ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลรับจ้างผ่านแอป ประกันภัยรถยังคุ้มครองหรือไม่ ?
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันสำหรับการเรียกรถรับจ้างอยู่มากมาย ซึ่งก็เป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้งาน เพราะมอบความสะดวกสบายอย่างถึงที่สุด ต้องการรถเมื่อไหร่ ก็เรียกให้รถมารับถึงที่ได้ในทันที นั่นจึงทำให้หลาย ๆ คน ผันตัวมาหารายได้เสริมจากการอาชีพนี้ จนเกิดเป็นข้อสงสัยที่ว่า การนำเอารถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วประกันภัยรถจะยังให้ความคุ้มครองไหม ? ผิดกฎหมายในข้อไหนหรือเปล่า ? ในบทความนี้ SILKSPAN จะมานำความกระจ่างให้แก่คุณ
“รถป้ายขาว” และ “รถป้ายเหลือง” กับเรื่องประกันภัยรถยนต์ ที่คุณยังไม่รู้
ก่อนจะทำความเข้าใจกับเรื่องของประกันภัยรถ เราอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ ถึงความหมายของ “รถยนต์ส่วนบุคคล” กันเสียก่อน เพราะจากประเด็นที่มีข้อสงสัยบนโลกอินเทอร์เน็ตในเวลานี้ คือการอยากจะนำเอารถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้เพื่อรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ถึงวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการจดทะเบียนรถในคันนั้น ๆ สามารถแยกออกจากกันได้ง่าย ๆ ผ่านสีของทะเบียน อธิบายง่าย ๆ คือ “รถป้ายขาว” และ “รถป้ายเหลือง” โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
-
รถป้ายขาว
รถป้ายขาวคือรถที่ถูกจดทะเบียนเพื่อใช้ในการขับขี่ส่วนบุคคล หรือ ก็คือรถบ้านที่เราใช้กันทั่ว ๆ ไป นั่นเอง ซึ่งป้ายทะเบียนพื้นหลังจะเป็นสีขาว ส่วนตัวอักษรจะเป็นสีดำ ถ้าเป็นรถยนต์นั่งได้ไม่เกิน 7 คน , อักษรสีน้ำเงินจะเป็นรถที่นั่งได้เกินกว่า 7 คน ส่วนอักษรสีเขียวจะเป็นรถกระบะ แน่นอนว่าวัตถุประสงค์ของการใช้รถจะต้องเป็นการใช้งานส่วนตัวเท่านั้น ไม่สามารถนำมารับจ้างขับรถรับส่งได้
-
รถป้ายเหลือง
ป้ายทะเบียนสีเหลืองสำหรับผู้ที่ขับรถรับจ้าง ไม่ว่าจะเป็น รถแท็กซี่ , รถจักรยานยนต์ , รถประจำทาง และ รถรับจ้างประเภทอื่น ๆ ซึ่งจะต้องทำการยื่นจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเสียก่อน ถึงจะสามารถนำเอารถมาใช้เพื่อการรับจ้างได้ และเมื่อช่วงปี 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา หลาย ๆ แอปพลิเคชันก็ได้ออกกฎ ให้รถทุกคันที่นำมาใช้รับส่งผู้โดยสาร จะต้องมีการขึ้นทะเบียนเป็นรถป้ายเหลืองทั้งหมด
ใช้รถป้ายขาวเพื่อการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันผิดกฎหมายไหม ?
