกได้ทั้งวัน มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และจุดพักผ่อนหลายจุด ไม่ลำบากแน่นอน
ทำประกันภัยรถยนต์กับ SILKSPAN เที่ยวอุ่นใจ พร้อมคุ้มครองทุกการเดินทาง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 ที่เที่ยวหลักร้อยวิวหลักล้านที่ SILKSPAN นำมาฝากในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนได้ไอเดียในการจัดทริปเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ สามารถพักผ่อนอย่างเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ และเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุข แต่ก่อนออกเดินทาง อย่าลืมเตรียมความพร้อมให้กับรถยนต์ของคุณด้วย โดยเฉพาะการทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อที่จะได้เดินทางอย่างอุ่นใจ
พิเศษ! สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ หรือกำลังมองหาที่ต่อประกันภัยรถยนต์อยู่ สามารถจองสิทธิ์ซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากับ SILKSPAN ได้แล้ววันนี้ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้มากมายจากหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสุดคุ้มสูงสุด 30% ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเงินสด ได้สูงสุด 10 เดือน พร้อมบริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉินและเบิกค่าเดินทาง หากสนใจ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย!
