ทำอย่างไรดี ? เช่ารถแล้วเกิดอุบัติเหตุ ! ประกันรถคุ้มครองหรือไม่ ?

เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่ แน่นอนว่าถ้ามีประกันรถติดรถเอาไว้ ปัญหาที่เจอก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปในทันที แต่ !! ถ้าเป็นกรณีที่เรากำลังขับ “รถเช่า” อยู่ล่ะ ? จะสามารถจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร บทความนี้ SILKSPAN นำเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนมาฝากอีกเช่นเคย สำหรับในเคสที่เช่ารถแล้วเกิดอุบัติเหตุ มีวิธีการรับมืออย่างไร จะเคลมประกันได้ไหม ทุกข้อสงสัยเราจะมาแถลงไขในบทความนี้

ขับรถเช่าจะยังได้รับความคุ้มครอง จากประกันรถหรือไม่ ?

ในเคสที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วจำเป็นจะต้องใช้รถยนต์เพื่อเดินทาง การเช่าจึงกลายเป็นตัวเลือกที่หลาย ๆ คนต่างก็เลือกใช้ โดยปกติแล้วรถเช่าทุกคันจะมี “ประกันรถ” อยู่แล้ว แถมส่วนมากยังเป็นประกันชั้น 1 เสียด้วย เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็จะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบ แต่อาจจะต้องเสีย ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ซึ่งมักจะเป็นค่ามัดจำรถเช่านั่นเอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสัญญาของผู้ให้บริการรถเช่าแต่ละเจ้า ก่อนจะเช่ารถควรอ่านเงื่อนไขในส่วนนี้โดยละเอียด

ประกันรถเช่าให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ?

ในส่วนของความคุ้มครองของประกันภัยรถเช่า ก็จะคุ้มครองไม่แตกต่างจากประกันภัยรถยนต์โดยทั่วไป ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของกรมธรรม์ที่ทำเอาไว้ ซึ่งส่วนมากแล้วเมื่อเช่ารถยนต์กับผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มักจะมีการมอบเอกสารสำเนาของสัญญา พร้อมอธิบายถึงรายละเอียดประกันภัย ในประเทศไทยส่วนมากแล้วผู้ให้บริการรถเช่า มักจะทำ “ประกันชั้น 1” ให้กับรถที่ปล่อยเช่า เพราะนอกจากคุ้มครองในส่วนของ คนขับ ผู้โดยสาร คู่กรณี ค่าเสียหายต่าง ๆ และ ผู้เกี่ยวข้อง ยังมีความคุ้มครองกรณีรถหายอีกด้วย

3 ขั้นตอนการรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถเช่า

อุบัติเหตุคือสิ่งที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็เป็นไปตามที่เราเคยกล่าวเอาไว้ “อุบัติเหตุไม่เตือนล่วงหน้า” เมื่อมันเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว หน้าที่ของเราคือการรับมือกับเหตุการณ์หลังจากนั้นให้ได้ ในเคสที่กำลังขับรถเช่าอยู่แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เราอยากให้คุณทำตาม 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดีในไม่ช้า

1. ตั้งสติให้ดี ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว อย่างแรกที่ต้องทำคือ รวบรวมสติให้ดี เริ่มต้นจากการเปิดไฟฉุกเฉิน อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุ และก่อนจะลงไปตรวจความเสียหายของตัวรถ ให้ตรวจเช็คความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ตรวจเช็คตนเองว่า มีตรงไหนบาดเจ็บหรือไม่ เมื่อมั่นใจว่ายังไหว ค่อยเช็คอาการของคนอื่นที่อยู่ในรถ ถ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บให้โทรเบอร์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อร้องขอความช่วยเหลือทางแพทย์โดยทันที

2. ตรวจความเสียหายของตัวรถ ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน

ถ้าในเคสที่เป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชนตามปกติ ไม่มีใครได้รับอันตรายอะไรมากมาย เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วให้รีบลงมาตรวจเช็คความเสียหายเบื้องต้นของตัวรถ ใช้เป็นการถ่ายภาพที่เกิดเหตุ รถคู่กรณี ความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือ จะใช้เป็นการถ่ายวิดีโอก็ได้เช่นเดียวกัน อย่าเพิ่งขยับรถออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะอาจทำให้วัตถุพยานคลาดเคลื่อนไปจากเดิม ซึ่งอาจส่งเสียต่อการเคลมประกันได้

