บัตรเครดิต อนุมัติง่าย ทราบผลเร็ว ไม่ยาก

เตือนใจสายรูด ! เป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง ?


อยากทำบัตรเครดิตต้องอ่าน ! เป็นหนี้บัตรเท่าไหร่ ? ถึงจะโดนฟ้อง

บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่คนวัยทำงานหลาย ๆ คนใฝ่ฝันหา เพราะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การจับจ่ายใช้สอยเป็นไปอย่างสะดวกสบาย อยากซื้ออะไรก็สามารถรูดก่อน แล้วค่อยมาผ่อนเอาทีหลัง สิ่งของบางอย่างก็สามารถผ่อนแบบ 0% ได้อีกด้วย แต่ก็มีหลายต่อหลายคน ที่เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งจนเกินไป จนทำให้เกิดหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถใช้คืนได้ตามกำหนด หากยิ่งปล่อยปละละเลยก็อาจทำให้ถูกสถาบันการเงินฟ้อง บทความนี้เรามาดูกันว่า ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ถึงโดนฟ้อง ? และเมื่อถูกฟ้องร้อง ต้องดำเนินการอย่างไร ?

 

ต้องติดหนี้บัตรเครดิตเท่าไหร่ ? ถึงจะโดนฟ้อง มีการเตือนก่อนไหม

การติดหนี้บัตรเครดิตจนถึงขั้นถูกฟ้องร้อง นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะก่อนจะถึงขั้นนั้น จะมีการทวงถามหนี้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น ทางจดหมาย การโทรติดต่อ หรือ การส่งข้อความ ถ้าทวงถามแล้วคุณก็ยังนิ่งเฉย จนเป็นระยะเวลาเกินกว่า 3 เดือน และจำนวนหนี้บัตรเครดิตที่เกินกว่า 2,000 บาท ทางสถาบันการเงินก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณ ด้วย “คดีแพ่ง” แต่สถาบันการเงินอาจไม่ได้ฟ้องคุณในทันที เพราะอายุความของคดีมีอายุอยู่ถึง 2 ปี นับจากวันแรกที่ผิดนัดชำระหนี้ ถึงจะยังไม่โดนฟ้องก็อย่านิ่งนอนใจไป

 

อยากทำบัตรเครดิตต้องอ่าน ! เป็นหนี้บัตรเท่าไหร่ ? ถึงจะโดนฟ้อง

ขั้นตอนทางกฎหมาย หากถูกฟ้องร้องเนื่องจากเป็นหนี้บัตรเครดิต

จะรู้ได้อย่างไร ว่าถูกสถาบันการเงินฟ้อง เพราะติดหนี้บัตรเครดิต ? เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะจะมีหมายศาลมาส่งโดยตรงถึงมือคุณ ในขั้นตอนนี้อาจยังไม่ต้องตกใจจนเกินไป เพราะเป็นเพียงการนัดหมายให้ไปพิจารณาคดีที่ศาลตามวันเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยหลังจากได้หมายศาล ขั้นตอนทางกฎหมายที่คุณจะต้องเตรียมตัว ก็จะมีดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบรายละเอียดที่อยู่ในหมายศาล จำนวนเงิน วันนัดหมาย ชื่อสกุล ศาลที่จะต้องเดินทางไป เพื่อมองหาว่ามีส่วนไหนที่ผิดไปจากความจริงหรือไม่
  • เตรียมเอกสารที่จำเป็นทุกอย่างไปแสดงต่อศาล เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาคดี บัตรประชาชน , สำเนาทะเบียนบ้าน , หลักฐานการชำระหนี้ , หนังสือทวงหนี้ , เอกสารแสดงรายได้ หรือ เอกสารอื่น ๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐาน เกี่ยวกับการพิจารณาคดี หากมีข้อโต้แย้งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
  • หากยอมรับว่าเป็นการติดหนี้บัตรเครดิตจริง ๆ ไม่มีเรื่องราวซับซ้อน ก็ให้เดินทางไปศาลเพื่อไกล่เกลี่ย หาทางออกร่วมกันว่าจะชำระอย่างไร ถ้าตกลงกันได้ก็อาจไม่มีการพิจารณาคดี
  • กรณีที่มีความซับซ้อนในด้านคดี อาจจำเป็นต้องมองหาทนายความ มาช่วยว่าความในชั้นศาล เช่น กรณีที่ไม่ได้เป็นคนสร้างหนี้ก้อนนี้ขึ้นมา โดนมิจฉาชีพนำบัตรไปใช้ หรือ จะใช้ทนายมาไกล่เกลี่ยก็ได้เช่นกัน

การหลีกเลี่ยงไม่ไปศาลเพื่อพิจารณาคดี ศาลก็ยังสามารถพิจารณาคดีได้ และจะส่งผลเสียต่อตัวคุณอีกด้วย เพราะไม่สามารถโต้แย้ง หรือ ไกล่เกลี่ยกับทางสถาบันทางการเงิน ทำให้ผลของการพิจารณาคดีค่อนข้างไปในทิศทางลบ เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไร ก็ควรเดินทางไปศาลเพื่อชี้แจง ไกล่เกลี่ย หาข้อตกลงร่วมกันจะเป็นการดีที่สุด