ตามที่เรากล่าวถึงไปเมื่อหัวข้อก่อนหน้านี้ ว่าการที่จะขับรถรับจ้างจำเป็นจะต้องใช้ “รถป้ายเหลือง” เท่านั้น ไม่มีข้อยกเว้นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันใดก็ตาม ในช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งมีแอปพลิเคชันเหล่านี้ ก็มีการนำเอารถป้ายขาวมาใช้บริการ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่สร้างข้อถกเถียงมากมายในสังคม ในช่วงแรก ๆ ก็มีการอนุโลมจากกรมการขนส่งทางบก ให้ยังสามารถใช้รถป้ายขาวรับจ้างได้ เพื่อรอแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ให้เป็นไปตามกฎหมายจราจรเดิมที่มีอยู่
จนมาถึงช่วงกลางปี 2565 ก็ได้มีการสั่งการอย่างชัดเจน จากกรมการขนส่งทางบก ถึงรถยนต์ที่นำมาใช้เพื่อรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน จะต้องเป็นรถป้ายเหลืองเท่านั้น หรือ ใช้เป็นการจดทะเบียนเป็น “รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถเป็นป้ายทะเบียนสีเหลือง แต่จะต้องมีการติดสติกเกอร์เป็นสัญลักษณ์อย่างชัดเจน และในส่วนของการขออนุญาต ก็มีขั้นตอนไม่ได้แตกต่างจากการจดทะเบียนป้ายเหลืองสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น ขอเอกสารความเห็นชอบ , ตรวจสภาพรถ และ ยื่นเอกสารขออนุญาต เป็นต้น
ประกันภัยรถจะให้ความคุ้มครองหรือไม่ ? ถ้านำรถส่วนบุคคลมาใช้เพื่อรับจ้างผ่านแอป
ตามข้อกฎหมายที่มีการกำหนดอย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถยนต์ส่วนบุคคล หรือ รถป้ายขาว ไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการรับส่งผู้โดยสาร ผ่านแอปพลิเคชันไม่ว่าจะกรณีใดทั้งสิ้น ยกเว้นเสียจากมีการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะฉะนั้นการฝ่าฝืนจะถูกมองว่าเป็นการ “ใช้รถผิดประเภท” ในทันที
หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น แล้วบริษัทประกันพิสูจน์ได้ว่าในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ มีการนำรถมาใช้รับส่งผู้โดยสาร ซึ่งผิดจากข้อตกลง ประกันภัยรถยนต์จะไม่ให้ความคุ้มครองกับตัวคนขับและตัวรถ ส่วนผู้โดยสาร รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะมีการดูแลคุ้มครองตามปกติ
ใช้รถเพื่อรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ซื้อประกันภัยรถอย่างไรดี ?
ในช่วงท้ายนี้ ถ้าคุณมั่นใจแล้วว่าอยากจะนำเอารถป้ายขาวที่มีอยู่ ไปใช้เพื่อรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน เราได้มีแนวทางการจดทะเบียนให้ถูกต้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะต้องใช้กับแอปพลิเคชันที่กรมการขนส่งทางบกรับรองเท่านั้น เช่น Grab , Asia Cab และ Bolt เป็นต้น ส่วนมากแล้วแอปพลิเคชันเหล่านี้ ก็จะมีประกันอุบัติเหตุ และ ประกันภัยรถยนต์ ไว้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ก็สามารถซื้อประกันรถยนต์ได้ หากทำตามแนวทางดังต่อไปนี้
- แจ้งกับบริษัทประกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าจะนำรถไปใช้เพื่อรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน หากมีการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โอกาสอนุมัติค่อนข้างสูงมาก แต่เบี้ยประกันจะแพงกว่าปกติ
- เลือกชั้นของประกันให้เหมาะสม เพราะความคุ้มครองจะได้ครอบคลุมมากที่สุด ถ้ายังเป็นรถใหม่แนะนำเลยว่าประกันชั้น 1 คุ้มที่สุด ถ้าลดใช้งานมาพอสมควร ก็ลดเป็นประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ ตามสมควร
- แม้จะมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจอยู่แล้ว ก็ไม่ควรหลงลืมการต่อ พรบ. ซึ่งเป็นประกันภัยภาคบังคับโดยเด็ดขาด เพราะนี่เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองคุณในทุก ๆ กรณี ถึงจะนำรถมารับจ้างก็ตาม
บทส่งท้าย
สรุปอีกสักครั้ง ประกันภัยรถจะไม่ให้ความคุ้มครอง หากคุณนำรถไปใช้รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน นอกเสียจากมีการแจ้งกับบริษัทประกันตั้งแต่ต้น ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ เราเข้าใจว่าหลายคนอยากจะมีรายได้เสริม แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การจะนำรถไปใช้เพื่อการพาณิชย์ จำเป็นจะต้องขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อน