
แบตเตอรี่รถไฟฟ้าราคาเท่าไหร่? แล้วประกันรถไฟฟ้าครอบคลุมแบตเตอรี่หรือไม่?

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ประกันรถไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของรถนั้นควรพิจารณา โดยเฉพาะในส่วนของเรื่อง “แบตเตอรี่” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ EV
หลาย ๆ ท่าน นั้นอาจจะเกิดความสงสัยว่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มครองแบตเตอรี่หรือไม่? แล้วถ้าหากต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ของรถยนต์ประเภทนี้ ราคาของจะอยู่ที่ราคาประมาณเท่าไหร่?
สำหรับในบทความนี้ราจะช่วยให้ท่านเข้าใจในทุกแง่ทุกมุมเกี่ยวกับค่าประกันรถไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่าง ๆ โดยละเอียด เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือประกันรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสิ่งนี้สามารถช่วยให้ท่านนั้นสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและคุ้มค่าที่สุด
ประกันรถไฟฟ้า แตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปอย่างไร?
ประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีโครงสร้างที่คล้ายกันกับประกันรถยนต์ทั่วไป แต่มีความคุ้มครองที่ออกแบบมาให้มีความเหมาะสมกับเทคโนโลยีของรถยนต์ EV ยกตัวอย่างเช่น ความเสียหายของมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบชาร์จและสายชาร์จไฟ, แบตเตอรี่และระบบพลังงาน
ประกันภัยรถไฟฟ้าโดยทั่วไปมีความคล้ายคลึงกับประกันภัยรถยนต์ทั่วไป แต่มีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับแบตเตอรี่ โดยเงื่อนไขของประกันแต่ละบริษัทอาจแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลักได้แก่
ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ เนื่องจากเป็นประกันภัยที่ครอบคลุมเฉพาะความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
ประกันภัยภาคสมัครใจ
อาจครอบคลุมความเสียหายของแบตเตอรี่ในบางกรณี เช่น อุบัติเหตุ การชน หรือไฟไหม้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์
การรับประกันจากผู้ผลิตรถยนต์ (Battery Warranty)
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักมีการรับประกันแบตเตอรี่ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 8-10 ปี หรือ 160,000 – 200,000 กิโลเมตร แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละค่าย เช่น
- Tesla: รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- Nissan Leaf: รับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- BMW iX3 รับประกัน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม การรับประกันจะครอบคลุมเฉพาะกรณีที่แบตเตอรี่มีปัญหาจากการผลิต หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ แต่ไม่ครอบคลุมการสึกหรอตามการใช้งานปกติ
ความคุ้มครองที่มักรวมอยู่ในประกันรถไฟฟ้า
- มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อน หากเสียหายจากอุบัติเหตุ ประกันชั้น 1 อาจครอบคลุม
- ระบบแบตเตอรี่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง บางกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองแบตเตอรี่ในบางกรณี
- อุปกรณ์ชาร์จและสายชาร์จไฟ หากเกิดไฟไหม้หรือความเสียหายจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายจากอุบัติภัย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือการโจรกรรม
*ข้อควรระวัง*
- บางกรมธรรม์อาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ หากเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
ท่านควรตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ให้รอบคอบ ก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ

แบตเตอรี่รถไฟฟ้าราคาเท่าไหร่?
แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดของรถไฟฟ้า หรือกลุ่มรถประเภท EV โดยปกติแล้วราคาของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า นั้นจะขึ้นอยู่กับแบรนด์และความจุของแบตเตอรี่ โดยทั่วไปมีราคาประมาณการตามลักษณะรุ่นของรถโดยแบ่งเป็น รุ่นเล็ก, รุ่นกลาง และ รุ่นใหญ่ ดังต่อไปนี้
- EV รุ่นเล็ก (แบตเตอรี่ 30-40 kWh) เช่น Nissan Leaf, MG4 ราคาอยู่ประมาณที่ 200,000 – 400,000 บาท
- EV รุ่นกลาง (แบตเตอรี่ 50-70 kWh) เช่น Tesla Model 3, BYD Seal ราคาประมาณ 400,000 – 700,000 บาท
- EV รุ่นใหญ่ (แบตเตอรี่ 80-100+ kWh) Tesla Model S, Mercedes EQS ราคาอาจมีมูลค่าสูงถึง 800,000 – 1,500,000 บาท
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาแบตเตอรี่รถไฟฟ้า
- ความจุแบตเตอรี่ (kWh) รถที่มีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่า (kWh มากกว่า) มักจะมีราคาสูงขึ้น
- เทคโนโลยีแบตเตอรี่ ปัจจุบันนิยมใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion) แต่ก็มีการพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Solid-State ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- ยี่ห้อและรุ่นของรถ แบตเตอรี่ของ Tesla, BMW, Nissan หรือ BYD อาจมีราคาต่างกัน
- ต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ ราคาลิเธียมและแร่ธาตุสำคัญอื่น ๆ มีผลต่อราคาของแบตเตอรี่
- ระยะเวลาการรับประกันจากผู้ผลิต: บางค่ายให้การรับประกันแบตเตอรี่ยาวนาน ซึ่งอาจสะท้อนอยู่ในราคาเริ่มต้นของรถ
แนวโน้มราคาแบตเตอรี่ในอนาคต
- ราคาแบตเตอรี่มีแนวโน้มลดลง เรื่อย ๆ เนื่องจาก ต้นทุนการผลิตลดลง และ เทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- คาดว่าใน 5-10 ปีข้างหน้า ราคาแบตเตอรี่อาจถูกลงถึง 30-50% จากปัจจุบัน
*หมายเหตุ* ค่าใช้จ่ายนี้อาจลดลงได้มากกว่านี้ในอนาคต เนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี และการพัฒนาในสายการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งมีการออกแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง
ประกันรถไฟฟ้า ครอบคลุมแบตเตอรี่หรือไม่?
กรณีที่ประกันครอบคลุมแบตเตอรี่
- อุบัติเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสียหาย ยกตัวอย่างเช่น ชนจนแบตเตอรี่แตก ประกันชั้น 1 อาจครอบคลุมค่าเปลี่ยนหรือซ่อมแซม
- ไฟไหม้หรือระเบิด หากเกิดจากอุบัติเหตุหรือไฟไหม้จากปัจจัยภายนอก ส่วนใหญ่ประกันจะให้ความคุ้มครอง
- น้ำท่วมและภัยทางธรรมชาติ หากรถ EV ถูกน้ำท่วมจนทำให้แบตเตอรี่เสียหาย บางกรมธรรม์อาจคุ้มครอง
กรณีที่ประกันไม่ครอบคลุมแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน การเสื่อมของแบตเตอรี่ตามอายุใช้งาน ไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันภัย
- การชาร์จไฟผิดวิธีหรือใช้ที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน หากแบตเตอรี่เสียหายจากการใช้ อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ใช่มาตรฐานจากผู้ผลิต
*ข้อสังเกต*
- รถไฟฟ้าส่วนใหญ่มาพร้อม การรับประกันแบตเตอรี่จากผู้ผลิต เช่น 8-10 ปี หรือ 100,000 – 200,000 กม.
- หากแบตเตอรี่เสียหายจากความบกพร่องในการผลิต สามารถเคลมกับศูนย์บริการของแบรนด์รถยนต์ได้
เลือก ประกัน รถยนต์ ไฟฟ้า อย่างไรให้คุ้มค่า?
- เปรียบเทียบความคุ้มครอง ตรวจสอบว่ากรมธรรม์ ครอบคลุมแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า หรือไม่
- เลือกบริษัทประกันที่มีความเชี่ยวชาญ บางบริษัทมี แพ็กเกจประกันเฉพาะสำหรับรถ EV
- พิจารณาเบี้ยประกันกับค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) บางกรมธรรม์มีค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ต้องจ่ายเองก่อนเคลม
- ดูรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อประเมินคุณภาพการให้บริการของบริษัทประกัน
บทสรุป
ราคาแบตเตอรี่รถไฟฟ้าสามารถแตกต่างกันไปตามปัจจัย ต่าง ๆ ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ในขณะที่ค่าประกันรถไฟฟ้า หรือประกันรถไฟฟ้าในบางรูปแบบสามารถครอบคลุมความเสียหายของแบตเตอรี่ได้
แต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นการคุ้มครองแบตเตอรี่จะมาจากการรับประกันของผู้ผลิต หากท่านกำลังพิจารณาซื้อรถไฟฟ้า ควรศึกษานโยบายประกันรถไฟฟ้า และการรับประกันแบตเตอรี่ให้ละเอียด เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต