เคลือบกระจกให้ใสน้ำไม่เกาะ ทำเองได้ง่ายๆ
หน้าฝนแบบนี้ หากล้างรถล้างกระจกไม่ดี เวลาฝนตกมาทีก็ทำเอากระจกมัว มองเห็นลำบาก บางคนเลยคิดว่าจะเคลือบกระจก น้ำและฝุ่นจะได้ไม่เกาะ ซึ่งการเคลือบกระจกไม่จำเป็นต้องไปให้คาร์แคร์ทำให้เปลืองเงิน คุณเองก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ
หลังจากเลือกน้ำยาเคลือบกระจกรถที่ถูกใจได้แล้ว ก็เริ่มลงมือได้เลย
- ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น
- ล้างกระจกให้สะอาด
- ลองใช้มือลูบให้ทั่วบานกระจกเพื่อดูว่ามีตรงไหนที่ยังมีคราบติดอยู่อีกบ้าง หากกระจกยังไม่เรียบเสมอกัน ควรล้างคราบต่างๆ ออกให้หมดเพื่อไม่ให้เกิดอาการที่ปัดน้ำฝนกระโดด
- เช็ดกระจกให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
- หากกลัวว่าน้ำยาเคลือบจะไปโดนขอบยางต่างๆ ให้เอาเทปกาวสำหรับทำสีรถมาติดกันไว้
- เทน้ำยาเคลือบลงบนผ้า หรือฟองน้ำ แล้วถูเป็นวงเล็กๆ ไล่ไปเรื่อยๆ จากบนลงล่าง สามารถทำ 2 รอบก็ได้เพื่อให้เคลือบได้ดีขึ้น
- รอให้น้ำยาเคลือบขึ้นฝ้า หรือทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง หรือผ้าขนนุ่มแห้งมาเช็ดคราบน้ำยาออกจนกระจกใส
อายุการเคลือบกระจกแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นตัวน้ำยาเอง เจอฝนบ่อยแต่ไหน เจอฝนแรงหรือไม่ ดังนั้นเจ้าของรถจะต้องลองสังเกตเอาว่ายี่ห้อที่ใช้สามารถอยู่ได้นานสุดกี่วันโดยดูว่าน้ำเริ่มเกาะกระจกแล้วหรือยัง
นอกจากน้ำและฝุ่นจะไม่เกาะกระจกแล้ว ข้อดีของการเคลือบกระจกรถคือ ทำให้ทัศนวิสัยขณะขับขี่ดีขึ้น มองเห็นได้ชัดเจน ช่วยป้องกันฝนกรด คราบหินปูนที่เป็นตัวกัดกร่อนเนื้อกระจก ป้องกันคราบฝังลึกจากมูลสัตว์ บางยี่ห้อก็ป้องกันการเกิดฝ้ามัวได้ด้วย
นอกจากนี้เพื่อให้กระจกลื่น ไม่มีสะดุด คุณควรเช็กยางปัดน้ำฝนด้วยว่ายังอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ เช็ดทำความสะอาดฝุ่นและคราบต่างๆ ออกจากยางปัดน้ำฝนเพื่อไม่ให้เกิดอาการที่ปัดน้ำฝนกระโดด