อัปเดต ! ความคุ้มครองประกันรถไฟฟ้า 2568 ตามประกาศล่าสุดจาก คปภ.

ในปี 2568 เราจะได้เห็นว่า บนท้องถนนมีรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จากเดิมที่คนไทยยังไม่ค่อยไว้วางใจกับรถไฟฟ้าสักเท่าไหร่ แต่เมื่อได้เห็นแล้วว่า มันสามารถใช้งานได้จริง ไม่ได้แตกต่างอะไรกับรถยนต์สันดาปเลยแม้แต่น้อย แถมราคารถเก๋งไฟฟ้าก็ไม่ได้แพงแต่อย่างใด นั่นจึงทำให้ความนิยมเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบความคุ้มครองของ “ประกันรถไฟฟ้า” ที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม ซึ่งในช่วงต้นปีนี้มีประกาศจาก คปภ. ฉบับล่าสุด มาดูกันเลยว่าความคุ้มครองนั้นเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างไร

ประกันรถไฟฟ้า แตกต่างจากประกันภัยรถยนต์แบบเดิมจริงเหรอ ?

แน่นอนว่า ประกันรถไฟฟ้า นั้นย่อมแตกต่างจาก ประกันภัยรถยนต์แบบเดิม เพราะในช่วงแรก ๆ ที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในประเทศไทย ยังไม่ค่อยมีบริษัทประกันภัยที่กล้ารับประกันรถยนต์ไฟฟ้าเท่าไหร่นัก เนื่องจากอะไหล่ที่หาได้ยาก ราคาแพง แถมยังไม่มีอู่ที่มีความชำนาญเหมือนตอนนี้ เมื่อล่วงเลยมาถึงปี 2568 สถานการณ์ก็จะเริ่มจะดีขึ้นบ้าง แต่ถึงอย่างไร เงื่อนไขความคุ้มครองของ “รถยนต์ไฟฟ้า” ก็ยังมีความแตกต่างกับ “รถยนต์สันดาป” อยู่ดี จะบอกได้ว่า มีการออกแบบประกันภัยรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมา ก็ไม่ผิดสักเท่าไหร่

สรุปความคุ้มครอง ประกันรถไฟฟ้า ในปี 2568 จากประกาศล่าสุดของ คปภ.

ในช่วงแรก ๆ ยังมีการใช้ประกันภัยรถยนต์แบบเดิม เข้ามาเพื่อคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้า ผลสรุปออกมาแล้วไม่ส่งผลดีสักเท่าไหร่ ทำให้มีบริษัทประกันในไทยเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น ที่กล้าจะรับประกันรถยนต์ไฟฟ้า นั่นจึงทำให้ คปภ. หน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ต้องมีการออกประกาศเพื่อปรับปรุงความคุ้มครอง ที่จะครอบคลุมกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยจากการสรุปจากประกาศฉบับล่าสุด สามารถจับใจความสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ดังต่อไปนี้

• ความคุ้มครองแบตเตอรี่ที่เพิ่มเข้ามา

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า “แบตเตอรี่” เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุด และ มีราคาแพงที่สุดในตัวรถ หากตีเป็นตัวเงินน่าจะอยู่ที่ 40% ถึง 50% ของมูลค่ารถเลยก็ว่าได้ โดยเกณฑ์ใหม่ของประกันรถยนต์ไฟฟ้า จะแยกความคุ้มครองแบตเตอรี่ออกจากตัวรถอย่างชัดเจน ในกรณีที่แบตเตอรี่เสียหาย หากเป็นรถใหม่ป้ายแดงใช้งานปีแรก ก็จะได้รับเงินชดเชย 100% ของมูลค่าแบตเตอรี่ ซึ่งมูลค่าแบตเตอรี่ก็จะลดลง 10% ในทุก ๆ ปี จนมูลค่าสูงสุดจะสิ้นสุดที่ 50% สำหรับแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี เป็นต้นไป

• ความสำคัญของการระบุชื่อผู้ขับขี่

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างระหว่าง ประกันรถไฟฟ้า กับ ประกันแบบเดิม เพราะในรถยนต์สันดาป จะระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุก็ได้ แต่ถ้าระบุจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันที่ถูกลงมา กลับกันหากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีความจำเป็นต้อง “ระบุชื่อผู้ขับขี่” เท่านั้น สูงสุดอยู่ที่ 5 คน (จากเดิมแค่ 2 คน) ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วผู้ขับขี่ในขณะนั้น ไม่ได้มีชื่อตรงตามที่ระบุเอาไว้ จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก สูงสุดที่ 8,000 บาท เลยทีเดียว