3. รีบติดต่อกับเจ้าของรถเช่าโดยด่วนที่สุด

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการแจ้งกับเจ้าของรถเช่า หลังจากเกิดเหตุแล้วทำตาม 2 ข้อก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้โทรศัพท์แจ้งกับผู้ให้บริการรถเช่าในทันที แนะนำว่าควรต้องโทรเท่านั้นเพราะเป็นกรณีเร่งด่วน ไม่ควรติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่นแชทต่าง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดความล่าช้า จากนั้นผู้ให้บริการรถเช่าจะติดต่อกับบริษัทประกัน จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของบริษัทประกัน ส่วนเรื่องค่าเสียหายต่าง ๆ ก็จะเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาเช่า

คำเตือน ! ระหว่างการใช้งานรถเช่าควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้

เมื่อได้รู้ไปแล้วว่า ในการเช่ารถเพื่อใช้งาน มี “ประกันรถเช่า” ซึ่งให้ความคุ้มครองไม่ต่างจากประกันรถยนต์โดยทั่วไป และต่อจากนี้เราจะขอนำเสนอสิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่อยากมีปัญหายุ่งยากตามมา ระหว่างการใช้งานรถเช่า ถึงบางอย่างอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะเน้นย้ำ เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนมีความปลอดภัยสูงที่สุด

• ห้ามดื่มเครื่องดื่มมึนเมา อย่างที่เรารู้กันดี ประกันรถยนต์ทุกประเภทไม่คุ้มครองในกรณีเมาแล้วขับ ประกันของรถเช่าก็เหมือนกัน เคสนี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ผู้เช่าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด
• ห้ามฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ใส่ใจกับป้ายคำเตือนต่าง ๆ และ ไม่ควรฝ่าฝืนกฎจราจรขณะใช้งานรถเช่า เพราะในบางกรณีอาจส่งผลให้ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองก็เป็นได้
• ห้ามละเมิดสัญญา ในเอกสารเช่าจะมีสัญญาที่ระบุเอาไว้ ว่าสิ่งใดทำได้บ้าง สิ่งใดไม่ควรทำ ผู้เช่าต้องทำตามสัญญาทุกข้ออย่างเคร่งครัด เช่น พื้นที่ในการใช้งานรถ , ระยะเวลาการใช้รถ หรือ การระบุชื่อผู้ขับ
• ห้ามตกลงกับคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างรอเจ้าของรถเช่า หรือ บริษัทประกันของรถเช่า ห้ามทำการตกลงใด ๆ ก็ตาม กับคู่กรณีเป็นอันขาด ให้รอผู้รับผิดชอบมาจัดการเท่านั้น
• ห้ามเช่ารถโดยไม่อ่านสัญญาให้ละเอียด ก่อนจะเช่ารถทุกครั้งต้องอ่านเอกสารสัญญาให้ละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียเปรียบในภายหลัง หากเห็นว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลในสัญญา ให้รีบแย้งในทันที

บทส่งท้าย

บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน เนื่องจากช่วงนี้ใกล้เข้าถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ในเทศกาลวันปีใหม่ 2568 ในเคสที่เช่ารถเพื่อเดินทางท่องเที่ยว แล้วเกิดเหตุฉุกเฉินเราอยากให้ทุกท่าน นึกถึงเนื้อหาจากบทความนี้ สุดท้ายนี้ถ้าใครที่ไม่ได้เช่ารถเพื่อท่องเที่ยว แต่เลือกที่จะขับรถตนเองไปเที่ยว อย่าลืม ! “ประกันรถ” ควรจะต้องจัดเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง ถ้าใครประกันใกล้จะหมดแล้วกลัวว่าช่วงสิ้นปีจะวุ่น ๆ สามารถซื้อประกันล่วงหน้ากับ SILKSPAN ได้ เพียงกรอกรายละเอียดไม่กี่ข้อเท่านั้น พร้อมรับสิทธิพิเศษดี ๆ มากมาย