เป็นหนี้บัตรเครดิต จ่ายบัตรเครดิตไม่ไหว ผลเสียและวิธีแก้ไขที่คุณต้องรู้
แม้ว่าบัตรเครดิตจะเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการใช้จ่ายหรือผ่อนชำระสินค้าได้ก็ตาม แต่หากใช้จ่ายโดยไม่ระวัง หรือไม่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี จากที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกก็อาจจะกลายเป็นภาระแทนได้ โดยเฉพาะเมื่อติดหนี้บัตรเครดิตจนไม่สามารถจ่ายไหวทำให้มีผลเสียตามมาอีกหลายด้าน สำหรับใครที่อยากสมัครบัตรเครดิต หรือเริ่มมีหนี้บัตรเครดิตแล้วอยากให้ลองมาดูกันก่อนว่าถ้าไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตแล้วจะเกิดอะไรตามมาบ้าง
อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ถ้าไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นเรื่องง่าย แต่การจ่ายชำระหนี้ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นเรื่องยากเสมอ หลายคนจึงละเลยที่จะจ่ายหนี้บัตรเครดิต แต่ทราบหรือไม่ว่ายิ่งปล่อยให้เกิดหนี้บัตรเป็นเวลานานยิ่งส่งผลเสีย โดยเฉพาะ 5 ด้านต่อไปนี้
1. ส่งผลต่อสุขภาพจิต
ข้อแรกเลยก็คือสุขภาพจิตจะย่ำแย่ลงอย่างแน่นอน เพราะเมื่อไม่จ่ายหนี้เสียที่เกิดจากบัตรเครดิตย่อมถูกทวงถามจากทางธนาคารอยู่เป็นประจำอย่างแน่นอน เมื่อกลายเป็นคนที่ถูกทวงหนี้บ่อยครั้งก็ย่อมส่งผลให้เกิดความเครียด วิตกกังวลจนเกิดความกลัวว่าจะโดนข้อกฎหมายอะไรตามมาบ้าง ซึ่งปัญหาสุขภาพจิตยิ่งปล่อยไว้ยิ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายด้าน ทั้งไม่กล้าเข้าสังคม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอน
2. ถูกทวงถามหนี้ในหลายช่องทาง
หากปล่อยให้เกิดหนี้เสียจากบัตรเครดิตเป็นเวลานาน ทางสถาบันการเงินจะเริ่มติดต่อมาเพื่อทวงถามการจ่ายหนี้มากขึ้น และมาในหลายรูปแบบหลายช่องทาง เช่น ส่ง SMS โทรศัพท์สอบถาม ส่งจดหมายทวงถาม หรืออาจมีการโทรติดต่อเข้าไปยังเบอร์โทรที่ทำงาน ซึ่งหาถูกทวงถามแล้วยังไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต ก็จะถูกติดตามสอบถามอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะมีการชำระ
3. เสียเครดิต
เมื่อมีข้อมูลว่าติดหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่จ่าย ก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีบัญชีดำหรือที่เรียกว่าติดเครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลต่อการกู้เงินหรือขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินในอนาคตได้ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นการกู้ยืมผ่านสถาบันทางการเงินคนละแห่งแต่ข้อมูลของผู้ที่ไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตนั้นสามารถตรวจสอบได้ และส่งผลเสียได้ในระยะยาวแน่นอน
4. ถูกฟ้องร้อง
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากปล่อยให้การทวงถามการจ่ายหนี้บัตรเครดิตกินเวลานานก็คือ สถาบันการเงินจะส่งหมายศาลมาให้ ซึ่งนั่นหมายความว่าถูกสถาบันการเงินฟ้องร้องเป็นที่เรียบร้อย หากอยู่ในขั้นตอนนี้จริงๆ แนะนำว่าไม่ควรหลีกเลี่ยงและควรไปตามที่หมายศาลกำหนด เพราะหากไม่ไปตามที่หมายศาลนัดอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องสูญเสียอีกหลายสิ่งตามมา
5. ถูกยึดทรัพย์
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในขั้นที่ร้ายแรงมากที่สุดก็คือการถูกยึดทรัพย์สินที่เป็นชื่อของลูกหนี้ โดยศาลจะเป็นผู้ตัดสินและมีข้อกำหนดว่าสินทรัพย์ไหนบ้างที่สามารถยึดได้ เช่น หากผู้ติดหนี้บัตรเครดิตมีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน ก็จะถูกอายัตเงินเดือนได้ หรือหากไม่มีเงินเดือนก็จะถูกพิจารณายึดทรัพย์สินชนิดอื่นแทน
จ่ายบัตรเครดิตไม่ไหว ทำอย่างไรได้บ้าง?
เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้ แนะนำว่าไม่ควรปล่อยผ่านหรือเพิกเฉยกับภาระที่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบันมีช่องทางที่จะกู้สินเชื่อเพื่อมาชำระบัตรเครดิตได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่จะให้ผู้ยื่นขอสินเชื่อมีเงินก้อนมาปิดหนี้บัตรเครดิตเพื่อแล้วผ่อนชำระตามงวดที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งที่ยื่นกู้กำหนดไว้ ซึ่งวิธีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้นเหมาะกับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบเพราะเป็นวิธีที่ช่วยให้เหลือหนี้เพียงก้อนเดียว
นอกจากนี้ยังสามารถยื่นกู้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่ออเนกประสงค์เพื่อนำเงินก้อนมาปิดหนี้บัตรเครดิตได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการกู้สินเชื่อมาปิดหนี้บัตรเครดิตนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องจากสถาบันการเงิน และในระยะยาวยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย
ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างไรให้ปลอดหนี้
แม้ว่าการติดหนี้บัตรเครดิตจะสามารถรีไฟแนนซ์เพื่อมาปิดหนี้ได้ แต่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างเหมาะสม จะช่วยลดการเกิดหนี้เสียจากบัตรเครดิตในระยะยาวได้ ดังนั้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยวิธีต่อไปนี้จะช่วยให้ใช้บัตรเครดิตได้เกิดประโยชน์มากที่สุด
- ใช้จ่ายเฉพาะการผ่อนชำระจากโปรโมชั่น 0% สำหรับสินค้าที่มีราคาสูง
- หากมีบัตรเครดิตหลายใบ ควรบันทึกรอบวันตัดบัตรเครดิตเอาไว้ชัดเจน และไม่ควรชำระล่าช้ากว่ารอบตัดบัตรเพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ย
- ตรวจสอบสิทธิพิเศษของบัตรเครดิต รวมทั้งการใช้แต้มบัตรเครดิตเพื่อรับส่วนลดจากการซื้อสินค้า
- ควรประเมินความสามารถในการชำระคืนหนี้บัตรเครดิตในแต่ละงวดก่อนใช้จ่าย และไม่ควรใช้มากเกินกว่าความสามารถในการชำระแต่ละเดือน
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และในบางสถานการณ์บัตรเครดิตก็เป็นตัวช่วยให้สามารถใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้ อย่างไรก็ตามการใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าควรประเมินความเสามารถในการผ่อนชำระทุกครั้ง และไม่ควรที่จะใช้บัตรเครดิตในวงเงินที่สูงกว่ารายได้ของตัวเอง ทั้งนี้หากเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่สามารถจ่ายไหว ควรแจ้งกับสถาบันการเงินในทันทีเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดดีกว่าปล่อยให้ถูกฟ้องร้องดีที่สุด
