ถ้าเกิดรถชนแล้วเป็นฝ่ายผิด ประกันรถยนต์ชั้น 1 เคลมได้ไหม
เรากล่าวเอาไว้เสมอว่า “ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ” แต่ชีวิตของเราไม่สามารถคาดเดาอะไรล่วงหน้าได้ สิ่งไม่คาดฝันมักจะโผล่มาเซอร์ไพรส์คุณได้อยู่เสมอ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และสามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าคุณเป็น “ฝ่ายผิด” คุณน่าจะกำลังสงสัยว่า จะมีประกันภัยที่คุ้มครองหรือไม่ ? ถ้าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะสามารถเคลมได้ไหม ? แน่นอนว่าทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ สามารถหาคำตอบได้ที่ SILKSPAN มาดูกันเลยว่าจะมีเนื้อหาน่าสนใจแค่ไหนรอคุณอยู่
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นฝ่ายผิด
ในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุ แน่นอนว่าถ้าคุณได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เงื่อนไขที่ว่า “คุ้มครองทุกกรณี” จะทำงานในทันที ไม่ว่าจะเป็น ความเสียหายของคุณ ความเสียหายของคู่กรณี และ ความเสียหายของบุคคลที่สาม รวมถึงค่ารักษาก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด ถึงจะดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบอะไร ทว่าความเป็นจริงแล้วการเคลมในฐานะฝ่ายผิด มีข้อเสียอีกหลายอย่างรอคุณอยู่ อาทิเช่น
- ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก เมื่อต้องการจะเคลมประกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณระบุเอาไว้ในสัญญาประกันชั้น 1 ถ้าไม่ระบุเอาไว้จะทำให้เบี้ยประกันในปีถัดไปแพง เนื่องจากอาจมีการปรับเพิ่มทุนประกัน เนื่องจากทางบริษัทประกันอาจมีความเห็นว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
- ประวัติเสีย ถ้าเคลมในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด ส่งผลให้ต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นในปีถัดไป และอาจไม่มีสิทธิ์ใช้ส่วนลดผู้ขับขี่ประวัติดี ซึ่งอาจเป็นส่วนลดเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 50%
- มีโทษทางกฎหมาย หากเป็นกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก หรือ ถึงขั้นเสียชีวิต ถึงคุณจะได้รับการประกันจากบริษัทประกัน สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องสู้คดีด้วยตนเอง หากผิดจริงก็ต้องได้รับโทษตามความผิดนั้น ๆ
จะรู้ได้อย่างไร ? ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ใครเป็น “ฝ่ายผิด” และ “ฝ่ายถูก”
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณอย่าเพิ่งทำอะไรเลย นอกจากการ “ตั้งสติ” พยายามวิเคราะห์สถานการณ์ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในกรณีที่ผิดโดยที่รู้อยู่แก่ใจ ก็สามารถแจ้งกับคู่กรณีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ก็จะช่วยทำให้ปัญหาข้อพิพาทลดน้อยลง แต่ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าตนเองผิดหรือไม่ อย่าเพิ่งขยับรถจนกว่าบริษัทประกันภัยจะมา จากนั้นค่อยปรึกษาหาทางออกร่วมกัน ถ้ายังตกลงกันไม่ได้อีกจะต้องถึงมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะมาไต่สวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรูปคดีที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวตัดสินว่า ใครผิด ใครถูก หรือ ประมาทร่วม กันแน่
ประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนบ้าง ? ที่ยังสามารถเคลมได้ แม้จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ?
