ทำไมก่อนทำประกันรถ ถึงต้องเปรียบเทียบประกันรถยนต์เสียก่อน
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ มักจะมาพร้อมความหนักอกหนักใจ เพราะบริษัทประกันภัยทุกวันนี้มีให้บริการอยู่เยอะมาก ๆ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าประกันภัยตัวไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ? นั่นคือสาเหตุที่เราควร “เปรียบเทียบประกันรถยนต์” ก่อนจะตัดสินใจซื้ออยู่เสมอ ทว่าหลาย ๆ คนอาจมองว่านี่คือสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้เสียเวลา และ คิดว่าประกันที่ไหนก็เหมือน ๆ กันหมด บทความนี้เราจะมาอธิบายถึงข้อดีของการเปรียบเทียบประกันภัยก่อนซื้อ พร้อมเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องเปรียบเทียบทุกครั้ง
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ทำอย่างไร ได้ประโยชน์จริงเหรอ ?
การเปรียบเทียบประกันรถยนต์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราเลือกซื้อของใช้ทั่วไป เราแค่นำสิ่งของที่เหมือน ๆ กันมาเทียบกัน ดึงเอาจุดเด่น จุดด้อย ราคา และ ความเหมาะสม มาใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อมองหา “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับตนเอง แน่นอนว่าแต่ละคน ก็จะมีความต้องการที่ต่างกันออกไป สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนอื่น อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะฉะนั้นแล้ว คนที่จะเลือกประกันภัยที่ดีที่สุดให้กับคุณ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก “ตัวคุณเอง” นั่นเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ควรเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์อย่างถี่ถ้วนทุกครั้งก่อนซื้อ
จริงหรือไม่ ? การเปรียบเทียบประกันรถยนต์ ช่วยให้ได้เบี้ยประกันที่ถูกลง
จริงแท้แน่นอน !! เพราะการเปรียบเทียบประกันภัย ทำให้คุณได้เห็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทประกันภัยหลาย ๆ แหล่ง เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบแล้วคุณก็สามารถ มองหาข้อเสนอที่ให้เบี้ยประกันที่คุ้มค่ากับตัวคุณมากที่สุด ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้พอสมควรเลยทีเดียว การซื้อประกันภัยรถยนต์ ไม่จำเป็นจะต้องซื้อกรมธรรม์ที่แพงที่สุด แต่ให้เลือกที่ความคุ้มครองตอบโจทย์มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ช่วยให้เปรียบเทียบข้อมูล ของประกันภัยรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย เพียงกรอกข้อมูลไม่กี่อย่างเท่านั้น
3 ประโยชน์ที่จะได้รับ หากคุณเปรียบเทียบประกันภัยก่อนตัดสินใจซื้อ
แน่นอนว่าประโยชน์หลัก ๆ ของการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ มักจะเป็นเรื่องของ “เบี้ยประกัน” ที่เราได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนหน้า ทว่าที่จริงแล้วยังมีประโยชน์ที่คุณจะได้รับอีกมากมาย สำหรับการเปรียบเทียบประกันภัยก่อนจะตัดสินใจซื้อ ซึ่งสามารถยกตัวอย่างได้ 3 ข้อดังต่อไปนี้
1.ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ในเบี้ยประกันที่ตรงใจ
เบี้ยประกันไม่สามารถระบุได้เป็นตัวเลขกลม ๆ เพราะจะต้องพิจารณาจากหลาย ๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็น รุ่นรถยนต์ , อายุผู้ขับขี่ , ฐานเบี้ยประกัน , ค่าเสียหายส่วนแรก และ ความคุ้มครอง นั่นทำให้การเปรียบเทียบราคาประกันภัย รถยนต์ ไม่ว่าจะ ชั้น 1 หรือ ชั้นไหน ๆ ต่างก็สำคัญมากที่สุด เนื่องจากช่วยให้ได้มองหาความคุ้มครอง ที่ตอบโจทย์การใช้รถของคุณได้มากที่สุด ในราคาเบี้ยประกันที่รับไหว เปรียบเสมือนกับการวางแผนการลงทุนอย่างชาญฉลาด ซึ่งมีระยะเวลาการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1 ปี ตลอดสัญญาประกันภัยที่คุณตัดสินใจเลือกซื้อ
2.เป็นการทำความเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
สำหรับการเทียบราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 นอกจากทำให้คุณได้เห็นจำนวนของเบี้ยประกันที่จะต้องเสีย สิ่งที่คุณจะได้เห็นในเวลาเดียวกันคือ ความคุ้มครอง และ เงื่อนไข ของกรมธรรม์ที่คุณสนใจ จุดนี้ก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง ก็จะแตกต่างกันออกไป ทางที่ดีควรจะศึกษาให้ลึกซึ้งมากที่สุด เพื่อป้องกันความเสียเปรียบที่อาจเกิดขึ้น อย่างที่เราเคยเห็นกันบ่อย ๆ ในข่าว ในเวลาเดียวกันก็ช่วยทำให้เลือกซื้อประกันได้ง่ายขึ้น จากการมองหาบริษัทประกัน ที่มอบเงื่อนไขที่เอื้อผลประโยชน์ต่อคุณมากที่สุด
3.สิทธิพิเศษจากการซื้อประกันจากบริษัทที่ดีที่สุด
สิ่งสุดท้ายที่สามารถคาดหวังได้ จากการเปรียบเทียบประกันรถยนต์คือ ส่วนลด โปรโมชั่น และ ของแถมต่าง ๆ การลดแลกแจกแถมมีอยู่ในสินค้าทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่ประกันภัยก็เช่นเดียวกัน ส่วนมากจะในรูปแบบ ส่วนลดลูกค้าใหม่ , ส่วนลดผู้ขับขี่ประวัติดี หรือ บริการรถลากให้ใช้บริการฟรี เป็นต้น แม้จะดูเหมือนบริการที่อาจไม่ได้สลักสำคัญสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ในกรณีที่ลังเล ว่าจะเลือกข้อเสนอไหนดี อาจมีเบี้ยประกัน และ ความคุ้มครองที่คล้ายกันเป็นอย่างมาก หากบริษัทไหนมีสิทธิพิเศษดี ๆ ยื่นให้ ก็จะคุ้มค่ามากกว่า
สิ่งที่คุณควรมองหา ระหว่างการเปรียบเทียบประกันรถยนต์
การเปรียบเทียบราคาไม่ใช่แค่ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น แม้จะเป็นประกันชั้นอื่น ๆ ก็ต้องมองหาข้อเสนอที่ดีที่สุดอยู่เสมอ แต่ละรู้ได้อย่างไรว่าประกันที่กำลังมองหา ข้อเสนอรูปแบบไหนเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด เราอยากให้ประเมินจากปัจจัยเหล่านี้เสียก่อน ถึงค่อยเปรียบเทียบในส่วนเบี้ยประกันเป็นส่วนสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น
- ทุนประกัน ยิ่งมีตัวเลขที่สูงเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ก็จะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้นไปด้วย ถ้าเป็นรถรุ่นใหม่ควรมองหาทุนประกันสูง ๆ เอาไว้จะดีที่สุด
- ความคุ้มครอง มองหาความคุ้มครองที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้รถ รวมถึงความคุ้มครองพิเศษ เช่น ประกันรถหาย , ภัยพิบัติ , ไฟไหม้ หรือ น้ำท่วม เป็นต้น
- ศูนย์ซ่อมที่ให้บริการ ควรเลือกประกันภัยที่มีศูนย์ซ่อมอยู่ในพื้นที่การใช้งานรถของคุณให้มากที่สุด หรือ มีศูนย์ซ่อมที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
- ชื่อเสียงของบริษัทประกันภัย สามารถใช้ชื่อเสียงของบริษัทประกันภัย มาใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกรมธรรม์ รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ถึงเรื่องของการคุ้มครอง การดูแล และ การให้บริการ
- บริการเสริมที่ได้รับ บริษัทประกันภัยบางแห่ง จะมอบบริการเสริมให้กับลูกค้า เช่น บริการรถยก , บริการรถให้ยืมระหว่างรอเคลม หรือ บริการประกันตัวผู้ขับขี่ เป็นต้น
บทส่งท้าย
ที่สำคัญที่สุดของการเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ คือข้อมูลที่คุณหามาได้จะต้องน่าเชื่อถือ ทว่าการที่จะสอบถามบริษัทประกันภัยรถยนต์ หรือ อาจเป็นการพูดคุยกับตัวแทนประกันภัยรถยนต์ ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรเลยทีเดียว กว่าจะเจอกับประกันภัยที่ตอบโจทย์จริง ๆ บางครั้งบางที การหาข้อมูลด้วยตนเอง อาจจะทำให้คุณได้เห็นตัวเลือกที่น้อยเกินไป จนอาจทำให้พลาดข้อเสนอดี ๆ ไปก็เป็นได้
จะดีกว่าไหม ? หากคุณให้ SILKSPAN ช่วยให้ในส่วนของการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ เนื่องจากเราเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 30 แห่ง ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบข้อมูลทั้ง เบี้ยประกัน และ ความคุ้มครอง ได้ในคลิกเดียว พร้อมบริการซื้อประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ และที่ขาดไปไม่ได้คือบริการผ่อน 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต