
เป็นหนี้บัตรเครดิต ต้องแก้อย่างไร ยากหรือไม่ มีคำตอบ

หากคุณกำลังประสบปัญหาเป็นหนี้บัตรเครดิต และกำลังมองหาวิธีจัดการปัญหาหนี้สินที่กำลังเผชิญอยู่ SILKSPAN มีคำตอบและแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมมาฝาก เพื่อช่วยให้คุณหลุดพ้นจากปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำวิธีการปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายให้เหมาะสม จะได้ไม่กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัวอีก
3 สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัว
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีแก้หนี้บัตรเครดิต สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้คือ “สาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัว” เพราะถ้าคุณรู้สาเหตุ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านั้นได้ และช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตซ้ำอีก โดยจะมี 3 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
1. ชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำเป็นประจำ
จุดเริ่มต้นแรกของการเป็นหนี้บัตรเครดิตที่เราพบได้บ่อย ๆ ก็คือ การซื้อสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ด้วยบัตรเครดิต แล้วพอถึงสิ้นเดือน เจ้าของบัตรเลือกที่จะชำระเงินขั้นต่ำแทนการชำระเงินเต็มยอด ซึ่งพฤติกรรมการใช้เงินล่วงหน้าแบบนี้ ไม่เพียงจะทำให้คุณมีหนี้ที่ไม่จำเป็น แต่ยังต้องเสียดอกเบี้ยให้กับธนาคารอีกด้วย
หากคุณมีพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตแบบนี้อยู่ เราแนะนำให้รีบปรับพฤติกรรมตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้ายังชำระเงินขั้นต่ำ และใช้บัตรเครดิตต่อไปเรื่อย ๆ ภายในระยะเวลาไม่นาน รับรองเลยว่า จะทำให้วงเงินบัตรเต็ม และเปลี่ยนหนี้ไม่กี่พันให้กลายเป็นหนี้หลักหมื่นแน่นอน!
2. เบิกถอนเงินสดในบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
การเบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัวได้ง่าย เพราะนอกจากจะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงถึง 16% ต่อปีแล้ว ยังต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิกถอนอีก 3% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปกติมาก
3. ใช้บัตรเครดิตหลายใบ
การมีบัตรเครดิตหลายใบทำให้คุณมีวงเงินรวมสูงกว่าความสามารถในการชำระหนี้มาก หากเป็นคนที่บริหารจัดการเงินเก่ง และเคลียร์ยอดบัตรเครดิตในแต่ละเดือนหมด ไม่จ่ายขั้นต่ำ ก็ไม่น่าห่วงอะไร แถมยังได้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตแต่ละใบอีกต่าง
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นคนที่บริหารจัดการเงินไม่เก่ง ไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายของบัตรเครดิตแต่ละใบให้ดี เมื่อรวมกับภาระค่าธรรมเนียมรายปีที่ต้องจ่ายในแต่ละใบแล้ว รับรองเลยว่า ในระยะยาวจะเสี่ยงเป็นหนี้บัตรเครดิตเกินตัวแน่นอน

5 ขั้นตอนแก้หนี้บัตรเครดิตเกินตัว ทำตามได้จริง
สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิต SILKSPAN มีวิธีแก้หนี้บัตรเครดิตมาแนะนำ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดูได้เลย!
