ข้อดีและข้อเสียของการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2+ ก่อนเดินทางช่วงปีใหม่
การเตรียมตัวออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย บางคนเลือกวางแผนล่วงหน้าเป็นเดือนสำหรับทริปใหญ่ประจำปี ซึ่งแน่นอนว่านอกจากการตรวจสภาพและความพร้อมของรถยนต์แล้ว การเตรียมตัวเรื่องประกันรถยนต์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ ที่จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น
ความแตกต่างของประกันรถยนต์ชั้น 1 และ ประกันภัยชั้น 2+
ก่อนที่จะไปดูกันว่าควรเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดีถึงคุ้มค่าคุ้มราคาที่ต้องจ่าย และได้ความคุ้มครองแบบจัดเต็ม ลองมาดูความแตกต่างระหว่าง ประกันรถยนต์ชั้น 1 กับประกันรถยนต์ชั้น 2+ กันก่อน
ประกันชั้น 1
สำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั้นเป็นประกันที่เรียกได้ว่ามีความคุ้มค่ามากที่สุดในเรื่องความคุ้มครอง เพราะเป็นการคุ้มครองในทุกกรณี แต่ก็มีราคาที่สูงกว่า ทั้งนี้สามารถสรุปจุดเด่นของประกันชั้น 1 ได้ ดังนี้
- คุ้มครองกรณีซ่อมรถทุกกรณี เช่น รถชนรถ รถชนต้นไม้ รถชนเสาไฟฟ้า หรือกรณีที่มีการชนแล้วหนีเกิดขึ้น สามารถแจ้งเคลมประกันได้
- คุ้มครองกรณีรถเกิดไฟไหม้ น้ำท่วม และรถหาย โดยชดเชยให้ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองบุคคลภายนอก เมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งกรณีที่เสียชีวิต บาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินที่เสียหาย ตามเงื่อนไขของวงเงินในกรมธรรม์
- คุ้มครองบุคคลภายในรถที่มีการทำประกัน ทั้งเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพทั้งชั่วคราวและถาวร รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล และเงินประกันตัวผู้ขับขี่
ประกันชั้น 2+
ในส่วนของประกันชั้น 2+ นั้นจะมีช่วงราคาที่ถูกกว่าการทำประกันชั้น 1 ซึ่งสิ่งที่ต่างกันก็คือเรื่องของความคุ้มครองที่ครอบคลุมน้อยกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ตามรายละเอียดต่อไปนี้
- คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนกับรถเท่านั้น และจำเป็นต้องมีคู่กรณี ณ.ที่จุดเกิดเหตุ
- คุ้มครองกรณีที่รถหาย ไฟไหม้ โดยการคุ้มครองนั้นต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดในกรมธรรม์
- คุ้มครองบุคคลภายนอกทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงเรื่องของทรัพย์สินที่มีความเสียหาย โดยต้องไม่เกินจากวงเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- คุ้มครองบุคคลในรถที่ทำประกัน ทั้งกรณีที่เสียชีวิต ทุพพลภาพทั้งถาวรและชั่วคราว รวมถึงกรณีสูญเสียอวัยวะ และเงินประกันตัวผู้ขับขี่
ทั้งนี้ก็ไม่เพียงแค่ผู้ขับขี่จะเลือกทำประกันชั้น 1 หรือชั้น 2+ ได้เท่านั้น เพราะยังสามารถเลือกทำประกันชั้น 2 หรือ ประกันชั้น 3 เพิ่มเติมได้อีกด้วย ซึ่งก็จะมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า แต่ความคุ้มครองและเงื่อนไขการเอาประกันภัยก็จะลดน้อยลงไปด้วย การเดินทางไกลจึงเหมาะสำหรับตัวเลือกของประกันชั้น 1 หรือ 2+ มากที่สุด
ประกันรถยนต์ ชั้น 1 เหมาะกับใคร
สำหรับการทำประกันชั้น 1 นั้นมีเรื่องความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด เรียกว่าคุ้มครองในทุกกรณีเลยก็ว่าได้ ทำให้การลงทุนกับประกันภัยชั้น 1 เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งออกรถยนต์คันใหม่ หรือมือใหม่หัดขับเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการเรื่องเบี้ยประกันที่สูงกว่าแต่ก็ได้รับความคุ้มครองกลับไปแบบรอบด้านเลยทีเดียว
ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ เหมาะกับใคร
สำหรับประกันภัยชั้น 2+ นั้นมีความคุ้มครองที่ลดลงเล็กน้อย จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้ขับรถยนต์เป็นประจำ หรือเน้นการขับขี่ในระยะทางสั้น ๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุน้อย รวมถึงบ้านที่มีรถยนต์ที่ต้องจอดมากกว่าใช้เพราะประกันประเภทนี้มีความคุ้มครองในเรื่องของกรณีรถหายและไฟไหม้ให้ด้วย อีกทั้งความคุ้มครองเมื่อต้องใช้รถแล้วเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีก็ยังมีความคุ้มค่าไม่ต่างจากประกันชั้น 1 เลยทีเดียว
เดินทางไกลเทศกาลปีใหม่นี้ เลือกประกันภัยรถยนต์แบบไหนดี?
การเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ของแต่ละคนนั้นอาจมีสถานที่และจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างไรก็ขอแนะนำให้เลือกทำประกันภัยรถยนต์ติดเอาไว้ด้วยดีที่สุด ส่วนจะเลือกแบบไหนดี ระหว่างประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2 สามารถใช้หลักต่อไปนี้ในการพิจารณาเพิ่มเติมได้
- ระยะทางที่ใช้เดินทางไกล เช่น เดินทางข้ามจังหวัดและภูมิภาคเป็นเวลาหลายวัน และเป็นรถยนต์ที่ต้องใช้เดินทางไปทำงานเป็นประจำทุกวันด้วย กรณีแบบนี้ประกันชั้น 1 ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
- รถยนต์ใหม่ เพิ่งเปลี่ยนป้ายขาว หรือมีประสบการณ์ในการขับขี่ไม่ถึง 2 ปี กรณีนี้ก็เหมาะกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เช่นเดียวกัน เพราะให้ความคุ้มครองในทุกกรณีแม้ไม่มีคู่กรณี
- เลือกใช้รถยนต์คันที่ 2 หรือรถยนต์ที่ใช้งานไม่บ่อยในการเดินทาง หากเป็นกรณีนี้การเลือกทำประกันภัยชั้น 2+ ดูจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า เพราะมีความค่าเบี้ยประกันภัยถูกกว่า แต่ก็ยังอุ่นใจได้กรณีที่ต้องเดินทางไกลแล้วเกิดการเฉี่ยวชนกับคู่กรณี
สรุปประกันภัยรถยนต์สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เดินทางอย่าง “มั่นใจ”
การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือเลือกทำประกันชั้น 2+ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความคุ้มครองที่ผู้เอาประกันจะได้รับ ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจและมั่นใจในการใช้รถช่วงวันหยุดยาวได้มากยิ่งขึ้น แต่เพื่อให้ปลอดภัยและสบายใจขั้นสุด อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถและเตรียมความพร้อมของร่างกายในการขับรถทางไกลเพิ่มเติมด้วย และควรแวะพักเมื่อรู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลีย เท่านี้ก็เที่ยวปีใหม่ได้สนุก และมีความสุขได้ทุกทริปแล้ว