บัตรเครดิต อนุมัติง่าย ทราบผลเร็ว ไม่ยุ่งยาก

ผลเสียที่ตามมา หากติดหนี้บัตรเครดิตจนถูกฟ้อง

การติดหนี้บัตรเครดิตไม่จ่ายจนถึงขั้นที่ต้องถูก “ฟ้องร้อง” แสดงว่าคุณกำลังอยู่ในวิกฤติทางการเงินอย่างสมบูรณ์ ปัญหาแรกที่คุณจะต้องเผชิญ คือต้องหาเงินมาชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และ ค่าทวงถาม ซึ่งจะมากกว่าเงินต้นไปเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ไหนจะเรื่องของค่าทนายความที่จะต้องเสียอีก การพิจารณาหากเป็นไปด้วยดี ก็จะเป็นแค่การไกล่เกลี่ยแล้วผ่อนชำระหนี้ตามข้อตกลง ในกรณีที่เลวร้ายหน่อยก็อาจถูกยึดทรัพย์ อายัดเงินเดือน อายัดทรัพย์สินที่อาจได้มาในอนาคต เท่านั้นยังไม่พอ เครดิตที่เสียไปก็ส่งผลให้ขอสินเชื่อต่าง ๆ ได้ยากต่อจากนี้

 

ทางออกสำหรับผู้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่ไม่อยากปล่อยให้ถึงขั้นฟ้องร้อง

เมื่อเป็นหนี้แน่นอนว่า เราต้องใช้หนี้ให้ครบ การเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ใช่ว่าจะโดนฟ้องร้องกันง่าย ๆ คนที่โดนฟ้องร้องส่วนมาก มักจะเป็น “ลูกหนี้ไม่ดี” เพราะติดหนี้บัตรเครดิตไม่จ่ายติดต่อกัน ผิดนัดชำระ เลื่อนชำระ จ่ายแต่ขั้นต่ำ หรือ มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ หากคุณไม่อยากให้เรื่องราวถึงขั้นฟ้องร้อง ควรแสดงตนอย่างชัดเจนว่าเป็น “ลูกหนี้ที่ดี” ถ้ารู้สึกว่าหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่นั้น หนักหนาเกินไป ให้ตบเท้าเข้าไปคุยกับสถาบันการเงินตรง ๆ เพื่อหาแนวทางการจัดการหนี้ โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

  • เจรจาประนอมหนี้

ทางเลือกที่ดีเมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ใช่การเดินหนี แต่ควรเป็นการเดินเข้าหา อาจต้องใช้ความกล้าสักหน่อย แต่รับรองว่าทำให้คุณสบายใจได้มากกว่าเดิมแน่นอน เพียงเดินทางไปที่สถาบันการเงินที่คุณเป็นหนี้อยู่ จากนั้นก็แจ้งความประสงค์ที่จะประนอมหนี้ ทางสถาบันทางการเงินก็จะหาทางออกร่วมกัน เช่นการ ลดดอกเบี้ย , ยืดระยะเวลาการชำระ , ลดจำนวนเงินในแต่ละงวด หรือ ขอหยุดดอกเบี้ยชั่วคราว เป็นต้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถาบันทางการเงิน ว่าจะมอบตัวเลือกใดให้กับคุณ แต่คุณจะต้องแสดงให้เห็นว่า พยายามจะจ่ายหนี้ก้อนนี้จริง ๆ

  • รวมหนี้บัตรเครดิต

การรวมหนี้บัตรเครดิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนี้จากบัตรเครดิตหลายใบ รวมถึงมีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการนำหนี้ทั้งหมดที่คุณมี มารวมเป็นหนี้ก้อนเดียว ทั้งนี้รวมถึงหนี้นอกระบบด้วย โดยจะเป็นการขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินแห่งใดแห่งหนึ่ง เป็นทางเลือกที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะช่วยลดดอกเบี้ยสูง ๆ ที่กำลังเผชิญให้น้อยลง และยังเป็นการชำระหนี้กับเจ้าหนี้เพียงเจ้าเดียว สามารถจัดการวางแผนได้ง่ายกว่า มีระยะเวลาการชำระหนี้ที่แน่นอน ช่วยสร้างสภาพคล่องทางการเงินได้ชั่วคราว เพื่อตั้งหลักแล้วตั้งหน้าตั้งตาชำระหนี้ต่อไป

 

บทส่งท้าย

หากคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จากภาระหนี้สินที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิต เราขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านเรื่องนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด ยังมีแนวทางการเคลียร์หนี้อีกหลายอย่าง อย่ากลัวที่จะเข้าไปเจรจาตรง ๆ กับสถาบันทางการเงิน อย่าหลบหนี อย่าหลีกเลี่ยง และ ที่สำคัญห้ามไปกู้ยืมเงินนอกระบบ มาใช้ปิดหนี้โดยเด็ดขาด เมื่อผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ ก็อย่าลืมปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เงิน เพิ่มวินัยทางการเงินให้มากขึ้น แล้วคุณจะรู้ว่าการไม่มีหนี้ คือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดแล้ว


เขียนโดย : SILKSPAN ADVISOR
เผยแพร่วันที่ : 06/04/2025
โปรโมชั่นแนะนำ
taff-call
“เช็คเบี้ยประกันรถฟรี 24 ชม.”
line

กำลังโหลด