1. หยุดใช้บัตรเครดิต และสรุปหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่มีอยู่
สิ่งแรกที่คุณต้องทำเมื่อเจอปัญหาหนี้บัตรเครดิตคือ หยุดใช้บัตรเครดิตทุกใบทันที และรวบรวมข้อมูลหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่มีอยู่มาเขียนสรุป โดยระบุให้ชัดเจนว่า แต่ละบัตรมียอดหนี้เท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อะไรบ้าง เพื่อให้เห็นภาพรวมของหนี้ทั้งหมด และวางแผนจัดการได้ง่ายขึ้น
2. ขอประนีประนอมหนี้บัตรเครดิต หรือปรับโครงสร้างหนี้
หลังจากที่รู้ยอดหนี้ทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตให้คุณ เพื่อขอเจรจาประนีประนอมหนี้บัตรเครดิต หรือปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ถ้ามีหนี้บัตรเครดิต KTC อยู่ ก็ลองขอประนอมหนี้ KTC ดู หรือขอลดอัตราดอกเบี้ย ขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือขอพักชำระหนี้ชั่วคราว ก็จะช่วยให้คุณมียอดผ่อนจ่ายต่อเดือนที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้นได้
3. ขอสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตเป็นก้อนเดียว
อีกหนึ่งทางเลือกในการจัดการหนี้บัตรเครดิตให้ง่ายขึ้นก็คือ การขอสินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิตทุกใบให้เป็นก้อนเดียว ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้มาก เพราะอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวมหนี้จะต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตแยกกันแต่ละใบ อีกทั้งยังทำให้การจัดการหนี้ง่ายขึ้น เพราะมีแค่หนี้ก้อนเดียว และมียอดผ่อนชำระที่ชัดเจนในแต่ละเดือน
4. ชำระหนี้ตามแผนที่วางไว้กับธนาคาร
เมื่อได้แผนการชำระหนี้ที่เหมาะสมแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การชำระหนี้ตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด หากเป็นไปได้ควรชำระมากกว่ายอดผ่อนขั้นต่ำที่กำหนด เพื่อให้สามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้น และประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้น นอกจากนี้ การชำระหนี้ตรงเวลายังช่วยรักษาประวัติเครดิตที่ดีไว้ได้อีกด้วย
5. ปรับพฤติกรรมการใช้เงินให้เหมาะสม
การจัดการหนี้บัตรเครดิตไม่ใช่แค่การหาเงินมาปลดหนี้เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินให้เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นหนี้บัตรเครดิตอีกครั้ง
SILKSPAN มีวิธีการวางแผนบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนมาแนะนำ ดังนี้
- แบ่งรายได้ออกเป็นสัดส่วน : แนะนำให้ใช้หลัก 50-30-20 โดยแบ่ง 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอาหาร, 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว และ 20% สำหรับการออมและการลงทุน
- จดบันทึกรายรับ–รายจ่ายทุกวัน : เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรจดแยกหมวดหมู่อย่างชัดเจน เพื่อให้เห็นว่าแต่ละเดือนใช้จ่ายอะไรไปบ้าง มีค่าใช้จ่ายใดที่สามารถลดหรือตัดออกได้ และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไร
- ตั้งเป้าหมายการออมเงิน : ควรหักเงินออมทันทีที่ได้รับเงินเดือน อย่ารอให้เหลือแล้วค่อยเก็บ เพราะส่วนใหญ่มักจะไม่เหลือให้เก็บ ส่วนจะต้องเก็บเท่าไหร่นั้น ในเบื้องต้นแนะนำให้มีเงินออมฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เพื่อใช้ในยามจำเป็น จะได้ไม่ต้องพึ่งพาบัตรเครดิตเมื่อมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
- วางแผนเก็บเงินล่วงหน้าในการซื้อของชิ้นใหญ่ : เช่น ถ้าอยากได้โทรศัพท์มือถือราคา 30,000 บาท ให้เก็บเงินเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการซื้อของด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ควรรอ 24-48 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจซื้อของชิ้นที่มีราคาสูง เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ
สรุปบทความ
การเป็นหนี้บัตรเครดิตอาจเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณเริ่มต้นจากการหยุดใช้บัตรเครดิต สำรวจหนี้ทั้งหมดที่มี ปรึกษาธนาคารเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม และที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินให้เหมาะสม คุณก็จะสามารถหลุดพ้นจากปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้แน่นอน และสำหรับใครที่มีรถยนต์อยู่ การนำรถยนต์ไปเปลี่ยนเงินก้อนเพื่อนำมาปิดหนี้บัตรเครดิต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเหมือนกับได้รวมหนี้เป็นก้อนเดียวโดยที่ไม่ต้องไปขอสินเชื่อใหม่กับธนาคาร ถ้าสนใจ สามารถเปรียบเทียบสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำจาก SILKSPAN ดูได้เลย