• ความคุ้มครองเครื่องชาร์จไฟฟ้าส่วนบุคคล

รถไฟฟ้า EV จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำ เพื่อนำเอาพลังงานไฟฟ้าไปใช้ในการขับเคลื่อน โดยหลาย ๆ บ้านในตอนนี้ นิยมติดเครื่องชาร์จไฟฟ้าส่วนบุคคลแบบติดผนัง หรือที่เรามักจะเรียกว่า “Wall Charger” หรือ “Wall Box” นั่นเอง จากประกาศจาก คปภ. มีการกล่าวถึง ความคุ้มครองเสริมที่สามารถซื้อเพิ่มจากประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะเป็นความคุ้มครองอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าส่วนบุคคลนั่นเอง เบี้ยประกันถือว่าค่อนข้างถูก อยู่ที่ประมาณ 3% จากมูลค่าของอุปกรณ์ชาร์จเท่านั้นเอง

** ความคุ้มครองอาจมีความแตกต่างกันออกไป ในแต่ละเงื่อนไขของแต่ละบริษัท **

ในปี 2568 มีแนวโน้มของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า เปลี่ยนไปแค่ไหน ?

ด้วยกระแสความนิยมของรถไฟฟ้า EV ที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ หลังผ่านระยะเวลาความนิยมมาแล้วพอสมควร ทำให้ในปี 2568 เราเริ่มเห็นแนวทางที่ดีของประกันภัยรถยนต์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พร้อมด้วยสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ถูกประกาศออกมาจาก คปภ. ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดผู้ขับขี่ความประพฤติดีสูงสุดที่ 40% จากเบี้ยประกัน หรือ ความคุ้มครองพิเศษที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ตามต้องการ เป็นต้น ข่าวดี ! แนวโน้มของเบี้ยประกันก็มีทิศทางว่าจะถูกลงกว่าเดิม จากศูนย์บริการที่เพิ่มขึ้น และ อะไหล่ที่ไม่ได้หายากอีกต่อไปแล้ว

ข้อควรระวัง ! ข้อจำกัดของประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2568 ที่คุณควรรู้

ถึงประกันรถไฟฟ้าในปี 2568 จะมีความคุ้มครองที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้งานรถยนต์สันดาปมาก่อน หากเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาจยังไม่รู้ถึงข้อจำกัดบางอย่าง ดังต่อไปนี้

• ราคายังถือว่าสูงอยู่ ถึงแนวโน้มจะไปในทิศทางที่ดีแล้ว แต่ถึงอย่างไรในช่วงเวลานี้ เบี้ยประกันของรถยนต์ไฟฟ้า ก็ยังมีแนวโน้มที่จะสูงกว่ารถยนต์สันดาปอยู่เล็กน้อย
• คำนวณเบี้ยประกันด้วยพฤติกรรมการขับขี่ คล้าย ๆ กับส่วนลดพฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์สันดาป แต่มีการคำนวณที่ต่างกัน ถ้าขับดี เบี้ยประกันลดลงในปีหน้า ถ้าขับไม่ดี เบี้ยอาจเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น
• ความคุ้มครองบางอย่างต้องซื้อเพิ่ม เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ต้องอ่านรายละเอียดความคุ้มครองที่เจอในโฆษณาโดยละเอียด เพราะบางความคุ้มครองต้องซื้อเพิ่มเติมจากความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
• เงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครอง นอกจากข้อห้ามที่เราคุ้นเคยอย่าง เช่น เมาแล้วขับ , แข่งรถบนท้องถนน หรือ ใช้รถผิดประเภท ก็จะมีเพิ่มเติมอาทิเช่น การดัดแปลง Software หรือ ดัดแปลงจากช่างที่ไม่มีใบอนุญาต เป็นต้น

บทส่งท้าย

ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้ประกันรถไฟฟ้าอยู่ในจุดที่นิ่งแล้ว เพราะยังในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นอีกก็เป็นได้ แต่เราเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จะเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน การใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นนอกจากประหยัดพลังงาน ยังช่วยลดมลภาวะ ลดสาเหตุของปัญหาฝุ่นควัน และ ปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย สุดท้ายนี้หากคุณสนใจ “ซื้อประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้า” ไม่ว่าจะเป็นของ รถไฟฟ้า หรือ รถสันดาป กรอกข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้านล่างนี้ แล้วทีมงานของ SILKSPAN จะรีบติดต่อไปมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับคุณ !