ประกันรถยนต์ชั้น 1 ปกติ หรือ ชั้น 1 Low Cost เลือกแบบไหนดีที่สุด ?
เมื่อมองหาประกันภัยรถยนต์ แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเลือกทั้งหมด หากวัดเฉพาะเรื่องของความคุ้มครอง จะต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ ? ว่ามีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกัน ความคุ้มครองเหมือน ๆ กัน อย่าง ประกันชั้น 1 Low Cost อยู่อีกด้วย สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้ หรือ กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์รูปแบบนี้ บทความนี้ SILKSPAN จะมาเล่าให้ฟัง ว่าประกันชั้น 1 แบบปกติ และ แบบ Low Cost แตกต่างกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเชิญติดตามเนื้อหาดี ๆ ที่เราตั้งใจมานำเสนอได้เลย
ประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบ Low Cost คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง ?
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด เราขอแนะนำถึงประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบ Low Cost เพราะยังมีหลายคนที่ไม่รู้จักประกันภัยรูปแบบนี้ โดยรวมแล้วความคุ้มครองทุกอย่างจะยังคงเหมือนกับประกันชั้น 1 แบบปกติ ทั้งให้ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียต่อคู่กรณีและบุคคลที่สาม ไปจนถึง ความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี แน่นอนว่ารวมถึงกรณีที่รถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ ไม่มีรายละเอียดส่วนไหนเปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่จะแตกต่างออกไปคือ เรื่องของจำนวนทุนประกันที่น้อยลง และ เบี้ยประกันที่ถูกกว่าเดิม เท่านั้นเอง
เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบปกติ และ แบบ Low Cost
เมื่อเราได้แนะนำความหมาย และ ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 Low Cost กันไปแล้ว ต่อมาคือการยกตัวอย่างถึงความแตกต่าง เมื่อได้ลองนำมาเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบปกติ ซึ่งจากการเปรียบเทียบจะพบความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าได้ตัดในเรื่องของความคุ้มครองที่เหมือนกันอย่างกับแกะทิ้งออกไป โดยความแตกต่างที่เห็นได้ชัด จะมี 3 ส่วนดังต่อไปนี้
1. ทุนประกัน
ประกันชั้น 1 Low Cost จะมีทุนประกันที่น้อยกว่าประกันชั้น 1 แบบปกติอยู่พอสมควร จากเดิมที่ทุนประกันชั้น 1 จะเทียบเท่ากับ 80% ของมูลค่ารถ ทว่าแบบ Low Cost ทุนประกันจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1 ถึง 2 แสนบาท อาจเพิ่มหรือลดได้ ตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน แต่จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าทุนประกันชั้น 1 แบบปกติ นั่นจึงทำให้ค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับลดลงไปด้วยนั่นเอง
2. ค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรกคือสิ่งที่ประกันชั้น 1 Low Cost แตกต่างจากชั้น 1 แบบปกติ อย่างชัดเจน เพราะทุก ๆ ครั้งที่ต้องการจะเคลม จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเสมอ โดยจำนวนเงินก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเคลมกี่ครั้ง ก็ต้องจ่ายทุกครั้ง ต่างจากประกันชั้น 1 แบบปกติ ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ยกเว้นจะเป็นการระบุค่าเสียหายส่วนแรก เพื่อต้องการลดเบี้ยประกันให้ถูกลงมานั่นเอง
3. เบี้ยประกัน
ชื่อของประกันภัยก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเป็นแบบ Low Cost นั่นหมายถึง “ประหยัดมากกว่า” นั่นเอง เนื่องจากทุนประกันภัยที่ลดน้อยลง ผนวกกับการที่จะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกทุกครั้งที่เคลม นั่นจึงทำให้เบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งเมื่อได้ลองค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแล้ว เบี้ยประกันเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 7,500 บาทเท่านั้น โดยเบี้ยประกันก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าเลือกซื้อประกันจากที่ไหน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 Low Cost ดีไหม ? เหมาะสำหรับใคร
ถึงจะเป็นประกันชั้น 1 Low Cost แต่ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนเช่นเดิม ก็ยังทำให้เป็นประกันภัยรถยนต์ที่น่าสนใจเช่นเคย แม้ทุนประกันจะน้อยกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบปกติ และต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกก็ตาม ผู้ที่เหมาะสำหรับใช้ประกันภัยรถยนต์รูปแบบนี้ ก็จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความคุ้มครองของประกันภัยชั้น 1 แต่อยากประหยัดเบี้ยประกันให้ถูกลงมา ซึ่งควรจะต้องเป็นผู้ขับขี่ที่มีประวัติดี และขับรถได้อย่างชำนาญ มั่นใจในตนเองว่าจะไม่เคลมบ่อย เพราะทุกครั้งที่แจ้งเคลม มีค่าเสียหายส่วนแรกที่จะต้องจ่าย
ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบ Low Cost ที่ไหนดี ?
หากคุณอยากได้ประกันชั้น 1 Low Cost แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะต้องเลือกซื้อที่ไหนดี ? ไม่ต้องมองไปที่ไหนไกล เพราะ SILKSPAN คือผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ ที่พร้อมมอบประกันภัยทุกรูปแบบที่คุณต้องการให้แก่คุณ ด้วยตัวเลือกจากกว่า 30 บริษัทประกันชั้นนำของประเทศไทย มั่นใจได้ว่าคุณจะเจอกับความคุ้มครองที่คุณนั้นตามหา พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ มีให้เลือกทั้ง ส่วนลดมากกว่า 30% , การผ่อนชำระไม่ใช้บัตรเครดิต 0% ยาวถึง 10 เดือน และยังมีบริการเสริมอีกมากมาย ที่สำคัญคือสามารถซื้อประกันล่วงหน้าได้อีกด้วย !
บทส่งท้าย
สรุปได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบปกติ หรือ แบบ Low Cost ก็มีความคุ้มครองน่าสนใจกันทั้งคู่ เราขอไม่ตัดสินว่าประกันแบบไหนดีกว่ากัน เนื่องจากผู้ใช้งานแต่ละคน มีความต้องการความคุ้มครองที่ต่างกันออกไป ท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน ว่าเลือกซื้อประกันตรงตามที่ต้องการหรือไม่ สุดท้ายนี้หากคุณต้องการซื้อประกันล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่เรานำเสนอในบทความนี้ หรือ ประกันภัยชั้นอื่น ๆ เพียงกรอกข้อมูลด้านล่างของบทความนี้ รอไม่นานคุณก็จะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน