การันตีเช็กเบี้ยประกันรถถูกลง 30%

อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ! หากยังไม่ได้อ่านบทความนี้


อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ! หากยังไม่ได้อ่านบทความนี้

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทั่วโลกตอนนี้ กำลังตื่นตัวเกี่ยวกับ “วิกฤติโลกเดือด” ซึ่งพัฒนามาจาก “โรคร้อน” แน่นอนว่าสาเหตุเกิดมาจาก การที่มนุษย์อย่างเรา ๆ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ และประมาณ 25% ของก๊าซเรือนกระจก ก็เกิดจากควันจากท่อไอเสียของรถสันดาป แต่เดี๋ยวก่อน ! เราเข้าใจว่าคุณเองก็รักโลก ทว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้ามาใช้ เพียงแค่คุณอยากดูแลโลกเท่านั้น เนื่องจากยังมีเรื่องมากมายที่คุณควรรู้เสียก่อน แล้วบทความนี้เราจะนำเรื่องราวเหล่านั้นมาเล่าให้คุณฟัง

 

เทรนด์ รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2567 ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่หรือไม่ ?

เริ่มแรกนั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ได้เป็นที่ยอมรับสักเท่าไหร่ ด้วยข้อกังวลในส่วนของสถานีชาร์จพลังงาน ที่ยังไม่ได้แพร่หลาย และ เรื่องของสมรรถนะที่เป็นยังไม่ได้รับการยอมรับ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ข้อกังวลต่าง ๆ ก็เริ่มคลี่คลายไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้คนไทยเปิดใจกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จากสถานีชาร์จที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง พร้อมกับราคาของรถเก๋งไฟฟ้าที่ค่อย ๆ ลดเพดานลงมา และ ยังมีนโยบายจากหน่วยงานรัฐ ที่มอบส่วนลดเมื่อซื้อรถไฟฟ้าสูงสุดถึง 100,000 บาท จากข้อมูลทั้งหมดเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี ว่ารถไฟฟ้าในปี 2567 ก็ยังคงน่าสนใจเช่นเคย

 

แนะนำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองในปัจจุบัน

ความน่าสนใจของเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า คือการที่เราได้รู้จักกับรถยนต์แบรนด์ใหม่ ๆ อีกมากมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เราแทบจะไม่เคยรู้จักกับมันมาก่อน แม้จะเป็นแบรนด์รถยนต์สันดาปที่เราคุ้นเคย ก็ค่อย ๆ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ท้องตลาดมากยิ่งขึ้น จนทำให้ตอนนี้มีหลายแบรนด์ที่น่าจับตามอง ซึ่งเราขอหยิบเอาแบรนด์เด่น ๆ ที่กำลังเป็นที่สนใจในช่วงเวลานี้ มาทำการแนะนำพอหอมปากหอมคอ ดังต่อไปนี้

  • Tesla รถยนต์ไฟฟ้าจากเทสล่า น่าจะเป็นแบรนด์ที่ยืนหนึ่งในช่วงเวลานี้ ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยภายในรถ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ไปจนถึงสมรรถนะที่น่าประทับใจ
  • MG โดยเฉพาะรุ่น MG EP เป็นรถไฟฟ้ายอดฮิตของคนไทย เนื่องจากราคาที่ไม่แพง ห้องโดยสารกว้าง ความจุของแบตเตอรี่ที่เพิ่มมาเป็นพิเศษ มาพร้อมระบบ Quick Charge 0-80% ภายใน 40 นาที
  • NETA ในรุ่น NETA V กำลังได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากคนไทย เนื่องจากมีสมรรถนะที่น่าประทับใจ ด้วยมอเตอร์ 95 แรงม้า เหมาะกับการขับขี่ในเมือง จากรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว
  • BYD หรือ “เจ้าแมวน้ำ” ขวัญใจคนไทยสาย EV โดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด 100% ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และสมรรถนะที่ไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ
  • ORA อีกหนึ่งรถเก๋งไฟฟ้าราคาสบายกระเป๋า ด้วยขนาดของรถที่กะทัดรัด จึงเหมาะกับการใช้งานในเขตเมือง ที่มีการจราจรแออัดเป็นพิเศษ แถมรูปลักษณ์ก็ทำออกมาได้อย่างสวยงาม

ประกันรถยนต์ชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 750

3 เรื่องที่คุณควรต้องรู้ ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน

หลังจากนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าไปพอสมควรแล้ว ในที่สุดก็มาถึงหัวข้อหลักใจความสำคัญของบทความนี้ เป็นการหยิบเอาเรื่องที่คุณควรจะต้องพิจารณาให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเราได้หยิบเอาข้อมูลที่พบได้ในปี 2567 มาฝาก คาดว่าในอนาคตอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาที่กำลังกล่าวถึงอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นยังไงเราจะหยิบประเด็นนี้กลับมาอัปเดตกันอีกครั้ง เอาล่ะ ! ไปดูกันเลยว่า 3 สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

1. เบี้ยประกันของรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่ารถสันดาป

ถึงราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะค่อย ๆ ลดลงมาแล้ว จากเดิมที่เปิดตัวมา ราคาค่อนข้างสูง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรถสันดาปที่เราคุ้นเคย แต่หนึ่งสิ่งที่ยังไม่ลดลงมาก็คือ “เบี้ยประกัน” เนื่องจากรถไฟฟ้าส่วนมาก จะมีเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ค่าอะไหล่ในแต่ละส่วนก็ค่อนข้างแพง ถึงจะไม่ค่อยสึกหรอเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดความเสียหายแล้วมูลค่าที่ต้องจ่ายนั้นแพงกว่ารถสันดาปเยอะมาก ทว่าในปัจจุบันเราเริ่มเห็น ประกันรถยนต์ที่ถูกออกแบบเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ คาดว่าอีกไม่นานราคาเบี้ยประกันน่าจะถูกลงตาม ตามราคาของรถ

2. จะต้องมีสถานีชาร์จในบ้าน หรือ พื้นที่ใกล้เคียง

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า รถ EV (Electric Vehicle) จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อน เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นในระหว่างการใช้งาน คุณควรจะประเมินระยะทางให้ดี ว่าเส้นทางที่คุณใช้เป็นประจำนั้นมีสถานีชาร์จหรือไม่ ? เพราะถ้าต้องการชาร์จแบตเตอรี่ฉุกเฉิน ไม่ใช่ว่าคุณจะนำเอาปลั๊กบ้าน ๆ มาเสียบแล้วก็ชาร์จได้เลย จะต้องเป็นที่ชาร์จเฉพาะเท่านั้น ซึ่งในการติดตั้งจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ ในบางบ้านอาจจะต้องขอมิเตอร์ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้การชาร์จรถไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

3. คุณภาพของแบตเตอรี่ที่เสื่อมถอยในทุก ๆ ปี

จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้าคือ “แบตเตอรี่” เนื่องจากมีราคาที่แพงมาก เป็นราคากว่า 70% ของรถทั้งคันเลยทีเดียว ส่งผลให้เวลามีความเสียหายที่แบตเตอรี่ มักจะมาพร้อมกับค่าซ่อมบำรุงที่หนักหนาเอาการ แถมยังเสื่อมสภาพอยู่ตลอดการใช้งานอีกด้วย กล่าวโดยง่ายก็คือแบตเตอรี่จากแรกเริ่มใช้งานได้ 100% เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เรียกกันบ้าน ๆ ก็ “แบตเสื่อม” นั่นเอง แม้จะมีการรับประกันแล้วว่า แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานกว่า 10 ปี ก็ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยบางกลุ่มได้

อย่าเพิ่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ! หากยังไม่ได้อ่านบทความนี้

บทส่งท้าย

ถึงจะยังมีความกังวลอยู่บ้างบางประการ แต่ถึงอย่างไรรถยนต์ไฟฟ้าก็น่าจะเป็นนวัตกรรมเพื่ออนาคต ที่ได้รับการพัฒนาไปเรื่อย ๆ เพื่อกลบจุดด้อยในปัจจุบันอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า เราก็ขอแนะนำให้คุณอดใจรออีกสักหน่อยน่าจะดีกว่า เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีรถรุ่นใหม่ ๆ ที่มีราคาถูกลง และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ถูกปล่อยออกมาสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์สันดาป ก็อย่าลืมมองหาประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ดี ๆ จาก SILKSPAN ติดรถเอาไว้ รับรองเลยว่ามีไว้อุ่นใจกว่า แม้จะมีเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ก็ยังยิ้มได้


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 19/07/2024
โปรโมชั่นแนะนำ
“เช็กเบี้ยประกันรถ
เซฟกว่าเดิม 30%”

กำลังโหลด