แน่นอนว่าประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองในทุกกรณี สามารถเคลมได้อย่างแน่นอน แม้จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ซึ่งที่จริงแล้วประกันทุกชั้น ก็ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผิดเช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความคุ้มครองที่จะได้รับ ในกรณีนี้เราจะถือว่าเป็น “อุบัติเหตุที่มีคู่กรณี” มาดูกันเลยว่าความคุ้มครองของประกันแต่ละชั้น เมื่อตกเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ จะแตกต่างกันอย่างไร
- ประกันชั้น 1 , ประกันชั้น 2+ และ ประกันชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองอย่างเต็มรูปแบบ ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชย ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุบัติเหตุทั้งหมด
- ประกันชั้น 2 และ ประกันชั้น 3 ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมค่าเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี และ บุคคลที่สาม แต่จะไม่ได้รับค่าเสียหายที่เกิดกับตัวรถของผู้เอาประกัน
จะทำอย่างไรดี ? หากเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นฝ่ายผิด
ในกรณีที่ดูแล้วว่ายังไงตนเองก็เป็นฝ่ายผิด ให้พูดคุยกับคู่กรณีอย่างละมุนละม่อม พร้อมแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นก็โทรแจ้งกับบริษัทประกันภัยให้มายังที่เกิดเหตุ ในกรณีที่สามารถตกลงกันได้ สามารถถ่ายรูปที่เกิดเหตุเอาไว้ และขยับรถให้ไม่ให้กีดขวางการจราจรได้ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นการเจรจากันของบริษัทประกันภัยทั้ง 2 ฝ่าย ที่สำคัญคืออย่าลืมคำว่า “ขอโทษ” เป็นอันขาด ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงถึงขั้นบาดเจ็บหนัก หรือถึงแก่ชีวิต สิ่งแรกคือต้องโทรคือ เบอร์ฉุกเฉินเพื่อแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย และ รีบติดต่อบริษัทประกันโดยเร็ว
ประมาทร่วมคืออะไร ? ใครจะเป็นฝ่าย ได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบ ในกรณีนี้
อุบัติเหตุบนท้องถนนมีนอกจากมีเคสที่เป็น ถูก และ ผิด ก็ยังมีอีกหนึ่งเคสที่พบได้บ่อยคือ ผิด และ ผิด โดยจะถูกเรียกว่า “ประมาทร่วม” กรณีนี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากความยินยอมของทั้งคู่กรณี 2 ฝ่าย หรือ เกิดจากการตัดสินของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุดท้ายแล้วก็จะมีการรับผิดชอบร่วมกัน ความคุ้มครองของประกันก็ยังจะได้รับเช่นเดิม หากถามว่าใครจะเป็นผู้ได้เปรียบเสียเปรียบในกรณีนี้ ? แน่นอนว่า มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีใครได้เปรียบ เพราะบริษัทประกันจะมองว่าทั้งคู่เป็นฝ่ายผิด หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ ก็มีโอกาสจะต้องเสียเบี้ยแพงกว่าเดิมในปีถัดไป ดังนั้นการขับขี่โดยไม่ประมาท และ ปฏิบัติตามกฎจราจร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราเน้นย้ำมาเสมอ
เผยเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่ถือครองประกันรถยนต์ ได้เปรียบเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด แต่ถ้าคุณไม่ทำประกันภัยภาคสมัครใจเอาไว้ คุณก็มีความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับเรื่องราวชวนปวดหัวตามมา หลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้น เพื่อให้คุณเห็นคุณค่าของประกันภัยภาคสมัครใจ เราขอนำเสนอเคสตัวอย่างที่พบได้บ่อย ดังนี้
- ชนกับคู่กรณีที่มีประกัน แล้วตนเองเป็นฝ่ายถูก แม้คุณจะมีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันของคู่กรณี แต่ถึงอย่างไรคุณก็ต้องดำเนินการนำใบเคลมประกัน ไปเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น กับบริษัทประกันภัยของคู่กรณีด้วยตนเองอยู่ดี
- ชนกับคู่กรณีที่มีประกัน แล้วตนเองเป็นฝ่ายผิด ในกรณีนี้บริษัทประกันของคู่กรณี จะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากคู่กรณีทำประกันชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองสูง ๆ รับรองเลยว่า คุณจะต้องเผชิญค่าเสียหายก้อนใหญ่อย่างแน่นอน
- ชนกับคู่กรณีที่ไม่มีประกันเหมือนกัน กรณีนี้จะต้องตกลงค่าเสียหายกันให้ลงตัว ค่อนข้างจะเป็นเรื่องชวนปวดหัว ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันมานักต่อนักแล้ว เพราะนอกจากจะตัดสินว่าใครถูกใครผิดหรือประมาทร่วม ยังมีเรื่องของจำนวนเงินค่าเสียหายเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
บทส่งท้าย
เห็นแล้วใช่ไหมว่า “ประกันภาคสมัครใจ” มีประโยชน์มากเพียงใด แม้คุณจะเป็นฝ่ายผิดก็ยังได้รับความคุ้มครอง และ น่าจะรู้แล้วว่าเมื่อไม่ได้ทำประกันติดรถเอาไว้ มีเรื่องยุ่งยากมากแค่ไหนที่รอคุณอยู่ ถ้าตอนนี้คุณยังไม่มีประกันรถยนต์ หรือ กำลังมองหาประกันรถยนต์ดี ๆ SILKSPAN พร้อมมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับคุณ ที่นี่ได้รวบรวมประกันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 , ชั้น 2+ , ชั้น 3+ , ชั้น 2 และ ชั้น 3 จากบริษัทประกันภัยชั้นนำ ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถผ่อนค่าเบี้ยประกันได้