ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองไหม ? ถ้าประลองความเร็วบนท้องถนน
ขอเอาใจสายซิ่งกันซะหน่อยในบทความนี้ ! เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงที่สุด ในหมู่ประกันภัยรถยนต์ด้วยกัน แต่ถ้าเป็นกรณีของผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ชอบขับรถแข่งบนท้องถนนอยู่บ่อย ๆ ในกรณีเหล่านี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ จะยังได้ความคุ้มครองของประกันชั้น 1 หรือไม่ ? ไขข้อสงสัยนี้ได้ในบทความนี้ พร้อมด้วยอธิบายเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันชั้น 1 สำหรับผู้ที่อาจยังไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าพร้อมแล้วเชิญพบกับเนื้อหาดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ได้เลย !
สายซิ่งพึงระวัง ! ถึงจะทำประกันรถชั้น 1 ก็อาจไม่ได้รับความคุ้มครองเสมอไป
เราจะขอกล่าวถึงแบบตรง ๆ ไม่พิรี้พิไรกันเลยดีกว่า ถึงเรื่องของความคุ้มครองจากประกันรถชั้น 1 ที่อาจจะไม่ได้คุ้มครอง ในบางกรณีสำหรับพฤติกรรมการขับรถซิ่งบนท้องถนน ซึ่งพฤติกรรมที่ควรระวังสำหรับเหล่าบรรดาสายซิ่ง คือการ “ขับรถแข่งกันบนท้องถนน” หากมีการพิสูจน์ได้ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการขับรถประลองความเร็ว บนท้องถนนสาธารณะ หรือ จะในสนามแข่งขันก็ตาม บริษัทประกันภัยรถยนต์จะไม่ยื่นมือเข้ามารับผิดชอบไม่ว่าจะด้วยประการใดก็ตาม เพราะฉะนั้นสายซิ่งควรจะนิ่งเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
เช็คเงื่อนไขให้ดี ! ประกันรถชั้น 1 ก็ไม่ได้คุ้มครอง หากขับรถด้วยพฤติกรรมดังต่อไปนี้
ประกันรถชั้น 1 มาพร้อมความคุ้มครองที่ครอบคลุม อย่างที่ประกันชั้นอื่น ๆ ไม่สามารถให้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองแบบครอบจักรวาลขนาดนั้น เนื่องจากมีเงื่อนไขความคุ้มครองที่ชัดเจน อันที่จริงก็เงื่อนไขเหล่านี้ก็เหมือน ๆ กับประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่น ๆ มาดูกันว่า พฤติกรรมการขับขี่แบบใดบ้าง ที่เข้าข่ายเงื่อนไขที่ประกันภัยรถยนต์จะไม่ให้ความคุ้มครอง
-
ขับขี่หวาดเสียว แข่งรถบนท้องถนน
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า การขับรถแข่งบนท้องถนน ถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ประกันรถชั้น 1 จะไม่ให้ความคุ้มครอง เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะบางคนอาจคิดว่า แค่ขับรถเร็วประกันก็จะไม่ให้ความคุ้มครอง ที่จริงแล้วการขับรถเร็วสามารถทำได้ แต่จะต้องขับรถเร็วแล้วอยู่ในความเร็วที่กฎหมายกำหนด เช่น การขับรถเร็วบนทางด่วน ตามความเร็วที่กำหนด ถ้าเป็นเช่นนั้นไม่ผิด และจะต้องเป็นการขับขี่ตามปกติ ไม่ขับฉวัดเฉวียน ปาดซ้ายที ปาดขวาที ซึ่งอาจจะสร้างอันตรายให้กับเพื่อนร่วมเส้นทางได้
-
ใช้รถผิดวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็น
ในขั้นตอนของการทำประกันภัยรถยนต์ จะมีการระบุว่าจะใช้รถเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เช่น การใช้รถเพื่อการขับขี่ส่วนบุคคล หรือ การใช้รถเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งจะมีเบี้ยประกันที่แตกต่างกันในส่วนนี้อยู่พอสมควร ปัญหาที่เกิดจะเป็นในกรณีที่ ระบุว่าเป็นการนำรถมาใช้เพื่อการขับขี่ส่วนบุคคล แต่กลับนำรถไปใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น การนำไปขับรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือ การนำไปดัดแปลงเป็นรถคอกเพื่อขนส่งสินค้า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนด ในกรณีเหล่านี้จะไม่ได้รับความคุ้มครอง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
-
ขับรถในขณะที่มีอาการมึนเมา
เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วในข้อนี้ หากคุณมีอาการมึนเมาแล้วขับรถไปประสบอุบัติเหตุ ถึงคุณจะทำประกันรถชั้น 1 เอาไว้ ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างที่ควรจะเป็น มั่นใจว่ากฎหมายทั่วโลกน่าจะเหมือนกันในส่วนนี้ สิ่งที่คุณจะได้รับก็จะเป็นแค่ความคุ้มครองจาก พรบ. รถยนต์ เพียงเท่านั้น และคุณยังจะถูกดำเนินคดีความอีกด้วย ซึ่งโทษก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุครั้งนั้น
-
ไม่มีใบขับขี่แล้วยังรั้นขับรถ
การไม่มีใบขับขี่ที่เรากำลังสื่อถึง ไม่ใช้การลืมพกใบขับขี่ หรือ การพกใบขับขี่แต่ใบขับขี่หมดอายุ แต่เป็นในกรณีที่ ไม่เคยผ่านการทำใบขับขี่มาก่อนเลย เพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้ที่ไม่เคยทำใบขับขี่ จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์บนถนนสาธารณะ การดื้อรั้นขับรถทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ได้รับอนุญาต หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยรถยนต์ก็จะไม่ให้ความคุ้มครองในทุกกรณี และขอเตือนว่าห้ามเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่เป็นอันขาด ถ้าบริษัทประกันพิสูจน์ได้ รับรองว่าได้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันอย่างแน่นอน !
-
นำรถไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมาย
อีกหนึ่งในพฤติกรรมที่ประกันรถชั้น 1 ส่ายหัวไม่ให้ความคุ้มครอง คือการนำเอารถไปทำเพื่อการผิดกฎหมาย ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงเรื่องเร็ว ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องของกฎจราจรบางอย่าง แต่คือเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรง เช่น การนำรถไปใช้เพื่อการขนส่งยาเสพติด , การขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ ใช้เพื่อการขนส่งแรงงานหลบหนีเข้าเมือง เป็นต้น กรณีเหล่านี้บริษัทประกันภัยรถยนต์บอก Say No ! ในทุก ๆ กรณี
แล้วสายซิ่งควรจะต้องทำประกันภัยรูปแบบไหน ถึงจะได้รับความคุ้มครอง ?
คงต้องจำกัดความหมายของคำว่า “สายซิ่ง” เพิ่มเติมอีกสักหน่อย หากคุณหลงใหลในความเร็ว ชอบขับขี่แข่งขันเพื่อความตื่นเต้น หรือ จะเป็นเพื่อการกีฬาก็ตาม แนะนำว่าควรจะต้องขับขี่ในสนามแข่ง ไม่ควรมาประลองความเร็วกันในท้องถนน และแน่นอนว่าไม่มีประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครอง ถึงจะเป็นประกันรถชั้น 1 ก็ตาม แต่ ! ถ้าคุณเป็นสายซิ่งที่แค่ชอบแต่งรถด้วยความสวยงาม หากการแต่งรถไม่เกินขอบเขตจนเป็นการ “แปลงสภาพรถ” กรณีนี้ประกันยังให้ความคุ้มครอง แต่จะต้องแจ้งบริษัทประกัน เบี้ยประกันอาจจะเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้นเอง
บทส่งท้าย
ใครที่ชอบขับรถซิ่งเมื่ออ่านบทความนี้แล้วต้องทำใจ เพราะการขับขี่หวาดเสียวบนท้องถนน ชัดเจนเลยว่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถชั้น 1 เพราะฉะนั้นควรรักษากฎระเบียบของสังคม ขับขี่อย่างปลอดภัย การจะแต่งรถซิ่งก็แต่งแค่เพียงพอดี ไม่มีการดัดแปลงจนถึงขั้นผิดกฎหมาย สุดท้ายนี้หากใครกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อกับที่ไหนถึงจะได้เบี้ยประกันที่ดีที่สุด SILKSPAN คือคำตอบสุดท้ายทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลามองหาประกันรถยนต์ด้วยตนเอง เพียงกรอกรายละเอียดด้านล่างเท่านั้น แล้วเราจะรีบติดต่อกลับไป !!