ประกันรถชั้น 1 เคลมได้กี่ครั้ง? เคลมบ่อยมีผลอะไรบ้าง?
การเลือกซื้อ ประกันรถชั้น 1 เป็นตัวเลือกที่หลายคนไว้วางใจ เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ช่วยลดความกังวลในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ แต่หลายคนที่ยังเป็นมือใหม่ หรือต้องใช้รถเป็นประจำทุกวันอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคลมอยู่บ้าง เช่น เคลมได้กี่ครั้งในหนึ่งปี หรือการเคลมบ่อยจะส่งผลในเรื่องไหนบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับข้อสงสัยเหล่านี้มาบอกให้ได้ทราบกัน
ประกันรถชั้น 1 เคลมได้กี่ครั้ง?
ประกันรถชั้น 1 มาพร้อมกับความคุ้มครองที่ครอบคลุมในทุกกรณี และแม้ว่าจะมีค่าเบี้ยที่สูงที่สุดในทุกประเภทประกัน แต่หนึ่งในข้อได้เปรียบของประกันรถชั้น 1 คือไม่มีการกำหนดจำนวนครั้งที่เคลมได้ต่อปี ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเคลมได้ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของประกัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ การเฉี่ยวชนกับยานพาหนะอื่น หรือความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หรือไฟไหม้ รวมถึงกรณีรถหายด้วย
เคลมประกันบ่อย มีผลอะไรบ้าง?
แม้ว่าจะไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งในการเคลม แต่การเคลมประกันภัยรถยนต์บ่อยครั้งก็อาจส่งผลในหลายด้าน โดยเฉพาะใน 3 ปัจจัยต่อไปนี้
1. ผลกระทบต่อเบี้ยประกันในปีถัดไป
การเคลมประกันบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อการคำนวณค่าเบี้ยในปีต่อไปซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงขึ้น ยิ่งมีการเคลมบ่อยครั้งก็ยิ่งมีการคิดเบี้ยที่แพงขึ้น แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนบริษัทประกันภัยแต่ก็มีความเป็นไปได้ที่บริษัทใหม่จะพิจารณาจากประวัติการขับขี่ ซึ่งอาจมีค่าเบี้ยที่แพงเช่นเดียวกัน
2. การพิจารณารับประกันในอนาคต
ในบางกรณีหากมีประวัติการเคลมที่ถี่เกินไป บริษัทประกันอาจพิจารณาไม่ต่อประกันให้ หรืออาจกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มค่าเสียหายส่วนแรก เงื่อนไขในการคุ้มครองที่อาจจะไม่ครอบคลุมเหมือนเดิม หรือการปรับเปลี่ยนวงเงินเอาประกันภัย ซึ่งบริษัทประกันอาจปรับเปลี่ยนส่วนต่างๆ เหล่านี้ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่มากขึ้น
3. เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แม้การเคลมประกันจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย แต่การเคลมบ่อยครั้งอาจทำให้เสียเวลาในการดำเนินเอกสาร หรือเสียค่าใช้จ่ายเล็กน้อย เช่น ค่าความเสียหายส่วนแรกในบางกรณี รวมถึงการปรับเงื่อนไขความคุ้มครองที่เปลี่ยนจากการซ่อมห้างเป็นซ่อมอู่ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอะไหล่เพิ่มเติมในบางกรณี
การเคลมประกันชั้น 1 ต่างจากประกันชั้นอื่นอย่างไร
การเคลมประกันชั้น 1 นั้นมีข้อดีในเรื่องของความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสามารถเคลมกับทางศูนย์ได้ซึ่งเป็นข้อดีและเป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดจากประกันชั้นอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วให้ความคุ้มครองที่น้อยกว่า และหากต้องเคลมประกันก็ต้องเคลมด้วยการซ่อมอู่มากกว่าซ่อมศูนย์ โดยความแตกต่างในส่วนนี้ยังมีผลต่อค่าใช้จ่ายและคุณภาพของอะไหล่ที่ต่างกันด้วย ประกันรถชั้น 1 จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับมือใหม่ หรือคนที่ต้องใช้รถทุกวันและมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุไม่คาดคิดอยู่เสม
เคล็ดลับการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้คุ้มค่าและไม่ต้องเสียเครดิตบ่อย
แม้ว่าการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่จำกัดและเคลมได้ทุกกรณี แต่เพื่อให้คุ้มค่าและไม่ต้องเสียเครดิตในการเคลมบ่อย อาจลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ในการเคลมประกันรถยนต์ได้
- สำรวจความเสียหายก่อนเคลม :หากความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขูดเล็กๆ หรือรอยที่อยู่ในจุดอับสายตาหากพิจารณาแล้วว่าเป็นจุดเล็กๆ อาจเลือกไม่เคลมได้ เพราะจะมีผลต่อการคิดค่าเบี้ยและมีประวัติการแจ้งเคลมบ่อยครั้งได้
- แจ้งเหตุทันที :กรณีเกิดอุบัติเหตุ ควรแจ้งบริษัทประกันภัยทันทีและจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบขับขี่ สำเนากรมธรรม์ หรือภาพถ่ายของเหตุการณ์ วิธีนี้จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการรอคอยการเคลมประกันได้ ซึ่งระหว่างรอคอยอาจมีเหตุที่ต้องเคลมประกันเพิ่มเติมได้
- เลือกซ่อมแบบอู่ในเครือ :หากต้องการลดค่าใช้จ่ายด้วยการซ่อมอู่ ควรเลือกซ่อมกับอู่ในเครือที่ได้รับการรับรองจากบริษัทประกัน เพราะจะช่วยในเรื่องของการเลือกใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพเป็นอะไหล่ใหม่และได้ของแท้ นอกจากนี้หากมีความรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้างก็สามารถที่จะเลือกอะไหล่ด้วยเองเพื่อเซฟค่าใช้จ่ายได้
- สอบถามเงื่อนไขก่อนเคลม :ในบางกรณีแม้เป็นการซ่อมแซมเล็กน้อยก็อาจมีการเรียกเก็บค่าความเสียหายในส่วนแรกเพิ่มเติม ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากเบี้ยประกัน ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครองก่อนเคลม
- รวบรวมและแจ้งเคลมครั้งเดียว : สำหรับการใช้รถที่เกิดความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขูดหรือรอยบุบบางๆ ที่ไม่มีคู่กรณี ให้รวบรวมข้อมูลความเสียหายที่ต้องการเคลมเอาไว้ แล้วแจ้งเคลมในครั้งเดียว อาจเป็นการแจ้งเคลมก่อนต่อประกันก็ได้ วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนการเคลมเพื่อไม่ให้เสียเครดิตได้
การทำประกันชั้น 1 นั้นช่วยเพิ่มความสบายใจในการขับขี่ได้จริง แต่เพื่อไม่ให้ต้องเคลมประกันบ่อยครั้ง ผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังและเคารพกฎจราจร รวมถึงศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของประกันที่ต้องการทำอย่างละเอียด เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการเคลมและได้รับความคุ้มค่าได้มากที่สุดแล้ว