สัญลักษณ์บนบัตรเครดิตคืออะไร?
สำหรับผู้ที่ใช้งานบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต เคยสงสัยสัญลัษณ์บนบัตรเหล่านี้หรือไม่ว่าคือสัญลักษณ์อะไร มีความสำคัญแบบไหน ใช้อะไรได้บ้าง ลองมาดูข้อมูลไว้เผื่อวางแผนในการทำบัตรเครดิตให้ตอบโจทย์การใช้งานของเรากัน
เครือข่ายการชำระเงินบัตรเครดิต
หรือเรียกว่า Payment Gateway เปรียบเสมือนผู้ให้บริการเครือข่ายสมาชิก เป็นตัวกลางในการชำระเงินระหว่างร้านค้า และสถาบันทางการเงิน ซึ่งการที่เราถือบัตรที่มีสัญลักษณ์นั้นๆ ก็สามารถใช้บัตรเครดิตชำระที่ร้านที่สัญลักษณ์นั้นๆ รับรอง ซึ่งในแต่ตัวก็มีรูปแบบและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน
*การใช้งานบัตรเครดิตควร “ใช้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้เต็มจํานวนตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี”
เงื่อนไขและการพิจารณาอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
VISA
ผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีทั้งในบัตรเครดิตและเดบิต ได้รับการยอมรับในระดับสากล สามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุมทั่วโลก ทั้งร้านค้าและบริการต่างๆ รวมไปถึงตู้เอทีเอ็มที่มีรองรับกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
MASTERCARD
เป็นหนึ่งผู้บริการที่ได้รับความนิยมในระดับสากลที่มาจากเครือข่ายจากประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นกัน สามารถใช้จ่ายและใช้งานได้เช่นเดียวกับ VISA ที่สำคัญทาง MASTERCARD มีการรองรับร้านค้าและตู้เอ็มทีเอ็มที่กว่า VISA อีกด้วย
JCB
เป็นบัตรเครดิตที่มีผู้ให้บริการเครือข่ายจากประเทศญี่ปุ่นที่กำลังได้ความสนใจเป็นอย่างมาก ร้านค้าในปัจจุบันหลายๆ ร้านก็สามารถใช้บัตรเครดิตของ JCB ชำระค่าสินค้าและบริการได้แล้ว นอกจากจากนี้ความพิเศษของ JCB คือ สิทธิพิเศษในการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน เลาจ์พิเศษ หรือที่พักโรงแรมที่มีเฉพาะผู้ที่ถือบัตรโดยเฉพาะ
UNIONPAY
ผู้ให้บริการจากประเทศจีน UNIONPAY ไม่ได้ใช้ได้แค่ในประเทศจีนเท่านั้น ยังสามารถใช้ได้ในฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และในไทยเอง แถมมีเครือข่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก สามารถใช้ชำระกับร้านค้าและบริการที่มีสัญลักษณ์ได้เหมือนบัตรอื่นๆ และมาพร้อมระบบการรักษาความปลอดภัยด้วย PIN 6 หลักทุกครั้งที่ทำรายการ
เพียงเท่านี้ก็เป็นเฉลยข้อสงสัยที่ใครหลายๆ คนอยากทราบกัน หลังจากนี้หากต้องการสมัครบัตรเครดิตก็สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้กับตัวเราได้ แต่ก็อย่าลืมวางแผนการใช้งานบัตรเครดิตให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของตัวเราด้วย